- 23 ธ.ค. 2559
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ ( 23 ธ.ค.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้มีคำสั่งการถึง อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยในหนังสือได้ยกตัวอย่างข่าวสถานการณ์การบุกรุกผืนป่าทั้งป่าบกและป่าชายเลน ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ ว่า หากพ้นจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. ทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิม เพราะลำพังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอุทยานฯ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เลย
พล.อ.สุรศักดิ์ ระบุว่า อธิบดีทั้ง 3 กรม ต้องใช้ภูมิปัญญาของหน่วยงานที่มีคิดว่าจะปรับโครงสร้างการจัดการหน่วยอย่างไรให้สามารถทำงานรักษาป่าไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตนให้เวลามาพอสมควรแล้ว ยังไม่มีทิศทาง หากคิดแต่เรื่องปลูกป่า เพาะกล้าไม้ ทวงคืนผืนป่า ฯลฯ แบบที่เคยทำมาคงรักษาป่าไม่ได้ เพราะโครงสร้างการจัดการหน่วยฯ ไม่ตอบรับกับภัยคุกคาม ผู้บริหารในแต่ละระดับหย่อนคุณภาพ ขาดอุดมการณ์ความมุ่งมั่นและไม่โปร่งใส ไม่สามารถรักษาป่าได้แน่นอน
" ขอให้ทั้ง 3 กรมส่งแนวคิดในการปรับโครงสร้างการจัดกรมที่คิดว่าจะต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพึ่งพาหน่วยงานอื่นๆ น้อยที่สุด พึ่งพาตำรวจเรื่องการจับกุม พึ่งพาทหารกรณีเป็นกองกำลังหรือผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ หากจับกุมคนบุกป่าหรือจับรีสอร์ต ยังต้องพึ่งพาทหารแบบนี้ไม่มีอนาคต การเพาะกล้าไม้ ต้องเปลี่ยนแนวความคิด เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้แล้วสอนให้ประชาชนนำไปเพาะเอง ต้องเปลี่ยนแนวความคิดเดิมๆ ที่ไม่ประสบผลได้แล้ว งบประมาณ ปี 2560 สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมด และต่อเนื่องปี 2561 ต้องเป็นแผนงานเชิงปฏิรูปทั้งหมด โดยให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดแผนงานต่างๆ ในปี 2560 และโครงสร้างการจัดหน่วยนำมาเสนอภายใน 1 เดือน และให้มีการประชุมปฏิรูปกลุ่มป่าไม้ ในวันที่ 31 ม.ค. 2560"
พร้อมกันนี้ ยัได้ย้ำอีกว่า เริ่มปฏิบัติงานปฏิรูป วันที่ 1 ก.พ. 2560 ผู้บริหารทุกระดับที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบการปฏิรูปได้ ให้เสนอเพื่อปรับเปลี่ยนทั้งหมด หากไม่มีตำแหน่งให้เสนอมา รมว.ทส.จะพิจารณา ส่วนอธิบดีมีอำนาจเต็มที่ทุกประการต้องใช้ให้งานตามนโยบายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด อย่าปล่อยให้เป็นไปตามเดิมที่เคยทำกันและไม่ประสบผลสำเร็จ อย่ายึดติดกับงานประจำแบบเดิมๆ
วิทย์ณเมธา สำนักข่าวทีนิวส์