ตอกหน้า "โสภณ พรโชคชัย" ทำไมพระถึงจะบวชให้ "น๊อต" กราบรถไม่ได้ ในเมื่อไม่ผิดพระธรรมวินัย (ข้อมูล)

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม www.tnews.co.th

กลับมาเป็นประเด็นร้อนในโลกสังคมออนไลน์กันอีกครั้ง สำหรับนายโสภณ พรโชคชัย นักวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์และอดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ เกี่ยวกับกรณี“พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” ที่บวชให้ “น็อต กราบรถ” หรือ “นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล”

นายโสภณ พรโชคชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจระบุว่า สังคมควรติติง “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” ที่บวชให้ “น็อต กราบรถ” หรือ “นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล” นักแสดงและพิธีกรชื่อดังที่ถูกดำเนินคดี หลังใช้กำลังทำร้ายร่างกาย “นายกิติศักดิ์” พนักงานคัดกรองเอกสารที่ขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถมินิคูเปอร์สีเหลืองของนายอัครณัฐ ในเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยนายโสภณ ได้มีการแสดงความเห็นว่า  “ควรตำหนิมหาวุฒิชัยที่บวชให้คุณ “น็อต กราบรถ” ตำรวจก็เคยติงไปว่าน็อตมีคดีติดตัวยังบวชไม่ได้ แต่เลขาฯ ของมหาอ้างว่าน็อตไม่หลบหนี และจะให้สึกในวันที่ 6 ธันวาคม ก่อนที่จะไปพบตำรวจในวันรุ่งขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่สึก มหาบวชให้แบบนี้ยิ่งทำให้เขาถูกมองไม่ดี รีบสึกให้เขาตามสัญญาด่วน”

 

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวของ ดร.โสภณ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นแสดงความไม่พอใจกับ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” กันเป็นจำนวนมาก

 

ตอกหน้า "โสภณ พรโชคชัย" ทำไมพระถึงจะบวชให้ "น๊อต" กราบรถไม่ได้ ในเมื่อไม่ผิดพระธรรมวินัย (ข้อมูล)

ซึ่งล่าสุดในอินสตราแกรมส่วนตัว ของน็อต อัครณัฐ ที่ได้โพสต์ภาพ การสึกพร้อมด้วยข้อความ “ตอนนี้ตนเองได้บวชเรียนตามความตั้งใจ และสึกออกมาเรียบร้อยแล้ว ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะหลบหนีแต่อย่างใด จากนี้ ตนจะขอใช้ชีวิตอย่างสงบ และพร้อมทำตามเงื่อนไขของศาลทุกประการ”

ส่วนด้านคดีความ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งนายอัครณัฐ ได้เลื่อนนัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้เหตุผลว่า ยังบวชอยู่ ไม่สะดวกจนกระทั้งในวันที่ 13 ธันวาคม จึงได้เดินทางมามอบตัวและขอประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 10,000 บาทก่อนเข้าพบตำรวจอีกในช่วงต้นเดือนมกราคม 2560

ตอกหน้า "โสภณ พรโชคชัย" ทำไมพระถึงจะบวชให้ "น๊อต" กราบรถไม่ได้ ในเมื่อไม่ผิดพระธรรมวินัย (ข้อมูล)

สำหรับข้อห้ามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบัญญัติในพระวินัยแสดงลักษณะที่ไม่ควรให้บวช(อุปสมบท) บุคคลรวม 20 ประเภท ดังต่อไปนี้

1.ผู้ไม่มีอุปัชฌายะ

2.. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นสงฆ์ (อุปัชฌายะต้องมีรูปเดียว ไม่ใช่มากรูป)

3.ผู้มีอุปัชฌายะเป็นคณะ

4.ผู้มีอุปัชฌายะเป็นกะเทย

5. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นคนลักเพศ (ผู้บวชเอาเอง)

6. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้เข้ารีตเดียรถีย์

7. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นสัตว์ดิรัจฉาน (มีเรื่องเล่าว่า นาคปลอมมาบวช)

8. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้ฆ่ามารดา

9. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้ฆ่าบิดา

10. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้ฆ่าพระอรหันต์

11. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้ข่มขืนนางภิกษุณี

12. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน

 

13. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้ประทุษร้ายพระพุทธเจ้า จนถึงยังพระโลหิตให้ห้อ

14. ผู้มีอุปัชฌายะเป็นผู้มีอวัยะ ๒ เพศ

15. ผู้ไม่มีบาตร

16. ผู้ไม่มีจีวร

17. ผู้ไม่มีทั้งบาตรทั้งจีวร

18. ผู้ขอยืมบาตรเขามาบวช

19.ผู้ขอยืมจีวรเขามาบวช

20. ผู้ขอยืมทั้งบาตรทั้งจีวรเขามาบวช

ซึ่งทั้ง 20 ประเภทนี้ ถ้าพระสงฆ์บวชให้ ต้องอาบัติทุกกฎ

 

จากพระวินัยข้างต้นนั้น ก็ไม่ปรากฏข้อห้าม ที่มีลักษณะเข้าข่ายความผิดฐานทำร้ายร่างกายประชาชน แล้วห้ามบวชให้แต่อย่างใด เพราะในอดีตก็เคยมีการออกมาอุปสมบท

จากกรณีของ นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาในคดีขับรถเบนซ์พุ่งชนท้ายรถฟอร์ด เป็นเหตุให้  น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย และนายกฤษณะ ถาวร สองนักศึกษาปริญญาโท ถูกไฟคลอกเสียชีวิต ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาได้ถูกแจ้งดำเนินคดี 8 ข้อหา

 

ต่อมานายเจนภพ วีรพร ก็ได้อุปสมบทที่วัดแคนางเลิ้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเหยื่อคู่กรณีทั้ง 2 คนด้วย ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะข้อห้ามหรือขัดต่อพระวินัยของสงฆ์แต่อย่างใด

 

ที่มา :ดร.โสภณ พรโชคชัย