เอ้า...พวกปชต.จอมปลอมฟัง!! "กำนันสุเทพ" ฟันธง"ไพรมารีโหวต" ต้องใช้ เพราะช่วยปลดล็อคพรรคจากนายทุน-จะได้เลิกระบบส.ส.ทาสเจ้าของพรรคเสียที

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

เอ้า...พวก ปชต.จอมปลอมฟัง!! "กำนันสุเทพ" ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย  ยันระบบ "ไพรมารีโหวต" จำเป็นสำหรับเลือกตั้งในเมืองไทย เพราะจะช่วยปลดล็อคพรรคจากนายทุน ให้การเมืองประเทศเป็นของประชาชน  ไม่ใช่ทุกอย่างกำหนดจากหัวหน้าพรรคฯ ไม่เช่นนั้นเราก็จะได้ ส.ส. สอพลอผู้ใหญ่ในพรรคไม่รู้เลิก


วันนี้ (7 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน การทำบุญวันเกิดครบรอบ 68 ปี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี โดยช่วงหนึ่งนายสุเทพ  กล่าวถึง การเลือกตั้ง "ระบบไพรมารีโหวต" ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า ประชาชนอยากให้การเมืองเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น การจะทำให้การเมืองเป็นของประชาชนต้องทำพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชน โดยมีองค์ประกอบ คือ 1.ให้ประชาชนกำหนดผู้บริหารพรรคโดยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรค 2. เงินสำหรับทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ต้องมาจากประชาชนผู้เป็นสมาชิกพรรค หรือเจ้าของตัวจริงนั่นเอง และ 3. การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมาจากประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เป็นผู้ตัดสินใจตัวบุคคล ไม่ใช่กำหนดจากหัวหน้าพรรค เลขาพรรค หรือคณะกรรมการบริหารพรรค
       
       
 

ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ยังระบุว่า ปกติการเปลี่ยนแปลงใดๆ ย่อมต้องมีคนไม่ชอบ โดยเฉพาะการปฏิรูปที่ต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหม่ ก็เข้าใจว่าพรรคการเมืองไม่ค่อยสะดวกสบาย แต่ประชาชนคิดการเมืองในแง่ประชาชน เพราะฉะนั้นจุดยืนอาจแตกต่างกัน ไพรมารีโหวตจำเป็นอย่างยิ่ง ประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรคในเขตเลือกตั้งต่างๆ ไม่เช่นนั้นก็จะได้ผู้แทนราษฎรที่ประจบสอพลอผู้ใหญ่ในพรรค ทั้งนี้ จากประสบการณ์ด้วยตัวเองขณะปราศรัย มีผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาบนเวทีโดยบอกว่าต้องเลือก ส.ส.คนนั้นคนนี้ ด้วยความขมขื่นทุกสมัย เพราะพรรคจะเอาคนนี้ให้ได้ 
       
 

“สมมุติจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ คนใหม่เสียเปรียบพรรคเก่าแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อดูตารางเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ทันทีที่กฎหมายพรรคการเมืองบังคับใช้ เขาก็ต้องอนุญาตให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหวได้ พรรคการเมืองทำไพรมารีทัน เราสามารถรับสมัครสมาชิกพรรค ตั้งสาขาพรรคในเขตเลือกตั้งต่างๆ" นายสุเทพ กล่าว พร้อมระบุต่อว่า สมมติถ้าผมทำพรรคการเมืองจะบอกเลยว่า ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกันต้องมีอย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แล้วคน 1 เปอร์เซ็นต์จะเลือกตัวแทนของพรรค แล้วเงินที่กลัวว่าจะไม่พอ คิดว่าวันนี้ถ้าพรรคการเมืองอยู่ในใจประชาชนจริง สามารถที่จะใช้เงินบำรุงพรรคในการบริหาร