ถลกจนล่อนจ้อน!!! "ยะใส" ปอกเปลือก"เพื่อแม้ว" อย่าแกล้งโง่ข้าวราคาตก เพราะ"จำนำข้าว" ทำล้นตลาด-ทุกอย่างพัง ดังนั้น อย่าดราม่าเยอะ?!

 

ให้ภาพชัดมาก! "สุริยะใส กตะศิลา" รองคณบดีจากม.รังสิต  ฉะ "เพื่อแม้ว" อย่าแกล้งโง่ข้าวราคาตก เพราะ"จำนำข้าว" ทำข้าวล้นตลาด ขายไม่ออกจนเน่าคาโกดังอยู่ ดังนั้น อย่าดราม่าเยอะ แนะรัฐบาลปฎิรูปข้าวทั้งระบบ และต้องรู้ทันขบวนการบิดเบือนในหมู่ชาวนา ที่หวังผลทางการเมือง

 

วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีข้าวราคาตก ที่กำลังกลายเป็นปัญหาการเมืองวานนี้ว่า ปัญหาราคาข้าวตกต่ำกำลังไต่ระดับเป็นปัญหาชาวนากับรัฐบาล เพราะเริ่มมีกลุ่มการเมืองเอาไปขยายผลจนอาจขยายวงกว้างบานปลายได้เช่นกัน จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุก นอกจากการวางมาตรการเยียวยาเฉพาะหน้าอย่างเข้าถึง และทันท่วงทีแล้ว ยังต้องจับตาขบวนการปล่อยข่าวบิดเบือนในหมู่ชาวนาที่มีเครือข่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง เราห้ามคนพวกนี้ไม่ได้เพราะเป็นกลุ่มคนที่หาประโยชน์ทางการเมืองจากชาวนามาตลอด จึงเป็นหน้าที่ที่สังคมต้องช่วยกันเปิดโปงตีแผ่ และประณามคล้าย ๆ กับบทเรียนกรณีจำนำข้าวที่สังคมช่วยกันเปิดโปงมาแล้ว

รองคณบดีจากม.รังสิต ยังกล่าวด้วยว่า ราคาข้าวตกต่ำช่วงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากข้าวล้นสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดจากรัฐบาลเก่ายังขายไม่ออก ทำให้ข้าวล้นตลาด คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ อย่าตัดตอนปัญหาหรือดราม่าจนเกินงาม

"รัฐบาลควรแปรวิกฤติเป็นโอกาสทำแผนปฏิรูประบบข้าวและภาคการเกษตรทั้งระบบครบวงจร ไม่เช่นนั้นเรื่องข้าวและปัญหาชาวนาจะถูกนำไปใช้ชิงความได้เปรียบทางการเมืองตลอดเวลา ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุและชาวนาก็ไม่ได้หลุดพ้นจากความยากจนเสียที"นายสุริยะใส รัฐบาลกำลังจะเขียนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เรื่องข้าวและอนาคตของชาวนาภาคการเกษตรควรเป็นเรื่องสำคัญและเรื่องใหญ่ที่สุดของแผนยุทธศาสตร์ชาติ" รองคณบดีจาก ม.รังสิต กล่าว

 

นายสุริยะใส ยังระบุด้วยว่า วิกฤติครั้งนี้รัฐบาลต้องลงมือปฎิรูปวางแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวระดมความเห็นทุกภาคส่วน บางมาตรการอาจไม่ถูกใจชาวนาในระยะสั้นแต่สามารถช่วยชาวนาในระยะยาวได้ก็ต้องกล้าทำ ยิ่งเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองไม่หวังคะแนนนิยมวูบวาบยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะปฎิรูปกันได้ทั้งระบบ