จะไม่เข้าตา"นายใหญ่"เชียวหรือ?! "วัฒนา"เก่งไม่เลิก โพสต์จวก"คสช." ปมหมุดหายไม่หยุด ทั้งที่ต้องพบ"ปอท."วันนี้ อ้างหรู"ตนยืนสู้เผด็จการ"?!

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ไม่เข้าตา"นายใหญ่" รอบนี้ก็ไม่รู้จะไปเข้ารอบไหนแล้ว...สำหรับ "วัฒนา เมืองสุข แห่งเพื่อไทย" เพราะขณะที่ต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน "บก.ปอท." ในวันนี้ จากคดีนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยอ้างว่า "หมุดคณะราษฎร" เป็นโบราณวัตถุ แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เขายังอวดศักดาเก่งไม่เลิก โดยโพสต์โจมตี "คสช." ปมหมุดหายไม่หยุด โดยหยิบสำนวนโบราณมากล่าวอ้างว่า "หรือกระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย" และกล่าวอย่างสวยหรูว่า ตนเองต่อสู้กับเผด็จการ


วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ในช่วงบ่าย นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน บก. ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากกรณีที่โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คว่า "หมุดของคณะราษฎรเป็นโบราณวัตถุ" ซึ่งพนักงานสอบสวนเห็นว่า เป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

ทั้งนี้ นายวัฒนา ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา ตนเองถูกตั้งข้อหาเคลื่อนไหวทางการเมืองอันเป็นการขัดคำสั่ง คสช. การแสดงความเห็นทางวิชาการโดยสุจริตยังถูกดำเนินคดี แต่ยังยืนยันจะแสดงความคิดเห็นต่อไป เพราะคนที่ตนเองต้องฟังคือประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจไม่ใช่เผด็จการ


โดยข้อความทั้งหมดที่ นายวัฒนา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" คือ

 


"หรือกระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย"

วันนี้เวลา 13.00 น. ผมจะไปพบพนักงานสอบสวน บก. ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีที่ผมโพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คว่า "หมุดของคณะราษฎรเป็นโบราณวัตถุ" ซึ่งพนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

 

วันนี้ของปีที่แล้ว ผมถูก คสช. นำตัวไปควบคุมที่ พล ร. 9 เพราะผมโพสต์ข้อความว่า "ผมไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ" จากนั้นผมถูกพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแจ้งข้อหาว่าการแสดงความคิดเห็นของผมเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองอันเป็นการขัดคำสั่ง คสช. ผมถูกนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลทหารและถูกควบคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ต่อมาผมได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวที่เรือนจำดังกล่าว ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร วันนี้เหตุการณ์แบบเดียวกันก็วนกลับมาหาผมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งที่เรามีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้วซึ่งการแสดงความเห็นได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 34 ของรัฐธรรมนูญ ส่วนความเห็นข้อกฎหมายมักจะมีผู้เห็นต่างเสมอแต่ก็ไม่เคยถือเป็นความผิด แม้แต่ศาลก็ยังคิดเห็นไม่เหมือนกันเราจึงเห็นศาลสูงกลับคำพิพากษาของศาลล่างอยู่เนืองๆ ในสังคมอารยะจึงถือว่าความแตกต่างทางความคิดเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาจนมีคำกล่าวว่า "ไม่มีห้องขังสำหรับขังคนที่คิดไม่เหมือนเรา" แต่วันนี้สังคมไทยวิปริตผู้มีอำนาจเห็นผิดเป็นชอบประชาชนจึงถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพทั้งที่รัฐธรรมนูญรับรองสิทธิดังกล่าวไว้ จนทำให้การแสดงความเห็นทางวิชาการโดยสุจริตยังถูกดำเนินคดี แต่ไม่ต้องกังวลผมจะยังมีความคิดเห็นต่อไป เพราะคนที่ผมต้องฟังคือประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจไม่ใช่เผด็จการ


วัฒนา เมืองสุข

พรรคเพื่อไทย

20 เมษายน 2560

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews