"ยะใส" จี้รัฐบาลเคลียร์ปมเก็บภาษี"แม้ว" 1.6 หมื่นลบ. หลัง"สรรพกร-คลัง"น้ำท่วมปาก

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 12 มี.ค.)   นายสุริยะใส กตะศิลา  รองคณะบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนายการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย  กล่าวถึงกรณีการเรียกเก็บภาษีจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  กรณีขายหุ้นชินฯ ให้กับบริษัท เทมาเส็ก ของประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2549  ซึ่งจะหมดอายุความที่สามารถเรียกเก็บได้ในวันที่ 31 มี.ค.2560 ที่จะถึงนี้ ว่า กรณีดังกล่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากกรมสรรพากรว่าจะดำเนินการอย่างไร แม้แต่ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ก็อ้อมแอ้มน้ำท่วมปาก  ตอบคำถามที่ชัดเจนไม่ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร  โดยเฉพาะอธิบดีกรมสรรพากร คงต้องช่วยกันตามหาตัวท่าน ไม่ทราบว่าท่านหายไปไหน  ปล่อยสังคมคลางแคลงใจกันมากว่า ทำไมปล่อยเรื่องนี้ทอดยาวมาจนเหลือไม่กี่วันก็จะขาดอายุความในการเรียกเก็บแล้ว

 

ผู้อำนายการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ที่สำคัญสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือทวงถามและชี้ช่องทางกฎหมายเพื่อให้กรมสรรพากรดำเนินการเรียกเก็บภาษีนั้น  แต่จนป่านนี้ยังไม่มีท่าทีใดๆ จากกรรมสรรพากรตอบกลับมาว่าจะดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร  และเป็นเรื่องตลกมาก ข่าวละเลยการเรียกเก็บภาษีกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เป็นข่าวที่พยายามทำให้เงียบหายไปกับกาลเวลา  แต่กลับมีข่าวรัฐเตรียมเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต อีก 1% เลยยิ่งตอกย้ำความรู้สึกและความมักง่ายว่าการเก็บภาษีจากชาวบ้านหาเช้ากินค่ำเป็นวิธีที่หาเงินเข้ากระเป๋ารัฐได้ง่ายกว่าการไล่บี้เก็บภาษีจากคนรวย

"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องมีคำตอบให้กับสังคม เพราะปัญหาการเก็บภาษีที่ผ่านมาไม่เข้าเป้าเพราะอะไร ก็มีคำตอบอยู่แล้ว ก่อนจะคิดเก็บภาษีเพิ่มเติมจากประชาชนอาจต้องปฏิรูปกลไกการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่านี้" นายสุริยะใส กล่าวย้ำ


วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์