ไม่มีดราม่า!!! "รองปลัดยุติธรรม" เผยทางรอด "2 ผัวเมียเก็บเห็ด-รุกป่า" เหลือ 2 ทางขอรื้อฟื้นคดี หรือขอพระราชทานอภัยโทษเท่านั้น...ไม่มีอื่น?!

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ไม่มีดราม่า!!! "รองปลัดยุติธรรม" เผยทางรอด "2 ผัวเมียเก็บเห็ด-รุกป่า" เหลือ 2 ทางขอรื้อฟื้นคดี หรือขอพระราชทานอภัยโทษเท่านั้น


วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทวงยุติธรรม (ยธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว หลังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในชั้นฎีกา สั่งจำคุกนายอุดม และนางแดง ศิริสอน 2 สามีภรรยา ชาวบ้านโนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนงเหลือคนละ 5 เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาปี โดย รองปลัด ยธ.ระบุว่า 


กรณีตายายเก็บเห็ด ถือว่าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ตายายต้องรับโทษอาญาตามคำพิพากษา 5 ปี แต่เคยได้รับโทษจำมาก่อนแล้ว 1 ปี 8 เดือน จึงเหลือโทษที่ต้องรับตามคำพิพากษาอีก 3 ปี 4 เดือน

ทางออกมี 2 ทาง คือ การขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 และการขอพระราชทานอภัยโทษ

กรณีการจะรื้อฟื้นคดีกลับมาพิจารณาคดีใหม่นั้น ต้องพิจารณาว่ามีข้อเท็จจริงปรากฎตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 มาตรา 5 หรือไม่ว่า (1) พยานบุคคลซึ่งศาลได้อาศัยเป็นหลักในการพิพากษาคดีอันถึงที่สุดนั้น ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในภายหลังแสดงว่าคำเบิกความของพยานนั้นเป็นเท็จ หรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง

 

(2) พยานหลักฐานอื่น นอกจากพยานบุคคลตาม (1) ซึ่งศาลได้อาศัยเป็นหลักในการพิจารณาพิพากษาคดีอันถึงที่สุดนั้น ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในภายหลังแสดงว่าเป็นพยานหลักฐานปลอมหรือเป็นเท็จ หรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง หรือ (3) มีพยานหลักฐานใหม่อันชัดแจ้งและสำคัญแก่คดีซึ่งถ้าได้นำมาสืบในคดีอันถึงที่สุดนั้น จะแสดงว่าบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุดนั้นไม่ได้กระทำความผิด

 


ซึ่งกรณีนี้ทนายความจะต้องไปยื่นคำร้องให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ได้พิพากษาคดีนั้น โดยศาลที่รับคำร้องดำเนินการพิจารณาและทำความเห็นส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี พิจารณาเพื่อพิพากษายกคำร้อง หรือยกคำพิพากษาเดิม และพิพากษาว่าบุคคลนั้นมิได้กระทำความผิด ซึ่งเมื่อศาลรับคำร้องกองทุนยุติธรรม ก็ได้อนุมัติวงเงินเพื่อใช้ในการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณารื้อฟื้นคดีดังกล่าว รายละ 1 ล้านบาทไว้แล้ว


ส่วนการพระราชทานอภัยโทษ ต้องดำเนินการตามมาตรา 259 พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่บัญญัติว่า ผู้ต้องคำพิพากษาให้รับโทษอย่างใดๆ หรือผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ถ้าจะทูลเกล้าฯ ถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์ขอรับพระราชทานอภัยโทษจะยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews