ไม่สนสหรัฐ..เดินหน้าสัมพันธ์รัสเซีย!!"บิ๊กตู่"เตรียมหารือผู้นำรัสเซีย ความร่วมมือทางทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ -เพิ่มมูคค่าการค้า!!??

พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบท่าที ของไทยสำหรับการหารือกับสหพันธรัฐรัสเซีย ในกรอบการประชุมอนุกรรมการการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน 2560 ที่กรุงเทพฯ โดยการประชุมในครั้งนี้จะเป็นกลไกในการส่งเสริมเป้าหมายทางด้านการค้าการลงทุนที่มีการหารือกันไว้ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ ที่ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี หรือปี 2562 ไทยและรัสเซียจะเพิ่มคุณค่าทางการค้าการลงทุนระหว่างกันให้เป็น 5 เท่า หรือ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยท่าที่ของไทยจะก่อให้เกิดความสะดวกส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมประเด็นต่างๆ ได้แก่ การส่งเสริมการค้าการลงทุนและให้มีการจัดกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนภาคธุรกิจลงทุน ส่งเสริมการลงทุนในสาขาที่รัสเซียและไทยมีประโยชน์ มีความสนใจและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้จะมีการหารือ เรื่องการลดอุปสรรคด้านการค้าที่ไม่ใช่ภาษี การพัฒนา ความร่วมมือด้านต่างๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว พลังงาน วิทยาศาสตร์ SMEs และการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นหนึ่งกลไก ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ของสองประเทศทางด้านเศรษฐกิจ

ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบ ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหาร เพื่อให้มีการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง อาวุธยุทโธปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ด้านการป้องกันประเทศ การซ่อมบำรุง อะไหล่ชิ้นส่วน หน่วยฝึกเครื่องมืออุปกรณ์พิเศษการฝึก ผลิตภัณฑ์ทางทหาร การแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ความร่วมมือในการดำเนินการโครงการร่วม

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบต่อถ้อยแถลงและสารัตถะ ร่างปฏิญญาอาเซียน ว่าด้วยบทบาทของข้าราชการพลเรือน ในฐานะผู้เร่งรัดให้วิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนบรรลุผล ซึ่งปฏิญญาดังกล่าว ครอบคลุมถึงประเด็นการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาและการดำเนินการตามหลักสูตร เพื่อพัฒนาขีดความสามารถและแบ่งปัน แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในประเด็นที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสร้างมาตรฐานความเป็นมืออาชีพของข้าราชการในภาคส่วนที่แตกต่างกัน สร้างความมั่นใจว่า ข้าราชการพลเรือนของอาเซียน จะสามารถรับหลักการปกครองใหม่ เช่น การมีพลเมืองเป็นศูนย์กลางและมีนวัตกรรม ยึดมั่นในสวัสดิการของข้าราชการพลเรือน

 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรบาห์เรน ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 20-26 เมษายน ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีบาห์เรน โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบถ้อยแถลงร่วม ครอบคลุมประเด็นที่จะมีการหารือ ทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ส่งเสริมนักลงทุน แลกเปลี่ยนการลงทุนร่วมกัน พร้อมรับทราบการพัฒนาด้านต่างๆ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี จะหารือถึงประเด็นความมั่นคงของมนุษย์ โดยเป็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยาเสพติดและการค้ามนุษย์ โดยการหารือจากมีการลงนามในข้อตกลง 4 ฉบับ