- 29 พ.ย. 2559
ติดตามข่าวสาร www.tnews.co.th
ซึ่งหลังจากมีการประชุมร่วม ครม. และ คสช.ทางด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ว่า เป็นการประชุมวาระพิเศษ และการประชุมเรียบร้อยแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วาระพิเศษเป็นเรื่องการสถาปนา พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ใช่ จากนี้เป็นขั้นตอนของ สนช."
ต่อมา ทาง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เริ่มประชุมครั้งที่ 76 /2559 ซึ่งเป็นวาระพิเศษ เกี่ยวกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ประกอบมาตรา 23
ปัจจุบันประเทศไทย ได้ถือเอาบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 เป็นกฎหมายสูงสุดสุดปกครองประเทศ ขณะที่ในมาตรา 2 ระบุว่าประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หน้า 3 เล่ม 131 ตอนที่ 55 ก ราชกิจจานุเบกษา 22 กรกฎาคม 2557 ให้บทบัญญัติของหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ซึ่งยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ยังคงใช้บังคับต่อไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญนี้และภายใต้บังคับมาตรา 43 วรรคหนึ่ง ที่ใดในบทบัญญัติดังกล่าวอ้างถึงรัฐสภาหรือประธานรัฐสภา ให้หมายถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญนี้ แล้วแต่กรณี
ขณะที่ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11 / 2557 เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อความสงบเรียบร้อยในการปกครองประเทศ จึงให้ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5 / 2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง การสิ้นสุดชั่วคราวของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้ใช้ข้อความตามประกาศฉบับนี้
1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง ยกเว้น หมวด 2
2. คณะรัฐมนตรีรักษาการ สิ้นสุดลง
3. วุฒิสภา ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามจำนวนสมาชิกวุฒนิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้ มีผลบังคับใช้งดรายการประจำของสถานี และให้ถ่ายทอด ออกรายการ จากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
4. ศาลทั้งหลาย คงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
5. องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ดังนั้นถึงแม้คสช.จะเข้าบริหารประเทศแทนรัฐบาลจากการเลือกตั้งทั่วไป แต่ปัจจุบันประเทศไทยจึงยังคงยึดเอาหลักการสำคัญของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2550 ในหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เช่นเดิม โดยเฉพาะในหมวด 2 อาทิ
มาตรา 8 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้
มาตรา 9 พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก
มาตรา 10 พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย
มาตรา 11 พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะสถาปนาฐานันดรศักดิ์และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
และสำคัญยิ่งกับสถานการณ์ปัจจุบัน คือ มาตรา 23 ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 แล้วให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบ และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ
เรียบเรียงโดย : วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์