เปิดสัมพันธ์ "โกตี๋-จารุพงศ์ เสรีไทย"รวมตัวกันแล้ว!!ความหวัง..หัวรุนแรง"เปลี่ยนไทยเป็นสหพันธรัฐ"..ที่ไม่มีทางสำเร็จ

เปิดสัมพันธ์ "โกตี๋-จารุพงศ์ เสรีไทย"รวมตัวกันแล้ว!!ความหวัง..หัวรุนแรง"เปลี่ยนไทยเป็นสหพันธรัฐ"..ที่ไม่มีทางสำเร็จ

กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง สำหรับ โกตี๋หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ  แกนนำคนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ ปทุมธานี  ดีเจวิทยุคนเสื้อแดง สถานีวิทยุ..เพื่อมวลชน..(REDGARD RADIO) โดยวีรกรรมเด็ดที่อยากจะลืมกันคือ การยกพวกไปบุกล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา จ.ชลบุรี ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากนั้นโกตี๋ก็ได้เคลื่อนไหวในฐานะ "แดงฮาร์ดคอร์" มาโดยตลอดซึ่งความเคลื่อนไหวจะมุ่งเน้นให้เกิดความรุนแรง สร้างสถาการณ์ชวนปะทะ 

ยกตัวอย่าง ในปี 2557ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างคนเสื้อแดงที่ชุมนุมภายในวัดหลักสี่ กับ กปปส. และ คปท.ที่ปิดล้อมสำนักงานเขตหลักสี่เพื่อสกัดการย้ายหีบบัตรและอุปกรณ์จัดการเลือกตั้งบริเวณแยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. จนมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่จนมีผู้บาดเจ็บหลายราย ได้มีรายชื่อของโกตี๋ เป็นแกนนำก่อเหตุ จากนั้นโกตี๋ก็ได้ออกมาปฏิเสธตามสูตร อ้างว่าไม่ได้สั่งการ เพราะไปให้ปากคำตำรวจที่ สน.ดอนเมือง แต่ได้ให้ยืมรถสถานีวิทยุเคลื่อนที่ติดเครื่องเสียงรวมทั้งกระจายเสียงทางวิทยุ  และอ้างว่าถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ยศในขณะนั้น) สั่งฆ่า จน พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับบอกว่าไม่ให้อภัยกับคำพูดดังกล่าว

นอกจากนี้ เวลาที่พรรคประชาธิปัตย์มีการเปิดเวทีผ่าความจริงในพื้นที่ใกล้เคียงโกตี๋ มักจะผนึกกำลังกับคนเสื้อแดงตามไล่บี้เสมอ ดังนั้น จึงไม่น่าที่จะเป็นเรื่องแปลกอะไร หากมวลชน กปปส. ปะทะกับคนเสื้อแดง มักจะมีชื่อ โกตี๋ โผล่มาเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เสมอ

โดยสังเกตว่าแนวทางการปกฺแบบโกตี๋มีแนวโน้มไปในทางมุ่งแน่ความรุนแรงมาโดยตลอด และมีรายงานว่าหลบหนีไปยังประเทศลาว ล่าสุดได้จัดตั้ง"องค์การสหพันธรัฐไท.(อสสท.)" หรือ " ไทยเฟดเดอเรชั่น"โดยความเคลื่อนไหวที่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนประเทศเป็นระบอบสหพันธรัฐ

โดยชะตากรรมโกตี๋ซึ่งต้องหลบหนีแแที่เรียกได้ว่าหัวซุกหัวซุน คล้ายกับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ โดยมีประวัติการดำรตำแหน่งทางการเมือง เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาทั้ง เช่นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในยุคที่ระบอบทักษิณ ครองอำนาจ

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์  2557 นายจารุพงศ์  พร้อมพวกรวม 14  คน ในฐานะแกนนำนปช. ได้ร่วมกันจัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา โดยใช้ชื่อว่า “นปช.ลั่นกลองรบ” ได้กล่าวปราศรัยในลักษณะยุยงให้ใช้ความรุนแรง ให้จัดตั้งกองกำลังของกลุ่มคนเสื้อแดงข่มขู่องค์กรอิสระ ศาล ยุยงให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ให้มีการแบ่งแยกราชอาณาจักรไทยออกเป็น 2 ส่วน จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ ประชาชน และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ต่อมานายจารุพงศ์ได้ถูกคสช.สั่งอายัดทรัพย์ และศาลทหารออกหมายจับในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งรายงานจับของคสช. เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ภายหลังการยึดอำนาจการปกครองของคสช. นายจารุพงศ์ได้หนีออกไปต่างประเทศประกาศจัดตั้งองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย และยังเป็นประธานในการประชุม สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2559 ที่ สหรัฐอเมริกา โดยสมาชิกในกลุ่มอาทิ เพียงดิน รักไทย ชูพงศ์ ถี่ถ้วน จาตุรนต์ ฉายแสง จอม เพรชประดับเป็นต้น

ทั้งนี้นายจารุวง เรืองสุวรรณ บุตรชายของนายจารุพงศ์ก็ได้อยู่ในขบวนการเสรีไทยด้วย เรียกได้ว่าเป็นกันทั้งครอบครัวเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หลักจากเจ้าหน้าที่บุกจับอาวุธที่บ้านพักของนายโกตี๋ เป็นที่ชัดเจนว่าทั้งโกตี๋และนายจารุพงศ์ก็ได้มีการร่วมมือ โดยโกตี๋พูดออกจากปากผ่านรายการThai voice ที่มีนายจอม เพชรประดับ ผู้ต้องหาหนีคดี เป็นผู้ดำเนินรายการ ผ่านทางยูทูป ได้ถูกเผยแพร่เมื่อ 19 มี.คที่ผ่านมาโดยได้พูดคุยให้คำแนะนำในเรื่องความหวังจะเปลี่ยนไทยให้เป็นระบอบสหพันธรัฐ แต่แทบไม่มีความหวัง ด้านนายจารุพงศ์บทบาทความสำคัญก็ดูเหมือยจลดน้อยถอยลงไปทุกที ขณะที่นายโกตี๋เองก็ไม่รู้ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ของลาวไล่ล่า ออกนอกประเทศหรือไม่ เนื่องจากความผิดในครั้งนี้ ผิดในข้อหาก่อการร้าย ซึ่งเป็นความผิดอาญา เมื่อทางการไทยของตัวไป ทำให้ลาวปฏิเสธได้ยาก ว่าไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่หลบหนี

ขณะเดียวกันขอตั้งข้อสังเกต ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับนายให่แห่งดูไบหรือไม่?? เพราะในดีตนายจารุพงศ์เป็นถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ต้องเป็นบุคคลที่นายใหญ่ไว้ใจมาก ถึงได้อยู่ในตำแหน่งนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไป ท้ายสุดเรื่องนี้จะจบอย่างไร...