บิดเบือน-บ่อนเซาะไม่เลิก!! ชาวเน็ตฮือต้านหนัก BBC ตัดต่อวิดีโอเที่ยวไทยสุดบิดเบือน หลัง"ในหลวง ร.9" เสด็จสวรรคต

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

 

รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยเข้าไปกระหน่ำ "บีบีซี ทรี" หลังตัดต่อวิดีโอเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ หลัง "ในหลวง ร.9" เสด็จสวรรคตโดยยืนยันว่า BBC นำเสนอข้อมูลหลอกลวงและไม่ถูกต้อง กระทั่งสำนักข่าวดังกล่าวฯ ทนเสียงวิจารณ์ไม่ไหว ลบวิดีโอออกจากหน้าเพจข่าวแล้ว
      

      

วันนี้ (20 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า ในวิดีโอความยาวเกือบ 2 นาที ซึ่งมีเป้าหมายแนะนำนักท่องเที่ยวถึงแนวทางประพฤติตัวอย่างเหมาะสม ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเศร้าโศกต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างไรก็ตาม มันถูกถอดพ้นหน้าเฟซบุ๊กบีบีซีนิวส์ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
      
      
เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์รายงานอ้างสื่อมวลชนท้องถิ่นระบุว่า เหล่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องของวิดีโอสั้นๆ ดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า “Off to Thailand? It won’t be what you expect” ที่ให้ภาพมืดมัวแก่ประเทศ ซึ่งเป็นที่นิยมด้านแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนและปาร์ตี้ริมชายหาด เช่นเดียวกับสถานที่ดึงดูดใจอื่นๆ
      
      

รัฐบาลไทยกำหนดช่วงเวลาไว้ทุกข์สำหรับภาครัฐเป็นเวลา 1 ปี เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์อ้างผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ของไทยระบุว่า คำแนะนำที่อยู่ในวิดีโอตัดต่อของบีบีซีอาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสับสนและไม่มาเยือนไทย ขณะที่ประเทศแห่งนี้ต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว
      
      

เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์ ยังระบุด้วยว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คือ แม้ประเทศตกอยู่ในความโศกเศร้า แต่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ตลาดหลักทรัพย์และธุรกิจต่างๆ ยังคงเปิดบริการตามปกติ ตามหลังวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศดำดิ่งไปมากกว่านี้
      
      
เบื้องต้นพบว่าวิดีโอดังกล่าวถูกอัปโหลดขึ้นหน้าเพจเฟซบุ๊กของบีบีซี ทรี ในวันที่ 14 ตุลาคม และมีผู้เข้าชมมากกว่า 2.3 ล้านครั้ง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวแห่งนี้ได้ลบวิดีโอนี้ออกไปในวันจันทร์ (17 ต.ค.) โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์เชื่อว่าคงเป็นเพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนคนไทยนั่นเอง
      
      

ในฉากหลังที่เป็นพื้นที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้บนเกาะพะงัน วิดีโอดังกลาวเริ่มต้นด้วยคำพูดว่าที่ “ประเทศไทยเคยเป็นที่ที่สนุก แต่หากคุณต้องการไปละก็ บางทีมันอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิด”
      
      

โดยเนื้อหาวิดีโอดังกล่าวบ่งชี้ว่า การออกไปเที่ยวตอนกลางคืนอาจเป็นเรื่องยากลำบาก เนื่องจากประเทศอยู่ในช่วงเวลาแห่งการไว้อาลัย โดยมีการจำกัดการเข้าถึงบาร์ ร้านอาหาร และแหล่งชอปปิ้งต่างๆ พร้อมระบุว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หาซื้อได้ยาก และนักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้ดูรายการทีวีช่องต่างประเทศ
      
      

อย่างไรก็ตาม เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์อ้างข้อมูลจากผู้ใช้สื่อออนไลน์ของไทย รวมถึงคำสัมภาษณ์ของชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว บอกว่า แท้จริงแล้วสถานการณ์ไม่ได้เป็นแบบนั้น
      
      
เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์อ้างคำสัมภาษณ์ของ มาร์ค คันดัลล์ ซึ่งพำนักอยู่ในภูเก็ต เล่าว่า “ตอนนี้ 7-11 กลับมาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว และบาร์ต่างๆ ก็สามารถเปิดบริการได้ตลอดเวลา มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิดหรอก แม้ฮาร์ฟมูนและฟูลมูนปาร์ตี้ได้ถูกยกเลิก แต่โรงแรมและบาร์ก็ยังเปิดและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเล่นดนตรี เพียงแต่มีการลดความรื่นเริงลงเท่านั้น”
      
      
ประเทศไทยยังเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงระหว่างการไว้ทุกข์ แต่ขณะเดียวกันก็ได้ออกคำแนะนำถึงนักท่องเที่ยวให้ใส่ใจเกี่ยวกับการแต่งตัวและแสดงพฤติกรรมอย่างเหมาะสม เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์รายงาน
      
      
โดยคำแนะนำที่โพสต์บนเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ยังเปิดบริการตามปกติ ยกเว้นวัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวัง พร้อมระบุว่า นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามอย่างคนไทยในการแต่งชุดสีดำหรือสีขาว หรือติดสัญลักษณ์แห่งการไว้ทุกข์ แต่แนะนำให้พยายามสวมเสื้อผ้าสีเข้มที่แสดงถึงความเคารพ “นักท่องเที่ยวควรละเว้นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่เคารพ”
      
      

คำแนะนำยังแจ้งถึงนักท่องเที่ยวด้วยว่า รัฐบาลทหารของไทยได้ขอความร่วมมือจากสถานบันเทิง อย่างบาร์ และไนต์คลับ ให้พิจารณาความเหมาะสมสำหรับเปิดกิจการในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยกให้เป็นการพิจารณาโดยผู้บริหารของสถานบันเทิงแต่ละแห่งเอง ซึ่งนั่นหมายความว่า สถานบันเทิงมากมายในไทยอาจเลือกปิดบริการเป็นเวลานานพอสมควรในช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา

 

ขอบคุณข้อมูล : MANAGER