อย่ามากังวลกับผมว่าจะอยู่ต่อหรือไม่" ชัดๆ จากปาก"บิ๊กตู่" หลังถูกถามเรื่องอนาคต ยันทำวันนี้ให้ดีก่อน-จากนั้นสถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด!?

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 


"อย่ามากังวลกับผมว่าจะอยู่ต่อหรือไม่" ชัดๆ จากปาก "บิ๊กตู่" หลังถูกถามเรื่องอนาคตว่าจะตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ ยันทำวันนี้ให้ดีก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน  สถานการณ์จะเป็นตัวชี้ชัดออกมาเองว่า ควรจะต้องทำอย่างไรในอนาคต ส่วนเรื่อง "ไพรมารี่โหวต" ที่อาจทำให้การเลือกตั้งล่าช้า นายกฯ ระบุ ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้โรดแมปขยับ


วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีที่นิด้าโพลได้สำรวจความเห็นของประชาชน และพบว่ามีประชาชน 53.52% สนับสนุนให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องทางการเมือง เรื่อง การจัดตั้งรัฐบาล เรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง ตนยังไม่ได้คิด คิดแต่เพียงว่าเราจะแก้ไขการบริหารจัดการราชการแผ่นดินอย่างไรเท่านั้น ขณะที่เรามีรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายลูก หลายอย่างจึงไปมุ่งเน้นการเมืองไม่ได้ ให้เป็นหน้าที่ของแม่น้ำ5สาย เพื่อทำให้เรามีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล 

"อย่ามากังวลกับผม ว่าผมจะอยู่หรือเปล่า อยู่ยังไง ตั้งพรรคหรือเปล่า ผมยังไม่คิดตรงนี้ วันนี้ทำให้ผ่านไปก่อน สถานการณ์จะเป็นตัวชี้ชัดออกมาเอง ว่าเราควรจะต้องทำอย่างไรต่อไปในอนาคต " นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เราต้องคาดหวังว่า จะมีสิ่งดีๆที่ทำได้ ทำสำเร็จ อย่าไปคิดว่าจะต้องทำโน่นทำนี่เวลานี้ จะทำให้สมาธิเสีย และวันหน้าจะอยู่ที่ประชาชน อย่างไรก็ตามตนขอขอบคุณผู้สนับสนุน และผู้ไม่สนับสนุน 

 

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองรุมค้าน "ไพรมารี่โหวต" ซึ่งจะส่งผลให้การเลือกตั้งล่าช้า นายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชากล่าวว่า กรอบงานของตนก็คือ ทำอย่างไร ไม่ให้โรดแมปขยับเขยื้อน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องไปทำงานให้ได้ตามนั้น หากหาข้อยุติไม่ได้ คงไม่ใช่เรื่องของตน  ตนจะไปให้สัญญานว่า ไม่ให้เค้าไม่ผ่าน ไม่ใช่ เคยเห็นหรือไม่กับการถกแถลงในสนช, สปท ซึ่งมีกรรมการเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย 


.มีความเห็นคนละทาง 2 ทาง และทั้งหมดก็ด้วยความหวังดีต่อบ้านเมือง เพราะฉะนั้นก็ต้องไปหาวิธีการว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ล่าช้า และมีผลกระทบกับการเลือกตั้ง" นายกฯ ระบุ

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
 

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam