สารภาพ!! "เป๊ปซี่"หนุ่มลาวติดต่อกับ"โกตี๋"จริง!! ยันแค่รับจ้างขนของ...พ้นข้อหาสัมพันธ์กับกลุ่มแดงนอกรีด!!

สารภาพ!! "เป๊ปซี่"หนุ่มลาวติดต่อกับ"โกตี๋"จริง!! ยันแค่รับจ้างขนของ...พ้นข้อหาสัมพันธ์กับกลุ่มแดงนอกรีด!!

จากรายงานข่าวการจับกุมตัวเครือข่ายชาวลาวของนายโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำแดงฮาร์ดคอร์ ปทุมธานี สื่อเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม 2560 รายงานจากหน่วยงานความมั่นคงเปิดเผย  ได้ควบคุมตัวนาย หัดสะดี ทิพะสอน หรือเป็ปซี่ อายุ 35 ปี ชาวลาว ถือหนังสือเดินทางเลขที่ P 1483885 ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยชุดสืบสวนของหน่วยงานความมั่นคง ควบคุมตัวได้ที่บริษัทรับจ้างขนสินค้าข้ามแดนแห่งหนึ่งในเขตเมือง จ.หนองคาย โดยนายเปปซี่มีหน้าที่ส่งของข้ามชายแดนให้กับโกตี๋

ทั้งนายเป๊ปซี่ เป็นคนงานโกดังขนส่งสินค้าไม่มีชื่อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย มาสอบสวน เนื่องจากมีชื่อปรากฏอยู่ในรายการสนทนาระหว่างนายธีรชัย อุดรวิเชียร และ โกตี๋  เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงถึงเส้นทางการติดต่อผ่านทางไลน์กับนายธีรชัย และตรวจสอบกล่องสิ่งของ 7 กล่องที่นายธีรชัย นำมาฝากส่งไปยังประเทศลาวแล้วนั้น ระบุว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียง ทำให้นายหัสดี พ้นจากข้อสงสัยในความเชื่อมโยงกับกลุ่มของโกตี๋ แต่มีความผิดในการทำงานโดยผิดกฎหมาย

นายหัสดี ยืนยันว่า ตนไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับโกตี๋แต่อย่างใด อยากขอความเป็นธรรมให้ความบริสุทธิ์กับตนเองและครอบครัวเนื่องจากได้รับผลกระทบถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับความวุ่นวาย ซึ่งไม่เป็นความจริง และตนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่ทำงานผิดประเภท เนื่องจากก่อนหน้านี้ทำงานเป็นลูกจ้างที่ปั๊มน้ำมัน ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวกับทางปั๊ม พอลาออกจากปั๊มมาทำงานกับโกดังส่งสินค้าก็ไม่ได้ไปแจ้งย้ายงานกับหน่วยงานรัฐ จึงทำให้มีความผิดตามกฎหมายแรงงาน และได้ถูกดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับไปเรียบร้อยแล้ว

 

สารภาพ!! "เป๊ปซี่"หนุ่มลาวติดต่อกับ"โกตี๋"จริง!! ยันแค่รับจ้างขนของ...พ้นข้อหาสัมพันธ์กับกลุ่มแดงนอกรีด!!

 

สารภาพ!! "เป๊ปซี่"หนุ่มลาวติดต่อกับ"โกตี๋"จริง!! ยันแค่รับจ้างขนของ...พ้นข้อหาสัมพันธ์กับกลุ่มแดงนอกรีด!!

 

ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังการจับกุมตัวนายหัสดีรับสารภาพว่า ได้ติดต่อและส่งของให้นายวุฒิพงศ์จริง ดีเอสไอจะเข้าไปดูว่าคำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างไรบ้าง ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ สามารถยืนยันได้ว่ารัฐไม่ได้จัดฉากเข้ายึดอาวุธ แต่เครือข่ายผู้ต้องหามีการสะสมอาวุธและติดต่อสื่อสารระหว่างกันตลอดเวลา

ในส่วนของนายวุฒิพงศ์ยังต้องสืบสวนต่อว่าเดินทางออกจากประเทศลาวไปประเทศเวียดนามจริงหรือไม่ และพักอาศัยอยู่พิกัดเพื่อประสานของตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดี