ลวงโลกไปวันๆ!!! "ประสาร" ชี้ "ธัมมี่" ยิ่งดื้อดึง-ยิ่งหมดสภาพ-หมดทางสู้ ได้แต่แถข้างๆ คูๆ บ่ายเบี่ยงไปวันๆ

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ลวงโลกไปวันๆ!!! ประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต 40 ส.ว.ชี้ "ธัมมี่" ยิ่งดื้อดึง-ยิ่งหมดสภาพ-หมดความชอบธรรม เพราะฝ่ายบ้านเมืองมีความชอบธรรมอยู่ในมือเต็มที่ ขณะธรรมกายไม่มีข้อต่อสู้ทางกฎหมายใดๆ เหลืออยู่เลย ได้แต่งัดวิธีแถข้างๆ คูๆ บ่ายเบี่ยงไปวันๆ มาตอบโต้  เชื่อยังอยู่ในวัด จึงระดมศิษย์ป้องกันหลังถูกหมายจับ

      

วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต สปท. และแกนนำ 40 ส.ว.กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายว่า ขณะนี้พระธัมมชโยกำลังแข็งขืนต่อหมายจับของทางการอย่างสุดฤทธิ์ มีการระดมศิษย์นับหมื่นมาสวดมนต์ 11 ล้านจบ ระดมคนมาเป็นกองกำลังป้องกัน ตั้งสิ่งกีดขวางราวกับกำลังตั้งทัพรับศึก ตนเชื่อว่าลัทธิธรรมกายในเวลานี้ถึงจุดสุ่มเสี่ยงที่สุดต่อการเจียนอยู่เจียนไป ลองคิดดูว่าถ้าพระธัมมชโยถูกขังคุกก็ต้องถูกจับสึก สิ้นความเป็นพระทันที และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าลัทธิธรรมกายกับภาคการเมืองอิทธิพลกลุ่มหนึ่งนั้นมีความแนบแน่นกันอย่างลึกซึ้ง การคงอยู่ของธรรมกายหมายถึงการดำรงอยู่ของกลุ่มการเมืองนั้น มันเป็นเดิมพันสูงที่สองฝ่ายจะต้องยืนหยัดอยู่ให้ได้เพื่อค้ำจุนซึ่งกันและกัน
      
      

นายประสาร ยังระบุด้วยว่า การตั้งกำแพงยักษ์ของธรรมกาย แสดงว่าพระธัมมชโยยังหลบอยู่ในบริเวณวัดนั้นเอง การหลีกเลี่ยงไม่มอบตัวและไม่ยอมให้จับกุม เท่ากับธรรมกายหมดสิ้นความชอบธรรม เพราะฝ่ายทางการมีกฎหมายและความชอบธรรมอยู่ในมือเต็มที่ ขณะที่ฝ่ายธรรมกายไม่มีข้อต่อสู้ทางกฎหมายใดๆ เหลืออยู่เลย ได้แต่บ่ายเบี่ยง ใช้เทคนิคถ่วงเวลา ตั้งกองกำลังป้องกันและท่องคาถา “หลวงพ่อบริสุทธิ์” ซ้ำยังลวงโลกว่า การดำเนินคดีนี้เป็น “การทำลายพุทธศาสนา” ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นการทำลายมลทินของพุทธศาสนาต่างหาก เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ลัทธิธรรมกายบิดเบือนพระธรรมวินัยและคำสอนของพุทธศาสนาอย่างฉกรรจ์ เมื่อพระธัมมชโยเลือกหนทางที่จะหลบซ่อนในมุมมืดไม่ยอมเผชิญความจริงเช่นนี้ ยิ่งทำให้ยากที่จะได้รับความปรานีจากกระบวนการยุติธรรม