บอกแล้ว..ห้ามกะพริบตา! "หมอวรงค์"ชี้ยิ่งใกล้ตัดสินคดีโกงข้าว ข้อมูลแปลกๆยิ่งไหลบ่า เตือนสังคมระวังถูกหลอก-มีหลายเรื่องเป็นเท็จปั่นหัวคนไทย

บอกแล้ว...ห้ามกะพริบตา! "มือปราบโกงข้าว-หมอวรงค์ แห่ง ปชป."  ระบุ ยิ่งใกล้ตัดสินคดีโกงข้าว เมืองไทยยิ่งจะเจอเรื่องแปลกๆ จะเจอปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของข้อมูล ผ่านทางสื่อออนไลน์ ตลอดจนการระดมมวลชนโดยอ้างว่ามาให้กำลังใจ แต่มีนัยยะแฝงเหมือนที่ทำได้ผลมาแล้วเมื่อครั้งคดีซุกหุ้นของทักษิณผู้พี่ชาย เตือนคนไทยอย่าสับสนในข้อมูลลวงเหล่านั้น และต้องใช้สติในการรับรู้ข้อมูล 

 

วันนี้ (10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ พบว่าในเพ็ซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เกาะติดคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวมาอย่างต่อเนื่อง ได้โพสต์ข้อความที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีจำนำข้าววานนี้ หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปฟังไต่สวนพยานนัดรองสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในการไต่สวนพยานจำเลยวันนั้น พยานจำเลยบางคนมีการอ้างว่า "โครงการรับจำนำข้าว" ไม่มีปัญหา เพราะผ่านการตรวจประเมินจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการหรือ ก.พ.ร.ด้วย ซึ่งประเด็นนี้ "หมอวรงค์" ระบุในทันทีว่านั่นเป็นคำให้การที่มั่วซั่ว และอาจทำให้ประชาชนสับสนได้ เพราะ กพร. ไม่มีหน้าที่ตรวจสอบโครงการจำนำข้าว เมื่อเอามากล่าวอ้างสังคมไขว้เขว โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ หมอวรงค์ ระบุ คือ

ช่วงนี้จะเห็นมีความพยายามใช้โซเชียลมีเดีย ส่งผ่านข้อมูล ที่มีการสืบพยานในศาลฎีกาในคดีรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยนำเอาข้อมูลที่ให้การของพยานของนางสาวยิ่งลักษณ์มาเผยแพร่ แต่ไม่นำข้อมูลหักล้างของทางอัยการมาเทียบ เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า ข้อมูลจากปากพยานของฝ่ายตนเอง สามารถชี้แจงได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด

 

บางรายเขียนแม้กระทั่งไปอ้างอิง กพร.(สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการดังที่กล่าวข้างต้น-ผู้เรียบเรียง)  มาตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวว่าไม่มีปัญหา ในขณะที่ข้อเท็จจริงของปัญหาโครงการรับจำนำข้าวนั่นคือ การทุจริตและปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ไม่ใช่หน้าที่ของ กพร.ตามที่ (พยานฝ่ายจำเลย-ผู้เรียบเรียง) กล่าวอ้าง แต่ถ้าประชาชนที่ได้ข้อมูลไม่เข้าใจ จะทำให้เกิดความสับสนได้

 

ยิ่งใกล้วันพิพากษาคดีรับจำนำข้าว ของนางสาวยิ่งลักษณ์และนายบุญทรง เราคงจะได้เห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของข้อมูล ผ่านสื่อออนไลน์ การแสดงออกแบบแปลกๆ ตลอดจนการระดมมวลชนโดยอ้างว่ามาให้กำลังใจ แต่มีนัยยะบางอย่างมากกว่านั้น เหมือนที่เคยทำได้ผลแล้วในคดีซุกหุ้น

พวกเราในฐานะคนไทยเจ้าของประเทศร่วมกัน ต้องช่วยกันใช้สติในการรับข้อมูล และยืนหยัดในหลักนิติธรรมของประเทศ ต้องไม่ให้ใครอยู่เหนือกฏหมาย ทุกฝ่ายต้องเคารพกระบวนการ ตลอดจนคำตัดสินของศาล

 

ข้อมูล : เฟซบุ๊ก "Warong dechgitvigrom"