"บีบีซีไทย"ปิดออฟฟิศหนีไปแล้ว...!!! "พล.อ.ประวิตร" ลั่น อะไรที่สร้างความเสียหายให้ประเทศจะไม่ปล่อยไว้...ทำไม"บีบีซีไทย" ต้องปิดออฟฟิศ..???

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

ถือเป็นสื่อต่างชาติที่อ้างความเป็นไทยเข้าไปเกี่ยวโยงให้เกิดความรู้สึกร่วม  แต่โดยข้อเท็จจริงโดยพฤติการณ์ของ BBC  ไทย  ยังคงมีคำถามมากมายว่าเป็นสื่อที่มีแนวทางเพื่อสร้างสรรค์หรือทำลายประเทศไทยกันแน่

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางเว็บ บีบีซีไทยและเฟสบุ๊กนั้นได้มีการเผยแพร่พระราชประวัติที่เป็นเท็จและจาบจ้วงล้วงสภาบันอย่างหนักและมีคนเข้ามากดไลน์ กดแชร์

 

หนึ่งในนั้นก็คือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ที่ได้มีการแชร์ข่าวของบีบีซีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในข้อหาความผิดตามมาตรา 112 จากการแชร์ข้อความที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง พร้อมพร้อมคัดลอกข้อความบางส่วนมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว

หลังจากที่ พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รองหัวหน้ากองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 23 ขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความต่อสภ.เมืองขอนแก่นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตำรวจขอศาลออกหมายจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปยัง สภ.แก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ

ล่าสุดนั้นทางศาลก็ได้อนุญาตให้ทางทนายความประกันตัวเป็นที่เรียบร้อยและในประเด็นของการที่บีบีซีนั้นได้เขียนบทความ พระราชประวัติที่บิเบือนความเป็นจริงนั้นถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

 

"บีบีซีไทย"ปิดออฟฟิศหนีไปแล้ว...!!! "พล.อ.ประวิตร" ลั่น อะไรที่สร้างความเสียหายให้ประเทศจะไม่ปล่อยไว้...ทำไม"บีบีซีไทย" ต้องปิดออฟฟิศ..???

จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่สำนักข่าวบีบีซีไทย นำเสนอรายงานที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จนนำไปสู่การจับกุมนายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ที่แชร์รายงานดังกล่าวในเฟซบุ๊ก ว่า

อะไรที่ทำผิดกฎหมายหรือสร้างความเสียหายก็ต้องถูกดำเนินการทั้งหมด เคยบอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าต้องทำตามกฎหมาย ไม่มีปล่อยไว้และไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ในภาพรวมมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายไปดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว เพราะมีทั้งข่าวจริงและไม่จริง

 

ซึ่งถ้าเราลองย้อนมองการเผยแพร่ข่าวสารของทาง BBC  ไทย  ถือเป็นสื่อต่างชาติที่อ้างความเป็นไทยเข้าไปเกี่ยวโยงให้เกิดความรู้สึกร่วม  แต่โดยข้อเท็จจริงโดยพฤติการณ์ของ BBC  ไทย  ยังคงมีคำถามมากมายว่าเป็นสื่อที่มีแนวทางเพื่อสร้างสรรค์หรือทำลายประเทศไทยกันแน่

หลายคนคงไม่ลืมว่าโดยความเป็นจริง  BBC ภาคภาษาไทย เคยประสบปัญหาทางธุรกิจจากทิศทางการเสพข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงไป จนต้องปิดตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง  เมื่อวันที่   13  ม.ค.  2549   รวมระยะเวลาการดำเนินการมาก่อนหน้ายาวนานกว่า 60  ปี

จนกระทั่งวันที่ 10 ก.ค  2557   หรือภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร  น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  เพียงไม่กี่วัน   BBC ไทย  ก็กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง    และเริ่มนำเสนอข่าวสารอย่างเป็นทางการในวันที่  23 ก.ค.  2557   โดยเปลี่ยนรูปแบบจากสื่อวิทยุเป็นสื่อโซเชียลเต็มรูปแบบ  โดยมีคนไทยจำนวนหนึ่งร่วมเป็นทีมงานเหมือนในยุคอดีต

