ฉาวโฉ่อีกจนได้!!! พบเบาะแส "ฝ่ายสืบสวนกกต." อมเงิน 2 ล้าน ผิดจริงฟันถึงรองเลขาฯ แน่

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ฉาวโฉ่อีกจนได้!! "สมชัย" เผยมติ กกต.ให้แจ้งความเอาผิดรองเลขาฯ กกต. งุบงิบเบี้ยประชุมเข้ากระเป๋าตัวเอง ด้าน "บุญส่ง" อยู่ขั้นสอบสวน ผิดจริงสั่งฟันแน่ แต่ขอให้เข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล


วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง เปิดเผยว่า ที่้ประชุม กกต.วานนี้ มีมติให้สำนักงานฯ แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ด้านสืบสวนสอบสวนจากกรณีพบว่าทุจริตเบิกเบี้ยประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านจำนวน 2 ล้านบาท กรณีดังกล่าวตนพบเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเข้ามาดูแลงานด้านบริหารกลาง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อพบความผิดปกติก็ได้ประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงจากอนุกรรมการ แล้วพบว่ามีความผิดปกติ จึงให้ดำเนินการตรวจสอบ โดยให้สำนักกฎหมายดำเนินคดีทางกฎหมายและสอบสวนทางวินัย พร้อมกับให้มีการรายงานให้ที่ประชุมกกต.ทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สำนักงานกำลังพิจารณาสั่งพักงานเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว และไม่ถือว่าตนไปก้าวก่ายงานด้านสืบสวนสอบสวน เพราะดูแลด้านบริหารกลางก็มีหน้าที่ดูแลงบประมาณและบุคลากร แผนยุทธศาสตร์ ซึ่งคิดว่านายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน น่าจะดีใจที่ตนเข้ามาช่วยทำให้ปัญหาตรงนี้ลดน้อยลง เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบการเบิกเบี้ยประชุมของคณะอนุกรรมการวินัยคำร้องคัดค้านทั้ง 25 คณะด้วยหรือไม่และรองเลขาธิการด้านสืบสวนสอบสวนในฐานะผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะมีความผิดฐานบกพร่องปล่อยให้มีการทุจริต นายสมชัยกล่าวว่า ขณะนี้ขอรอดูผลการสอบสวนกรณีนี้ก่อน ถ้าหากพบว่ามีข้อมูลทุจริตคณะอื่นด้วยก็จะมีการสอบสวนในคณะอื่นต่อ ส่วนผู้บังคับบัญชาก็ต้องดูว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ต้องพิจารณากัน ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้ผู้ใหญ่วิ่งเต้นและชดใช้เงิน นายสมชัยกล่าวว่า ความผิดถือว่าสำเร็จแล้ว คงไม่พ้นคดีอาญา ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มองว่างานสืบสวนสอบสวนมีปัญหาทั้งระบบ เรื่องการปลอมแปลงเบี้ยประชุมเกิดขึ้นได้กับทุกหน่วยงาน

 

ขณะที่ด้านนายบุญส่ง น้อยโสภณ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า กรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ชัดเจนว่าการทุจริตดังกล่าวเป็นการปลอมทั้งขบวนการตั้งแต่ต้นจนจบหรือไม่ ถ้าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริงก็จะต้องให้พักราชการ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำของพนักงานบางคน