- 08 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th
จะได้หยุดเงื้อง่าราคาแพงเสียที!! "ไก่อู" เผย "บิ๊กตู่" สั่งเฉียบกุดหัว "แก๊งโกงเงินทอนวัด" เรื่องนี้ต้องลงโทษขั้นเด็ดขาด เหตุรัฐฯ มุ่งปราบโกง และถือเป็นนโยบายสำคัญ เรื่องนี้จึงยอมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หลังพบการทุจริตเงินสนับสนุนวัด หรือที่เรียกว่า "โกงเงินทอนวัด" มีกระแสข่าวว่า รองผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ซึ่งเป็นผู้หญิงรายหนึ่งและพัวพันคดีนี้ในหลาย ๆ กรณี ยังคงปฏิบัติงานอยู่ที่เดิม ยังไม่มีการสั่งย้ายหรือดำเนินการใด ๆ ทางวินัย โดยรายงานข่าวแจ้งว่า เพราะทาง พศ.อ้างว่า ยังไม่มีตำแหน่งระดับเดียวกันว่าง จึงยังไม่สามารถสั่งย้ายได้
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวถึงกรณีการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัด หรือที่เรียกกันติดปากว่า"โกงเงินทอนวัด" โดยนายกฯ ว่า เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ยังคงเลื่อมใสศรัทธาในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา เพราะการทุจริตเป็นเรื่องของบุคคล และเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำ
อย่างไรก็ดี นายกฯ ได้สั่งการผ่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้ว ให้เร่งตรวจสอบ สร้างความกระจ่างแก่สังคม โดยหากพบว่ามีการทุจริตจริง และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด เพราะนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้ คือมุ่งเน้นการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน และต้องทำให้หมดสิ้นไปจากสังคมให้ได้
แต่ทั้งนี้ มีกระแสข่าวระบุว่า แม้การทุจริต "โกงเงินทอนวัด" จะพบว่า มีรองผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ซึ่งเป็นผู้หญิงรายหนึ่งพัวพันคดีนี้ในหลาย ๆ วัด และมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัด แต่ล่าสุดกระแสข่าวกลับระบุว่า รอง ผอ. คนดังกล่าว ซึ่งก็คือ น.ส.ประนอม คงพิกุล ยังคงปฏิบัติงานอยู่ที่เดิม ยังไม่มีการสั่งย้ายหรือดำเนินการใด ๆ ทางวินัย โดยรายงานข่าวแจ้งว่า เพราะทาง พศ.อ้างว่า ยังไม่มีตำแหน่งระดับเดียวกันว่าง จึงยังไม่สามารถสั่งย้ายได้ โดยเรื่องนี้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแล พศ. ออกมาเปิดเผยเองเมื่อ 2 วันก่อน หลังถูกประชาชน ตั้งข้อสังเกต
"ส่วนจะมีผลต่อการสอบสวนหรือไม่นั้น ต้องรอผลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง" นายออมสิน ระบุ