เปิดตัว!!จอมหมิ่นคอมมิวนิตส์ตัวพ่อ หนีซุกลาว เคยพ้นคุกเพราะได้รับอภัยโทษยังไม่สำนึกเผยตอนติดคุกชีวิตสบายทักษิณดูแลเดือนละ 3,000 บาท

หลังจากที่เราได้รายงานกลุ่มขบวนการที่มุ่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะ ประเทศสปป.ลาว เพื่อนบ้านของไทย พบคนกลุ่มนี้ หลบซ่อนอยู่กว่า 10 ราย และยังได้มีการจัดรายการผ่านวิทยุออนไลน์เผยแพร่มากว่า 1 ปี จนล่าสุดทางการลาว ได้ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ถ้าไม่อย่างนั้นจะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย

ซึ่งในบรรดาคนที่หลบหนีมานั้นก็มีแกนนำคนสำคัญ อย่างนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่มุ่งล้มล้างสถาบันฯเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งนายสุรชัย จะเป็นใครนั้นเราไปติดตามกัน

นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ชื่อเดิม สุรชัย แซ่ด่าน อายุ 73 ปี ที่ตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จบการศึกษาจากสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สมรสกับภรรยาทั้งหมด 3 คน มีบุตรกับภรรยาคนแรก 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 และบุตรชายอีก 1

ก่อนจะเข้าสู่แวดวงการเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักดีในการเมืองช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา จากการเป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทื่เคลื่อนไหวแบบยุทธวิธีกองโจรในป่า ซึ่งต่อมาได้รับโทษถึงประหารชีวิตอันเนื่องจากคดีฆาตกรรมจากการปล้นรถไฟ แต่ต่อมาได้รับการพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ. 2531

ต่อมา นายสุรชัยได้ลงเล่นการเมืองในระบบรัฐสภาด้วยการเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่ จากการชักชวนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

นายสุรชัย เข้าร่วมการชุมนุมขับไล่คมช. ที่ท้องสนามหลวง และต่อมาได้แยกตัวออกมาจัดตั้งกลุ่ม "แดงสยาม" ร่วมกับนายจักรภพ เพ็ญแข แต่ต่อมาก็ได้เดินสายขึ้นปราศรัยตามเวทีวิชาการ คนเสื้อแดง แต่ไม่ได้อยู่ร่วมกับกลุ่มนปช.แต่อย่างใด

จนกระทั่ง นายสุรชัย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามหลวง และได้มีการกล่าวจาบจ้วงหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรง จนถูกเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าจับกุมในวันที่ 22 ก.พ.54 ในข้อหาความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112  ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ก.พ.55 ศาลอาญา มีคำพิพากษา ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน และในวันที่ 3 ต.ค.56 นายสุรชัย ได้รับพระราชทานอภัยโทษและได้รับการปล่อยตัวออกมาในวันที่ 4 ต.ค.56

หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว นายสุรชัย ก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแต่อย่างใดยังเดินสายบรรยาย ปราศรัย และจัดรายการวิทยุออนไลน์อยู่อย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่ง 17 ต.ค.56 นายสุรชัยได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับกลับบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ นายสุรชัย ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงการใช้ชีวิตในเรือนจำว่า ตอนอยู่ในเรือนจำ ตนเองเป็นพี่ใหญ่ มีคนเสื้อแดงเข้ามาดูแล รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ส่งเงินมาให้ใช้เดือนละ 3,000 บาท ถือว่าคนเสื้อแดงในเรือนจำใหญ่มาก เพราะสามารถขู่ผู้คุมได้ ทำให้ผู้คุมไม่กล้าทำอะไร นอกจากนี้ คนเสื้อแดงก็ยังได้ดูแลคนเสื้อเหลืองที่ติดคุกอยู่ด้วยกันด้วย เพราะถือว่าคนเสื้อเหลืองก็ติดคุกเพราะการเมือง เท่ากับเป็นเหยื่อที่น่าสงสารเช่นกัน

นอกจากนี้ นายสุรชัย ยังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมือนประเทศที่เจริญแล้ว อย่างประเทศสวีเดน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และต้นตอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือความขัดแย้งที่ไทยบ่มเพาะมานานเกือบ 10 ปี เชื่อว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อย ๆ เปลี่ยนไป ไม่ใช่เปลี่ยนแบบพลิกฟ้าเปลี่ยนดิน

ปัจจุบันนายสุรชัย ได้หลบหนีคำสั่ง คสช.ให้มารายงานตัว จนสุดท้ายศาลออกหมายจับ  ก็มาปรากฏตัวอีกครั้งที่ประเทศ สปป.ลาว  กำลังส่องสุมกำลังเพื่อทำการปฏิวัติประเทศไทย โดยได้จัดทำรายการ "ปฏิวัติประเทศไทย" แพร่ภาพผ่านยูทูป โดยมีเป้าประสงค์เพื่อปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ติดต่อของให้ประเทศลาวติดตามจับกุมกลุ่มบุคคลนี้แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งมีกระแสข่าวว่า ได้สั่งห้ามจัดรายการวิทยุออนไลน์นี้แล้ว ส่วนจะถึงขึ้นส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไป

เรียบเรียง  อุดร สำนักข่าวทีนิวส์