กลยุทธโฆษณาชวนเชื่อ "ทักษิณปลดหนี้IMF" ขบวน"ลูกน้องนายใหญ่" การลวงหลอกประชาชน สร้างภาพ "วีรบุรุษ" จอมปลอม!!??

กลยุทธโฆษณาชวนเชื่อ "ทักษิณปลดหนี้IMF" ขบวน"ลูกน้องนายใหญ่" การลวงหลอกประชาชน สร้างภาพ "วีรบุรุษ" จอมปลอม!!??

สืบเนื่องจากการที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีโซเซียลมีเดีย โลว์ เลิฟ เปิดให้โหวตอยากให้ใครมาบริหารประเทศ โดยปรากฎว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้คะแนนอันดับ 1 ว่า ในช่วงที่นายทักษิณบริหารประเทศ ประชาชนจำได้ว่า มีการใช้จ่ายคล่องมือ อีกทั้ง นายทักษิณ สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้โดยการชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ ทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น และทำให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันได้สูงขึ้น แม้กระทั่งประเทศสิงคโปร์ก็ยังมองไทยเป็นคู่แข่งคนสำคัญ

นายพิชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายทักษิณ มีแนวทางการออกนโยบายที่ดีในทุกด้าน เพื่อให้ภาพใหญ่ของประเทศมีความเจริญและมั่นคง อย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน สินค้าโอท็อป บ้านเอื้ออาทร สิ่งเหล่านี้ทำให้คนจำได้ ซึ่งใครที่ทำให้เศรษฐกิจดีประชาชนก็อยากให้คนนั้นกลับมา ดังนั้น เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลควรนำไปปฏิบัติ เป็นทำสิ่งดีๆให้กับประชาชน 

ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแต่นายพิชัย เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยกเรื่องเศรษฐกิจ อ้างเอาดีเข้าตัว "การชำระหนี้IMF" เป็นคนผลสุดแสนจะภาคภูมิใจ ของ"ทักษิณ" เท่านั้น ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ขาประจำสำหรับอย่างนายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย  ได้ออกมาเชิดชูนายทักษิณ สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินประเทศ จากวิบากกรรมเรื่องเงินกู้ IMF ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี  เช่นกัน

ในความเป็นจริง ..จริงอยู่ที่ไทยสามารถชำระหนี้ก้อนสุดท้ายในรัฐบาลทักษิณ แต่"ทักษิณ ชินวัตร" หาใช่"วีรบุรุษ" แต่อย่างใด เป็นเพียงกลยุทธโฆษณาชวนเชื่อ  "กวนน้ำให้ใส" หลอกลวงประชาชน และทำให้ถูกมอมเมาโดย"กลุ่มลูกน้องนายใหญ่" ต่อไปอีกว่า "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกฯ ที่บริหารเศรษฐกิจเก่ง มีบุญคุณต่อประเทศไทยต่างๆนาๆ

โดยวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540ทำให้ไทยต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มี นายทักษิณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ที่มี นายทักษิณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ ได้ลาออก เพื่อแลกกับเงินกู้ IMF 14,500 ล้านเหรียญสหรัฐ พยายามแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่และได้เบิกเงิน จากIMF มา2งวดแล้ว จำนวนเงิน4000ล้านเหรียญ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาเสรษฐกิจได้ จนต้องยอม ลาออกไปในปลายปี2540

จากนั้นรัฐบาล"ชวน หลีกภัย" ได้เข้ามาบริหารราชการต่อ ได้ขอเบิกเงินจากสัญญาเงินกู้ 14000 ล้านดอลล่าร์(เบิกน้อยกว่าจำนวนที่ทำสัญญา 3200ล้านดอล่าร์) เมื่อได้เข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลชวน ได้ทะยอย ใช้หนี้ ตั้งแต่ปี 2541-2543 เป็นเวลา 3 ปี จำนวนเงินที่ใช้หนี้ไปทั้งสิ้น 9200 ล้านดอลล่าร์

