โถไม่ดูเงาหัวพวกตัวเองเลย! "เรืองไกร" จี้สอบ"เรือดำน้ำ" อ้างไม่เชื่อซื้อขายรัฐต่อรัฐจริง ลืมไปว่าพวกตัวเอง..แก๊ง"จีทูเจี๊ยะ-ข้าวเน่า"ตัวจริง

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 


คิดว่าเป็น"จีทูเจี๊ยะ-ข้าวเน่า"ไปได้!! "เรืองไกร" ยื่นสอบ"เรือดำน้ำ" อ้างไม่เชื่อซื้อขายรัฐต่อรัฐจริง...ลืมไปว่าพวกตัวเองคือ..แก๊ง "จีทูเจี๊ยะ" จากโครงการรับจำนำข้าวอันเน่าเฟะ แถมขู่ให้เวลา 2 สัปดาห์ก่อนร้อง ป.ป.ช. เอาผิด ครม. ทั้งคณะ 

 

วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโร ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการจัดหาเรือดำน้ำว่า มีการใช้เงินแผ่นดินเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือไม่ โดยนายเรืองไกร ระบุว่า ขอให้ สตง.ตรวจสอบเพิ่มเติม คือการจัดซื้อด้วยวิธีรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีจริงหรือไม่ เพราะบริษัทไชน่า ชิปบิวดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งทำสัญญากับกองทัพเรือในกรณีนี้ เคยเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลไทยมาก่อนในลักษณะข้อตกลงระหว่างกองทัพบกกับบริษัทผู้ขายโดยตรงไม่ใช่กับรัฐบาลแต่อย่างใด 

นอกจากนี้ นายเรืองไกรยังระบุว่า อาจมีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลโครงการดังกล่าวเกี่ยวกับตัวเลขการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณวงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท แตกต่างจากโครงการอื่น เช่น โครงการจัดหาสะพานยุทธวิธีสนับสนุนหน่วยทหารช่าง วงเงิน 577.50 ล้านบาท ที่มีการเปิดเผยข้อมูลผ่านเวปไซด์ของรัฐบาลที่ www.cabinet.soc.go.th อย่างไม่ปิดบัง แต่โครงการจัดหาเรือดำน้ำกลับไม่มีการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบอย่างที่เคยปฏิบัติมา

 

"ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับเรือดำน้ำในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจะพบข้อมูล 3 ชิ้น คือ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปประเทศจีนเรื่องเอฟ 26 จี 2 ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีให้ทำเองขนาดเล็ก และ 3 เรื่องการวิจัยพัฒนาและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม ผมสงสัยว่าข้อมูลที่ 3 นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการจัดหาเรือดำน้ำ โดยเรื่องดังกล่าวพล.อ.ประวิตร ทำหนังสือเสนอเข้าครม.เพื่อรับทราบในวันที่ 7 เมษายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้แล้ว ดังนั้น การดำเนินโครงการนี้ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญปี 60 ด้วย หากสตง.ไม่ดำเนินการอะไรภายใน 2 สัปดาห์นี้ ผมจะไปยื่นเรื่องต่อ ปปช.เอาผิดครม.ทั้งคณะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และรัฐธรรมนูญมาตรา 244 กรณีไม่ปฏิบัติตามหลักวินัยการเงินการคลัง" นายเรืองไกร กล่าว 


อย่างไรก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า นายเรืองไกนไม่ดูตัวเองเลย เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่นายเรืองไกรสังกัด หลายคนล้วนโดนคดี "จีทูจีเก๊" หรือที่เรียกกันติดปากว่า  "จีทูเจี๊ยะ" จากโครงการรับจำนำข้าวอันเน่าเฟะ ที่ไม่มีการซื้อขายกันแบบ "รัฐต่อรัฐ" จริง และบางคนกำลังจะถูกยึดทรัพย์...รวมทั้งนายกฯ หญิงอันเป็นหัวหน้ารัฐบาลในขณะนั้นด้วย 

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews