"เจอดี-มีคลิป" วิทยา ทวงคืนความยุติธรรม"เยียวยาตร." ผลกระทบซื้อ-ขายตำแหน่ง คนดีไม่มีที่ยืน!!!

ยังเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง สำหรับการซื้อ-ขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจจุดเริ่มต้มมาจาการที่ นายวิทยาแก้วภราดัย อดีตแกนนำกปปส. ออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อมาก็ได้ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจในม.44ให้สั่งยกเลิกบัญชีโยกย้ายครั้งที่ผ่านมาและยุติการโยกย้ายตำรวจจนกว่าการปฏิรูปตำรวจจะเสร็จสิ้น

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ก็ได้วางโรดแมพเดินหน้าปฏิรูปวงการสีกากีใน 9 เดือน 3 แนวทางปฏิบัติ

1.ให้พิจารณาระดับองค์กร โครงสร้างระบบงานภารกิจและบทบาทอำนาจหน้าที่จะเป็นอย่างไร
2.เรื่องกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ระเบียบกติกาจะเป็นอย่างไรการป้องกันการทุจริตจะมีแนวทางอย่างไรระบบการสอบสวนจะเป็นอย่างไร
3.ระบบบริหารงานบุคลากรการเลื่อนลดปลดย้ายการเจริญเติบโตและสวัสดิการต่าง ๆ

ทั้ง 2 คณะกรรมการดำนินการคู่ขนานกันไปโดยแบ่งเป็น 2 เดือนแรกจะเป็นขั้นตอนการรวบรวมปัญหาต่าง ๆ ศึกษาเรื่องราวว่ามีความโยงใยกับปัญหาอื่น ๆ หรือไม่

ส่วน 4 เดือนต่อมาเป็นขั้นตอนของการของการกำหนดวิธีการปฏิบัติแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ

และ 3 เดือนสุดท้ายจะเป็นการทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประชาชนหรือผู้เกี่ยวข้องว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไร

ขณะเดียวกันนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำกปปส. ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทีนิวส์ ถึงประเด็นการเยียวยาตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากถูกโยกย้ายตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรม และได้เปิดเผยตัวเลข ตลอดระยะเวลา 3ปีที่ผ่าน ตั้งแต่ ปี57-59 มีการร้องเรียนมากกว่า500เรื่อง และเรื่องทั้งหมด ไม่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย ซึ่งนายวิทยา ระบุว่า....

ตนขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ได้แถลงถึงทิศทางของการปฏิรูปตำรวจ และก็ได้วางกรอบระยะเวลาในการที่จะเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการที่จะทำการปฏิรูปตำรวจ  ส่วนในข้อเสนอของตนที่จะให้นายก ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา ซึ่งเข้าใจที่นายกบอกว่ายกเลิกไม่ได้ เพราะหลายท่านก็ไปรับตำแหน่งกันแล้ว  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็อยากจะให้นายกและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตี ได้โปรดหาทางเยียวยากับคนที่ได้รับผลกระทบเพราะตั้งแต่ปี  57- 59 มีเรื่องร้องเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เรื่องการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมและร้องขอความเป็นธรรมไป  ปรากฏว่าใน 500 กว่าเรื่องที่มีการร้องเรียนใน 3 ปี ที่ผ่านมานี้  ไม่มีการพิจารณาที่จะเยียวยาให้เลย 

นายวิทยา ยังระบุอีกด้วยว่า ..นอกจากนี้ตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย ไปใช้สิทธิ์ทางศาลปกครอง ศาลปกครองก็ไม่รับฟ้องเพราะมีคำสั่ง คสช.ในปี 59 ในการที่จะไม่เปิดช่องให้เขาใช้สิทธื์ทางศาลปกครองได้ เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาก็เกิดกรณีอื้อฉาวขึ้นเยอะครับ  ตำรวจดีดีที่ได้รับรางวัลดีเด่นกลับถูกโยกย้ายไปกินตำแหน่ง  ซึ่งไม่อยู่ในความเชี่ยวชาญของตัวเองเลย  และก็มีหลายที่ครับที่เขาได้รับผลกระทบเดือดร้อนอย่างนี้

 อาจจะเพราะเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ก็ตาม หรืออาจจะเป็นการตั้งใจที่จะเปิดตำแหน่งให้ว่างเพื่อให้บุคคลอื่นมาแทน  ปัญหาว่าเราจะเยียวยาคนเหล่านี้เขาอย่างไร  เพราะฉะนั้นเมื่อกฏหมายไม่เปิดช่องร้องไปยังสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ 3 ปีที่ผ่านมาครับ 500 กว่าเรื่องไม่มีเรื่องใดได้รับการพิจารณา  จะไปใช้สิทธิ์ทางศาลปกครองก็ไม่ได้ ปัญหาว่าคนเหล่านั้นที่ถูกย้ายจากถิ่นทำเลที่ตัวเองเกิด  ตัวเองทำงาน  ตัวเองมีความเชี่ยวชาญ ออกไปนอกถิ่น ใครจะเยียวยาเขา ผมก็อยากให้ทางรัฐบาลหาช่องทางที่จะให้คนเหล่านั้นใช้สิทธิ์ได้  วันนี้ผมไม่แน่ใจว่าการเปิดช่องให้ไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรมนั้นจะมีเรื่องร้องเรียนเขจ้าไปสักกี่เรื่อง

 อยากให้รัฐบาลตามดูด้วยครับว่าหลังจากเปิดช่องตามคำสั่งที่ 7/2560  ของคสช.  มีคำสั่งมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดี๋ยวนี้มีใครไปใช้ช่องทางกระทรวงยุติธรรมบ้างหรือไม่  แต่ช่องทางสำนักงานตำรวจเเห่งชาติและช่องทางศาลปกครองปิดสนิทครับไม่สามารถใช้ได้   ก็อยากเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือเยียวยาคนเหล่านี้ด้วยครับ

 

 ทั้งนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่าการปฏิรูปตำรวจนั้นจะสามารถอุดช่องโหว่แก้ไขข้อบกพร่องในอดีต รวมถึงการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการซื้อขายตำแหน่ง ได้อย่างไร ? เพื่อให้สังคมและประชาชนกลับมายอมรับและเชื่อมั่นศรัทธาในองค์กรตำรวจอีกครั้ง