สถานการณ์ประเทศไทยดีขึ้น จนถึงช่วงกลางปี 43  จึงได้ตกลงเลิกกู้จากไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด 1 ปี จากเดิมที่เคยกำหนดว่าจะทยอยรับเงินกู้เรื่อยๆ ไปจนถึงงวดสุดท้าย ณ กลางปี 2544 ที่จะทำให้มีกำหนดชำระหนี้งวดสุดท้าย ณ กลางปี 2547 (กำหนดชำระ 3 ปี)

แต่เมื่อกู้เงินน้อยลง โดยเลิกรับเงินกู้เร็วขึ้น 1 ปี กำหนดการชำระเงินกู้งวดสุดท้ายย่อมเร็วขึ้น 1 ปี ตามไปด้วย เพราะฉะนั้น กำหนดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ งวดสุดท้าย จึงเร็วขึ้น จากกลางปี 2547 เหลือเพียงกลางปี 2546 ประเทศไทยก็จะหมดหนี้IMF

ต่อมา เป็นรัฐบาล ทักษิณ ได้ตัดสินใจใช้หนี้ส่วนที่เหลือทั้งหมด ในปี 2546 จำนวนเงิน 4800 ล้านดอลล่าร์ โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวดๆละ 1600 ล้าน ดอลล่าร์ รัฐบาลทักษิณ ใช้เวลา บริหาร 2544-2546 เป็นเวลา3ปี ใช้หนี้IMFส่วนที่เหลือ 4800 ล้านดอลล่าร์

จากนั้น นายทักษิณได้ กล่าวอ้างกับประชาชนผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ   ตอนหนึ่งระบุว่า .." ซึ่งรัฐบาลที่แล้วได้ใช้หนี้ส่วน 510,000 ล้านบาทนี้ไป 10,000(2 เปอร์เซ็นต์) ล้านบาท เหลือหนี้ทั้งหมด 500,000 ล้านบาท (98 เปอร์เซ็นต์) รัฐบาลนี้ได้เข้ามาทำงาน 2 ปีครึ่ง ได้ชำระหนี้ทั้ง 500,000 ล้านบาทหมดในวันนี้ ทำให้เราถือว่าหมดพันธะต่อการที่ต้องพึงปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีไว้ต่อไอเอ็มเอฟ "

กลยุทธโฆษณาชวนเชื่อ "ทักษิณปลดหนี้IMF" ขบวน"ลูกน้องนายใหญ่" การลวงหลอกประชาชน สร้างภาพ "วีรบุรุษ" จอมปลอม!!??

ถ้าเอาข้อมูลแวดล้อมและจำนวนเงินที่ใช้หนี้เงินกู้ IMF ระหว่างรัฐบาล ชวน หลีกภัย กับ รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ตอนที่ รัฐบาลชวนเข้ามา จีดีพี ของไทย ติดลบ และเมื่อ รัฐบาลชวน ส่งมอบให้ รัฐบาล ทักษิณ นั้น จีดีพี เป็นบวก อยู่ที่4.92

 เมื่อมองทั้งค่าความยาก และจำนวนเงินที่ใช้หนี้ ในระยะเวลา 3ปี เท่ากันแล้ว เรื่อง IMF รัฐบาล ชวน ทำได้ดีกว่า รัฐบาล ทักษิณ

หากเปรียบเทียบข้อมูลที่แท้จริงแล้ว ลองตรองดูว่า เรื่องเงินกู้IMF กับ สิ่งที่ ทักษิณและขบวนการ โฆษณาชวนเชื่อว่า เป็นผู้ใช้หนี้IMF ซึ่งเจตนา เหมือนกับว่า "คนอื่นกู้ แต่เขาเป็นผู้ใช้หนี้ให้กับประเทศแต่ผู้เดียว" มันถูกต้องชอบธรรมหรือไม่

อย่างไรก็ตามความพยายามที่จะหยิบยก ความดีความชอบในการบริหารเศรษฐกิจจนสามารถปลดหนี้ก้อนโต ไอเอ็มเอฟได้นั้น  ไม่ได้เกิดขึ้น ภายในเดือนสองเดือน แต่กระทำดังกล่าว มีมานานมากแล้ว ความพยายามลวงหลอกประชาชนคนไทยด้วยเรื่องลวงๆ พรรค์อย่างนี้ต่อไปอีก เพียงหวังจะสร้างภาพลวงเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัวของคนที่หลบหนีคดีทุจริตโกงกินบ้านเมือง