ดูเป็นเยี่ยง..บทเรียนราคาแพง "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจตนากลั่นแกล้งโทษสูงสุด "จำคุกตลอดชีวิต"!!??

ดูเป็นเยี่ยง..บทเรียนราคาแพง "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจตนากลั่นแกล้งโทษสูงสุด "จำคุกตลอดชีวิต"!!??

ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนือง สำหรับ "ธาริต เพ็งดิษฐ์ "อดีตอธิบดีกรมสอบสวคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เจ้าของฉายา "ธาริต เปลี่ยนสี" โดยตลอดชีวิตราชการของนายธาริตถูกระบุว่า รับใช้การเมือง ‘ทุกขั้วทุกสี’ และมักทุ่มสุดตัว ออกหน้าแทนโดยไม่แคร์

ล่าสุดศาลฎีกาประทับรับฟ้องคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)  ยื่นฟ้อง"ธาริต" เเละพวก 3 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หลังจาก 2 ศาลแรก ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 157, 200

สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ค.2554 ถึงวันที่ 13 ธ.ค. 2555 จำเลยทั้งสี่ได้สรุปสำนวนกล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนาและเล็งเห็นผล จากการออกคำสั่ง ศอฉ.ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ซึ่งโจทก์เห็นว่าการแจ้งข้อหาบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ดีเอสไอไม่มีอำนาจต้องเป็นการวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เท่านั้น

ภายหลังจากการตรวจสอบอดีตที่ผ่านมาของนายธาริต พบว่า เคยต้องคดีในความผิดฐาน"ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" มาแล้ว 

 เมื่อวันที่ 2 มี.ค.60  นายธาริต  พร้อมด้วย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ พ.อ. ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้อง ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157  ศาลพิพากษาแก้ให้จำคุกนายธาริต และนายชาญเชาวน์ คนละ 2 ปี แต่ทั้งสองคนรับราชการทำคุณงามความดีและไม่เคยต้องโทษจำคุก จึงให้รอลงอาญา 2 ปี

ดูเป็นเยี่ยง..บทเรียนราคาแพง "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจตนากลั่นแกล้งโทษสูงสุด "จำคุกตลอดชีวิต"!!??

 

โดยมาตรา 157 ระบุว่า..

ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่สำหรับคดีที่นายอภิสิทธิ์-นายสุเทพ ยืนฟ้องนายธาริต ในครั้นนี้นอกเหนือจากความผิดในฐานเป็นเจ้าหน้าที่"ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ"  และยังอาจจะมีความผิด หากศาลพิพากษาว่า นายธาริต"มีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ" ซึ่งโทษสูงสุด เท่ากับจำคุกตลอดชีวิต

มาตรา 200  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้น เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท

ถือบทเรียนที่ข้าราชการประจำควรจดจำ หากรับใช้นักการเมือง อย่าง "นายธาริต เพ็งดิษฐ์"  ..สิ้นชีพ"ปลาสองน้ำ นกสองฟ้า" จบชีวิตราชการ ด้วยการถูกไล่ออก