" ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง"เจ้าของสโลแกน "มึงรู้ไหมกูลูกใคร" เส้นทางกลีบกุหลาบสีกากี.."จากผู้ต้องหาสู่สารวัตร"

 กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งสำหรับลูกๆของ " ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"  อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย และอดีตรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งไม่นานมานี้ ลูกชายคนรอง "นายวัน อยู่บำรุง" เกือบทำเรื่องให้หัวเสีย เพราะด้วยความอารมณ์ร้อน โพสต์เฟซบุ๊คโชว์ด่าหยาบๆคาบๆ วิจารณ์การทำงานคณะคสช. แต่โชคดีดึงสติกลับมาทัน รีบลบโพสต์  ขึ้นข้อความโทษ รีบคว้าพวงมาลัยขออภัย "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และ "พล.ท อภิรัชต์ คงสมพงษ์ "แม่ทัพภาคที่ 1 ไม่หมาดๆ ผ้าไม่ทันจะแห้ง  "อยู่บำรุง" ก็ได้เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นกรณีของลูกชายคนเล็ก เจ้าของสโลแกน “มึงรู้ไหมกูลูกใคร” " ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง" ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตร ที่ จ.สมุทรสาคร

จากกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีคำสั่งที่ 248/2560 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 2560 เกี่ยวกับการโยกย้ายตำแหน่งของนายตำรวจ ระดับสารวัตร และผู้บังคับการ เป็นวาระประจำปี 2559 จำนวน 1,112 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ปรากฏชื่อของ ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม 

ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่ง สตช. ฉบับที่ 248/2560 ดังกล่าว ระบุว่า ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง ตำแหน่งเดิม นว.(สบ.1) ผบก.ส.4 ได้ปรับขึ้นตำแหน่งใหม่เป็น สารวัตรฝ่ายอำนวยการ สถานีตำรวจภูธร จ.สมุทรสาคร (สว.ฝอ.ภ.จว.สมุทรสาคร) 

 

 

หากย้อนไปดูประวัติของ"ลูกดวง" จะพบกับวีรกรรมอันสุดจะโด่งดังไปทั้งประเทศ ซึ่งได้ตกเป็น 'ผู้ต้องหาคดีฆ่าดาบยิ้ม' ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ   ตำรวจกองปราบปราม ที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 6.35 มม.เสียชีวิตภายในคลับทเวนตี้ ผับ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถ.รัชดาภิเษก เมื่อกลางดึกของวันที่ 29 ต.ค.2544  ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ถูกสังคมจับจ้องมากที่สุดในขณะนั้น เพราะผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ และตกเป็นผู้ต้องหาลั่นไกสังหาร คือ “ดวง ”ในขณะที่เขารับราชการทหาร ติดยศร้อยโท แต่หลังจากเกิดเหตุ กลัยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้ตำรวจจะระดมกำลังค้าหาแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่พบแม้แต่เงา  ด้านผู้เป็นพ่อ ได้ออกมายืนยันว่า ลูกชาย ไม่ได้หนีไปไหนแค่หลบไปตั้งตัวเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ส่วนคนที่ยิงดาบยิ้มตาย คือ “ไอ้ปื๊ด” คนสนิทผู้ติดตามลูกชาย แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่ได้ให้ความสนใจนำมาเป็นสาระสำคัญของคดี

อนิจจจัง.. 6เดือนผ่านไป  “ดวงเฉลิม” ได้เข้ามอบตัวที่สถานทูตไทยในมาเลเซีย เมื่อเช้าวันที่ 2 พ.ค.2545 ก่อนถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ไม่มีการตั้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน" หลังจากนั้น พนักงานอัยการก็ส่งฟ้อง “ดวง” กับพวกอีก 2 คน  เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย  ขณะที่คุณพ่อ พยายามต่อเนื่อง นำตัว “ไอ้ปื๊ด” หรือนายเฉลิมชนม์ บุริสมัย เข้ามอบตัวอีกรอบ แต่ก็ถูกเมิน เนื่องจากในทางการสืบสวนของตำรวจขณะนั้น เห็นว่า “ไอ้ปื๊ด” ไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องกับคดี

กระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไป จนท้ายที่สุด ศาลอาญา พิจารณาพยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วมีคำพิพากษายกฟ้อง !!! อย่างไรเสียทางกระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่งพักราชการ โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น ลงนามในคำสั่ง 'ปลดออกจากราชการ' ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และ 'ถอดยศทหาร' เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2544

 

       

นอกจากนั้น ร.ต.อ.ดวง ยังมีคดีติดตัวอีก 1คดีทำร้ายร่างกายนักศึกษา ABAC บริเวณผับในท้องที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งผลของคดีคืออธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงสั่งไม่ฟ้อง คดีเด็ดขาด

 อย่างไรก็ตามเส้นทางชีวิตราชการของ 'ดวง'  ก็ได้เปร่งแสงขึ้นอีกครั้ง เพราะนายสมัคร สุนทรเวช  อดีตนายกรัฐมนตรี  ได้เป็นผู้ลงนาม เซ็นคำสั่งคืนยศ 'ร.ต.' ให้ลูกดวง ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อ 'นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง' พร้อมทั้งลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้นายดวงเฉลิม ลูกชายคนสุดท้องของ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งขณะนั้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ กลับเข้ารับราชการ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ในยศ" ร้อยตรี " สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ซึ่งตัวนายสมัคร ได้กล่าวยอมรับว่าได้เซ็นคำสั่งคืนยศ ร.ต. ให้นายดวงเฉลิมแล้ว โดยให้มีผลทันที เพราะคดีความสิ้นสุดแล้ว ทั้งนี้กองทัพเป็นคนเสนอเรื่องนี้มาเอง โดยคำสั่งดังกล่าวส่งผลให้นายดวง กลับเข้ารับราชการอีกครั้ง หลังถูกทางกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ ไปนานถึง 7 ปี

จากนั้นได้มีคำสั่งโอนย้ายอย่างพิสดาร ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีคำสั่งรับโอน ร.ท.ดวง อยู่บำรุง ผู้บังคับหมวด กองร้อยสารวัตรทหาร สารวัตรยุทธบริการทหาร กระทรวงกลาโหม ไปบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรแล้ว โดยแต่งตั้งให้มียศ ร.ต.ท. ดำรงตำแหน่งรองสารวัตรศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระดับ ส.1 ขั้น 16.5 มีอัตราเงินเดือน 14,070 บาท ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2555 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เซ็นคำสั่งดังกล่าว และส่งเรื่องไปยังปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ ร.ท.ดวง อยู่บำรุง พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ในกระทรวงกลาโหม และมารับราชการในกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยจะต้องไปรายงานตัวที่ ศฝร.บช.น. พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

การโอนย้ายครั้งนั้น เร็วกว่าอินเตอร์เน็ต4Gในสมัย ทันใจภายใน 17 วัน โดย ยอดคุณพ่อ ได้ออกมายืนยันถึงความโปร่งใส ปราศจากข้อครหาใดๆ ยืนยันว่า ลูกชายไม่ได้ใช้เส้นสาย หรือได้ไปเพราะความเกรงใจ เพราะหากเกรงใจจริง น่าจะได้ไปอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลมากกว่าที่ศูนย์ฝึกอบรม ซึ่งตนเชื่อว่า การที่ลูกชายได้ไปเป็นครูฝึก "เพราะลูกชายยิงปืนแม่นมาก" ซึ่งตำรวจหาครูฝึกที่ยิงปืนแม่นยาก
       

ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง ใกล้จะได้รับการเลื่อนยศเป็น พ.ต.ต. ในเร็ว ๆ นี้