อย่างไรก็ตามการกลับมาอีกครั้งของของ  BBC    ไทยครั้งนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ   เพราะเป็นการฟื้นคืนชีพในยุคประเทศไทย  และ คสช.  กำลังถูกชาติตะวันตกหยิบยกเรื่องประชาธิปไตยมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตี  และกดดันในทุกรูปแบบผ่านองค์กรทางการค้า  รวมถึงตัวแทนการทูตประเทศ 

โดยเฉพาะอียู    สหรัฐ   โดยมีล็อบบี้ยิสต์ที่มีนักการเมืองในระบอบทักษิณอยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนทางการเงิน  เป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนกลไกดิสเครดิตคสช.ด้วยข้อกล่าวหาต่าง ๆ ทั้งที่คนไทยทั้งประเทศรู้ซึ้งถึงความเป็นที่คสช.ต้องเข้ามายึดอำนาจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

"บีบีซีไทย"ปิดออฟฟิศหนีไปแล้ว...!!! "พล.อ.ประวิตร" ลั่น อะไรที่สร้างความเสียหายให้ประเทศจะไม่ปล่อยไว้...ทำไม"บีบีซีไทย" ต้องปิดออฟฟิศ..???

 

 

สำหรับ BBC ไทย มีผู้บริหารคือ นพพร วงศ์อนันต์ อดีตเคยเป็นบรรณาธิการนิตยสาร ฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์นั้นเคยให้ร้าย และโจมตีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นพระประมุขที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเอาทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะหุ้นในบริษัทปูนซีเมนต์ไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ มาคำนวณเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นการบิดเบือนเป็นอย่างยิ่ง

แล้วก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 นพพร วงศ์อนันต์ เคยไปเสวนาในหัวข้อ สื่อไทยมีเสรีภาพเพียงใดในปัจจุบัน ร่วมกับ จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของประชาไท  อนุธีร์ เดชเทวพร ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวี และที่สำคัญในวันนั้นมี กลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ไปร่วมด้วย

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ นายนพพร วงศ์อนันต์ บก.บีบีซีไทย เคยสัมภาษณ์ทักษิณ ชินวัตร ในสมัยที่ยังเป็นผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์อยู่ โดยเนื้อหาของการสัมภาษณ์ขณะนั้นเป็นการประกาศของทักษิณว่าจะเอาคืนกับศัตรูทางการเมืองของตนเพราะอีกฝ่ายหนึ่งเล่นไม่เลิก

 

"บีบีซีไทย"ปิดออฟฟิศหนีไปแล้ว...!!! "พล.อ.ประวิตร" ลั่น อะไรที่สร้างความเสียหายให้ประเทศจะไม่ปล่อยไว้...ทำไม"บีบีซีไทย" ต้องปิดออฟฟิศ..???

นพพร วงศ์อนันต์

 

คราวนี้เรามาดูในประเด็นการนำเสนอข่าวของบีบีซีไทยก็มีประเด็นที่เป็นการอวยพวกล้มหมิ่นสถาบันมาเป็นระยะระยะ ยกตัวอย่างเช่น กรณีอั้ม เนโกะ ผู้โพสต์คลิปที่มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นสถาบันผ่านเฟซบุ๊ก ได้เปิดเผยกับบีบีซีไทยโดยยอมรับว่าชีวิตช่วงนี้ได้รับการข่มขู่ตลอดเวลาและต้องเปลี่ยนที่พัก เนื่องจากมีผู้เผยแพร่สถานที่พัก และสถาบันที่ศึกษาอยู่ในฝรั่งเศส  รวมถึงตนยังได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดในทางอาญาว่ามีผู้ข่มขู่คุกคามถึงชีวิต  แม้กฎหมายฝรั่งเศสจะให้การคุ้มครองการกระทำของตนก็ตาม

