หมดกัน!!ความหวังเดียวของ"ทักษิณ" โลกล้อมประเทศ!! จับตา"สหรัฐฯ"หนุน"พล.อ.ประยุทธ์"ปรองดองก่อน"เลือกตั้ง" จริงใจแค่ไหน?!

หมดกัน!!ความหวังเดียวของ"ทักษิณ" โลกล้อมประเทศ!! จับตา"สหรัฐฯ"หนุน"พล.อ.ประยุทธ์"ปรองดองก่อน"เลือกตั้ง" จริงใจแค่ไหน?!

ภายหลังที่"นาย กลิน เดวี่ส์" เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย  ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง "VOA Thai" ถึงสถานการณ์การเมือง ทำนองอยากเห็นความปรองดองก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งสวนทางจากอดีตที่ผ่านอย่างไม่เหลือเคล้า  เท่ากับเปิดช่องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะคสช.ในการบริหารจัดการดูแลประเทศ ให้เรียบร้อย เพราะฉะนั้นถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปก่อน??

ซึ่งนายกลิน เดวี่ส์ ได้ระบุไว้ว่า.. "สหรัฐฯ ต้องการเห็นความสมานฉันท์ในประเทศไทย และคิดว่าช่วงเวลาการเลือกตั้งของไทยเป็นเรื่องสำคัญอันดับรองลงมา"

"ไม่มีประเทศใดต้องการถูกสั่งสอน และว่าตนคิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยเข้าใจดีว่ากระบวนการประชาธิปไตยจะทำให้ไทยเข้มแข็งขึ้น"

สำหรับความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะพบกับ นายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นาย กลิน เดวี่ส์ กล่าวว่า การเชิญโดยสหรัฐฯ ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนที่แล้วเป็นเสมือนสัญญาณว่า ภายใต้ผู้นำคนใหม่ของอเมริกา รัฐบาลกรุงวอชิงตันจะยังคงสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น

ทูตเดวี่ส์บอกด้วยว่าการที่สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีคนใหม่เป็นโอกาสเร่งเครื่องสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

โดยก่อนหน้านี้ สมัยของนางคริสตี้ เคนนีย์ ดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ผู้ที่ได้ฉายา "ทูตมะกัน หัวใจสีแดง" ที่เคยแสดงบทบาทในไทยงจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า "ล้ำเส้น" และ "ฝักใฝ่" ถือหางเลือกข้างทางการเมืองอย่างออกหน้าออกตา  จนเกิดข้อสงสัยและคำถามกับประชาชนคนไทยถึงสายสัมพันธ์ของทูตสหรัฐฯกับ 'ทักษิณ ชินวัตร' ทั้งการออกวีซ่าให้แก่ทักษิณเข้าออกสหรัฐได้ตามอำเภอใจ ทั้งที่ระเบียบการขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ทั้งยัง เคยเขียนทวิตเตอร์ ถึงคดีที่ “นายโจ กอร์ดอน” คนไทยสัญชาติอเมริกัน ถูกศาลไทยสั่งจำคุกฐานละเมิดกฎหมาย ม.112 เพราะแปลหนังสือต้องห้ามเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ว่า... “สหรัฐฯ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอย่างสูง แต่ขณะนี้มีความกังวลต่อการตัดสินที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น”

 

หมดกัน!!ความหวังเดียวของ"ทักษิณ" โลกล้อมประเทศ!! จับตา"สหรัฐฯ"หนุน"พล.อ.ประยุทธ์"ปรองดองก่อน"เลือกตั้ง" จริงใจแค่ไหน?!

