ยุ่งล่ะ!! "วิษณุ" นัด"บุญสร้าง" ถกปฎิรูปตร.พรุ่งนี้ ขณะภาคประชาชนจี้"บิ๊กตู่" ปลดกก.ทั้ง36 คน เหตุไม่เคยเห็น"สู้เพื่อความยุติธรรมของชาวบ้าน"

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

ยุ่งล่ะ!!! "วิษณุ" นัด "บุญสร้าง" ภกปฎิรูปตร.พรุ่งนี้ ขณะภาคประชาชนจี้ "บิ๊กตู่" ปลดกรรมการทั้ง 36 คน เหตุไม่เคยเห็น "สู้เพื่อความยุติธรรมของชาวบ้าน" พร้อมระบุรู้สึกผิดหวังมากที่เห็นรายชื่อเหล่านั้น เพราะพวกกรรมการไม่มีเจตจำนงที่จะปฏิรูปโครงสร้างตำรวจมาก่อน


 วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติ ครม. ที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ 36 คน ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานวานนี้ว่า คำสั่งแต่งตั้งมีผลบังคับใช้ในวันนี้ เบื้องต้นตนได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ตั้งเลขานุการของคณะกรรมการ โดยต้องเป็นตำรวจระดับผู้บัญชาการ จากนั้นเลขานุการจะทำหน้าที่นัดประชุมกรรมการปฏิรูปตำรวจ และเป็นผู้กำหนดว่าจะประชุมที่ไหนวันใด นอกจากนี้ วันที่ 6 กรกฎาคม ตนมีนัดหารือกับ พล.อ.บุญสร้าง ที่รัฐสภา เพื่อกำหนดวัน สถานที่ และเบี้ยประชุมนัดแรก รวมถึงความต้องการในส่วนอื่นๆ ส่วนจะมีการตั้งอนุกรรมการเพิ่งหรือไม่ ตรงนี้เป็นเรื่องของประธาน ทั้งนี้ รายชื่อคณะกรรมการที่ออกมานั้น ไม่สามารถบอกได้ว่าจะปรับโครงสร้างตำรวจไม่ได้ ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญก็กำหนดให้คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจมีทั้งตำรวจและส่วนอื่นๆ และในคณะกรรมการก็มีอดีตตำรวจอยู่มาก ซึ่งหลายคนมีแนวคิดเรื่องโครงสร้างการปฏิรูปตำรวจในทิศทางที่ดี

 

“ถ้าสังคมไม่มั่นใจก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะรัฐธรรมนูญให้สัดส่วนมาแบบนี้ มั่นใจหรือไม่ก็ต้องตั้ง กรรมการต้องมีตำรวจทหารปนเข้ามา เพื่อไม่ให้เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ส่วนผมไม่มีอะไรแนะนำ ต้องให้เขาทำกันเอง ผมไม่ต้องการแทรกแซง” นายวิษณุ กล่าว

 

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.) POLICE  WATCH ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทบทวนมติแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีพลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ โดยระบุว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ไม่เป็นที่เชื่อถือยอมรับของประชาชน พร้อมระบุว่า เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจรู้สึกผิดหวังที่เห็นรายชื่อผู้เป็นคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจจำนวน 36 คน เนื่องจาก ส่วนใหญ่เป็นและเคยเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่เคยแสดงเจตจำนงเป็นที่ประจักษ์ในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของประชาชน หรือมีเจตจำนงที่จะปฏิรูปโครงสร้างตำรวจมาก่อนไม่ว่าจะขณะรับราชการหรือเกษียณอายุ ขณะที่บางคนยังเคยแสดงบทบาทสร้างความสับสนเพื่อถ่วงรั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรตำรวจด้วย ที่น่าแปลกใจบุคคลที่มีบทบาทในการผลักดันการปฏิรูปตำรวจเพื่อประชาชนกลับไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการแต่อย่างใด


การปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับของชีวิต สิทธิเสรีภาพ ความสงบสุข และความปลอดภัยของคนไทยทั้งประเทศ เป็นเรื่องใหญ่ที่คนในประเทศและต่างประเทศจับตามอง เพราะต่างก็ตระหนักดีว่า ปัญหาทั้งปวงของประเทศเกือบทุกปัญหา มีต้นตอมาจากแหล่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ถูกรีดไถ การค้ามนุษย์ แหล่งอบายมุขผิดกฎหมาย รวมทั้งการใช้อำนาจเกินขอบเขตในทางมิชอบ สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน


การปฏิรูปตำรวจในเชิงระบบและโครงสร้างองค์กร จึงเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ หากปฏิรูปไม่ตรงจุด จะเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงประเด็น ส่งผลให้คนไทยทั้งประเทศต้องทนอยู่กับความไม่มั่นคงต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง


ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยซึ่งผ่านการปกครองโดยทหารมาหลายยุคหลายสมัย มีความพยายามให้ตำรวจดำเนินการปฏิรูปตำรวจมาแล้ว แต่แม้กระทั่งขณะนี้ ผู้มีอำนาจก็ยังไม่ตระหนักว่า การให้ตำรวจภายใต้ความร่วมมือกับทหารปฏิรูปตนเองนั้นไม่เคยประสบความสำเร็จเลย และยังทำให้สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยเลวร้ายลงไปอีก เกิดกลุ่มอิทธิพลขึ้นมากมาย ประชาชนได้รับความเดือนร้อนมากยิ่งขึ้น

 

ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยซึ่งผ่านการปกครองโดยทหารมาหลายยุคหลายสมัย มีความพยายามให้ตำรวจดำเนินการปฏิรูปตำรวจมาแล้ว แต่แม้กระทั่งขณะนี้ ผู้มีอำนาจก็ยังไม่ตระหนักว่า การให้ตำรวจภายใต้ความร่วมมือกับทหารปฏิรูปตนเองนั้นไม่เคยประสบความสำเร็จเลย และยังทำให้สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยเลวร้ายลงไปอีก เกิดกลุ่มอิทธิพลขึ้นมากมาย ประชาชนได้รับความเดือนร้อนมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เป็นผลสืบเนื่องมาจากความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบอย่างร้ายแรง ซึ่งองค์กรตำรวจเป็นต้นธารของกระบวนการยุติธรรม ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะงานสอบสวนซึ่งปราศจากความเป็นอิสระจากอำนาจและอิทธิพล จึงจำเป็นต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมชั้นสอบสวน ที่ให้หลักประกันความเชื่อมั่น และได้รับความเชื่อถือจากประชาชน


เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนรายชื่อกรรมการทั้ง 36 คน ว่ามีบุคคลใดอยู่ในฐานเป็นผู้มีประโยชน์ทับซ้อน อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปตำรวจครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ รวมทั้งขอให้ประธานและกรรมการทุกคนได้นำข้อเสนอในการปฏิรูปตำรวจที่แท้จริงของ 42 องค์กรภาคประชาชนที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ มาพิจารณาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมในทุกประเด็นด้วย


ทั้งนี้ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจจะร่วมกับองค์กรประชาชนทั่วประเทศผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจที่ถูกต้อง โดยจะจัดเวทีภาคประชาชนคู่ขนานกับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เริ่มจากวันที่15 กรกฎาคม นี้ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต แล้วนำข้อเสนอไปยื่นต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจในโอกาสต่อไป