 

ทั้งนี้   อั้ม เนโกะ”   ยังอ้างด้วยว่า  ขณะนี้ครอบครัวทางเมืองไทยซึ่งตัดขาดจากตนไปแล้ว  ก็ถูกข่มขู่เช่นกันและบิดาได้ถูกเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อตนเพื่อให้ยุติการกระทำ    อย่างไรก็ดี อั้ม เนโกะ”    กลับยืนยันว่าสิ่งที่กระทำไปเฟสบุ๊กเป็นความชอบธรรมที่กระทำได้

 

ขณะที่มีผู้คนเข้าคอมเม้นต์ต่อท้ายเป็นจำนวนมาก  ทั้งการเรียกร้องให้  บีบีซีไทยแจ้งที่อยู่หลักแหล่ง  อั้ม เนโกะ”   ให้กับทางการไทยเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย    และบางส่วนแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของ อั้ม เนโกะ”   เพราะสถาบันเบื้องสูงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรคนไทย 

จะเห็นได้ว่าการที่บีบีซีไทยซึ่งได้สัมภาษณ์อั้ม เนโกะ นอกจากจะแสดงพฤติกรรมเอออวยพวกล้มเจ้าในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมแล้ว ยังไม่แสดงเจตนาที่จะช่วยเหลือทางการไทยในการจับตัวผู้ต้องหาใช่หรือไม่

เพราะฉะนั้นแล้วคงต้องพิจารณา ดูว่าสำหรับ "บีบีซีไทย" ถือได้ว่าเป็นสื่อมวลชนที่มีบรรทัดฐานหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาล้วนนำเสนอเนื้อหา ที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>> http://headshot.tnews.co.th/contents/215471/ทีนิวส์แฉสิ้นไส้ "บีบีซีไทย" สื่อชั้นเลว !!! ทำข่าวด้วยอคติ บิดเบือนเป็นปกติ ตอน : อวยพวกล้มเจ้า สัมภาษณ์ “อั้ม เนโกะ”ในช่วงเวลาความอาลัย)

"บีบีซีไทย"ปิดออฟฟิศหนีไปแล้ว...!!! "พล.อ.ประวิตร" ลั่น อะไรที่สร้างความเสียหายให้ประเทศจะไม่ปล่อยไว้...ทำไม"บีบีซีไทย" ต้องปิดออฟฟิศ..???

 

บีบีซีนำเสนอข่าว อั้ม เนโก๊ะ

"บีบีซีไทย"ปิดออฟฟิศหนีไปแล้ว...!!! "พล.อ.ประวิตร" ลั่น อะไรที่สร้างความเสียหายให้ประเทศจะไม่ปล่อยไว้...ทำไม"บีบีซีไทย" ต้องปิดออฟฟิศ..???

 

บีบีซีนำเสนอข่าว อั้ม เนโก๊ะ

ล่าสุด (6 ธันวาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่ สำนักงาน บีบีซีไทย ที่อาคารมณียา ถ.เพลินจิต เพื่อขอข้อมูลประกอบการดำเนินคดี แต่บีบีซีไทยได้ใช้วิธีปิดสำนักงาน ทำให้เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถทำอะไรได้

        

ขณะที่ก่อนหน้า มีรายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการเผยแพร่เนื้อหา ของสำนักข่าวบีบีไทย ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเตรียมข้อมูลดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดีด้านความมั่นคง ส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และความมั่นคงต่อไป

 

ขณะที่ทางด้านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เดินทางบุกไปยังสำนักงานบีบีซีไทยว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ อะไรผิดก็ต้องดำเนินการไม่มีละเว้นแม้บีบีซี จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็ใช้คนในนี้ก็เอาผิดได้ ส่วนจะถึงปิดสำนักงานในไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ดูความผิด

 

ที่มา : บีบีซีไทย - BBC Thai

เรียบเรียงโดย : วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์