 

ทั้งนี้ภายหลังพ้นตำแหน่งด้านนายบารัค โอบามา อดีตผู้นำสหรัฐ ก็ได้แต่งตั้ง กลิน ที เดวีส์ ต่อจากนางคริสตี้ เมื่อวันที่  13 เมษายน 2558 อย่างเป็นทางการ ซึ่งพฤติกรรมของนายกลิน เดวีส์ ไม่ได้ต่างอะไรกันนักกับบางคริสตี้ เคยกล่าวถึงบทลงโทษที่ยาวนานต่อผู้ที่ถูกพิพากษาลงโทษฐานละเมิดกฎหมายหมิ่นสถาบันฯว่า  “เรายังกังวลที่ศาลทหารพิพากษาจำคุกพลเรือนผู้กระทำความผิดตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นเวลายาวนานเกินไป อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน” และยังก้าวล่วงแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ซึงมีทาท่ากดดันให้ไทยจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด 

หมดกัน!!ความหวังเดียวของ"ทักษิณ" โลกล้อมประเทศ!! จับตา"สหรัฐฯ"หนุน"พล.อ.ประยุทธ์"ปรองดองก่อน"เลือกตั้ง" จริงใจแค่ไหน?!

ทูตสหรัฐ เคยให้สัมภาษณ์หลังพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2017 ได้กล่าวถึง "การประเมินความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย" โดยระบุว่า..ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกานั้นเข้มแข็ง ในปีหน้าพวกเรากำลังจะฉลองครบรอบ 200 ปี ที่ไทยและสหรัฐอเมริกามีการติดต่อสัมพันธ์กันเป็นครั้งแรก และเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาจะมีการปรับปรุง เพราะอย่างที่เห็นว่าขณะนี้ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย กำลังจะกลับเข้าสู่การจัดการเลือกตั้ง และนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ให้คำมั่น และเราก็หวังว่าเขาจะปฏิบัติ เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า

 

พาลให้เกิดข้อสงสัยในทิศทางของสหรัฐ สำหรับการเมืองไทย ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ สหรัฐเองมีความจริงใจแค่ไหน หรือว่ากำลังเล่นละครหลอกคนทั้งโลก ดังนั้นต้องกลับไปดูที่จุดเริ่มต้น แน่นอนที่ว่า เอกอัครราชทูตเป็นข้าราชการการเมืองขึ้นตรงกับประธานาธิบดี ดังนั้นเมื่อประธานาธิบดีเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน เอกอัครราชทูตก็ต้องปฎิบัติตามแนวนโยบายของประธานาธิบดี

อย่างไรภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ต่อจากนาย บารัก โอบามา  ทรัมป์ได้ทำการยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่เป็นผลผลิตของโอบามา  ไม่ว่าจะเป็น ประกันสุขภาพ"โอบามาแคร์"  ซึ่งทรัมป์ เซ็นคำสั่งพิเศษที่จะทำให้มีการยกเลิกหลังขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงไม่กี่ชั่วโมง หรือเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม   ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อยกเลิกนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาประกาศถอนตัวจากความตกลงปารีส ซึ่งเป็นกรอบอนุสัญญา สหประชาชาติว่าด้วยการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พร้อมให้เหตุผลว่าข้อตกลงนี้เพิ่มภาระทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ 

สอดคล้องกับนโยบายทางการทูต ที่มีต่อไทย ดังนั้นการจัดระเบียบใหม่ของสหรัฐ  และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีต่อไทย และรัฐบาล โดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะส่งผลต่อการตัดความสัมพันธ์ผู้ที่อ้างว่าเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย”กับกลุ่มที่ชักใยอยู่ในอเมริกา ที่เคยจัดหาทุนมาสนับสนุนสร้างความวุ่นวายในประเทศไทย ได้หรือไม่

และวันนี้ความหวังเดียวของทักษิณคือ "โลกล้อมประเทศ" จะจบสิ้น หรือจนมุมหมดทางแล้ว..เหลือเฉพาะเครือข่ายคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยกองกำลังติดอาวุธซึ่งทักษิณก็ได้ปฎิเสธแล้วไม่ใช่พวกตัวเอง ก็ต้องจับตาดูกันต่อไป