โมเดลล้มระบอบทักษิณ!! ผนึกกำลัง"ปชป.-กปปส.-คสช." VS.โมเดล"แดงผสมฟ้า" ต้านคสช.!! จับตา"ประชาธิปัตย์" จะเลือกทางไหน!!??

โมเดลล้มระบอบทักษิณ!! ผนึกกำลัง"ปชป.-กปปส.-คสช." VS.โมเดล"แดงผสมฟ้า" ต้านคสช. จับตา"ประชาธิปัตย์" จะเลือกทางไหน!!??

จากกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยถึงแนวความคิดโมเดลจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นเอกภาพมากกว่านี้ ปัญหาภายในกับแกนนำกปปส.รวมถึงต้องไม่ทะเลาะกับทหาร ต้องร่วมกันต่อสู้กับ"ระบอบทักษิณ"  ถ้าทั้ง3 ส่วน จับมือเป็นหนึ่งจะต่อสู้กับระบอบทักษิณในระยะเปลี่ยนผ่านได้ ถ้าเเยกกันเดินเเยกกันตี เชื่อว่าจะพ่ายเเพ้ 

 

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโมเดลสามประสานต่อสู้กับระบอบทักษิณ ว่า ..

"เป็นเรื่องที่แต่ละองค์กรพิจารณาดำเนินการ เพราะว่าแต่ละองค์กรอาจมีความเห็นร่วมกันบางประเด็น แต่ก็อาจมีความเห็นต่างกันบางประเด็นเช่นกัน ดังนั้น แต่ละองค์กรสามารถดำเนินการในจุดยืนของตนเองที่เป็นอิสระ อะไรที่เห็นพ้องร่วมกันก็ดำเนินการร่วมกัน แต่อะไรที่เห็นต่างกันก็ดำเนินการไปตามจุดยืนแต่ละองค์กร ส่วนระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับ กปปส.ก็มีความเป็นเอกภาพเช่นเดิม เพราะ กปปส.เองก็เป็นสมาชิกพรรคอยู่แล้ว"

ซึ่งก่อนหน้าได้มีแนวความคิดทำนองเดียวกัน แต่ต่างกันที่คนละขั่วการเมือง คือ โมเดล 4พรรคใหญ่ เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ "แดงผสมฟ้า"จับมือต่อสู้ "พรรคทหาร" จากนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้ระบุไว้ว่า ..

 

โมเดลล้มระบอบทักษิณ!! ผนึกกำลัง"ปชป.-กปปส.-คสช." VS.โมเดล"แดงผสมฟ้า" ต้านคสช.!! จับตา"ประชาธิปัตย์" จะเลือกทางไหน!!??

"เมื่อดูจากรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เอื้อให้มีนายกฯ คนนอกเเล้ว มีทางเดียวที่พรรคการเมืองจะต่อสู้กับพรรคทหาร รักษาประชาธิปไตยได้ คือ 4 พรรคใหญ่ คือ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา จะต้องสงบศึก ผนึกกำลังกันเพื่อต่อสู้พรรคทหารตกลงกันก่อนเลือกตั้งว่า ระหว่างหาเสียงอย่าโจมตีสาดโคลนกัน ต่างคนต่างชูนโยบายพรรคของตนให้ประชาชนชี้ขาด เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเเล้วพรรคไหนได้ ส.ส.มากกว่าก็ให้ 4 พรรคใหญ่สนับสนุนพรรคที่ชนะได้เป็นนายกฯ ไม่เช่นนั้นนักการเมืองจะปิดประตูเเพ้แน่ ต้องทนอยู่กับรัฐบาลทหารตามยุทธศาสตร์ชาติที่ร่างขึ้นมาอีก 20 ปี ขอเสนอเป็นโมเดลเอาไว้ คนที่จะเจอผลกระทบก็คิดกันเอาเอง เพราะอีก 20 ปี ปู่คงไม่อยู่เเล้ว"

ด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ปัญหาความแตกแยกที่ผ่านมามาจากการยึดตัวบุคคลและแบ่งฝ่ายกัน แต่การแก้ปัญหาประเทศคือการปฏิรูปการเมือง ตั้งแต่การได้มาซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตลอดจนการใช้และการตรวจสอบอำนาจรัฐ ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นเรื่องสำคัญ โดยเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่การจะให้พรรคการเมืองใหญ่จับมือกันอาจจะเกิดผลเสียในทางที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จจนนำมาซึ่งเผด็จการรัฐสภา
       
       “ถือเป็นแนวคิดของแต่ละคน แต่ส่วนตัวไม่ได้คิดต่อต้านหรือขัดแย้งใคร เพราะพยายามแก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างความปรองดองโดยตลอด สุดท้ายการเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้กำหนด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเกิดปัญหาความขัดแย้งตลอดเวลา และไม่เป็นผลดีโดยรวม แต่ก็ย้ำด้วยว่าในรัฐธรรมนูญเอง ก็กำหนดให้ ส.ว.เป็นตัวคานอำนาจที่จะไม่ปล่อยให้ระบบที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดขับเคลื่อนไปด้วยตัวเองทั้งหมด”

อย่างไรก็ตามก็จับตามดูท่าทีของพรรค "ประชาธิปัตย์" โดยการนำของ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ในฐานะของหัวหน้าพรรค ที่จะเลือกเดินไปในทิศทางใด ระหว่างถอยสักก้าว เพื่อเดินต่อ รวมมือกับคชส. และ กปปส. หรือยอมกลืนน้ำลายตัวเอง เข้ากับ"เพื่อไทย" ตามคำแนะนำของอดีตหัวหน้าพรรค และสุดท้าย เลือกที่จะยืนสู้เพียงลำพัง ??