"แดงโคตรเงิบ-ละครลวงโลกจบเห่"?! "บิ๊กโด่ง" หยัน "อุ้มทำไม-โกตี๋ไม่มีความสำคัญ" สอดคล้องคดีใหญ่หรือไม่-ต้องถามคนปล่อยข่าวต้องการอะไร?!

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

"แดงโคตรเงิบ-ละครลวงโลกจบเห่"?! "บิ๊กโด่ง" ปฏิเสธข่าวอุ้มโกตี้ บอกเป็นแค่การพูดกันเท่านั้น ยังไม่มีรายงาน แถมหยัน "อุ้มทำไม-โกตี๋ไม่มีความสำคัญ" แต่เป็นคนที่มีคดีความตำรวจ จึงต้องตามกลับมาดำเนินคดี ขณะดอน ปริมัตย์วินัย บอก เป็นข่าวปล่อย เพื่อหวังอะไรบางอย่าง

 

วันนี้ (1ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณี "นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ" หรือ "โกตี๋" แกนนำแดงกักขฬะแห่งเมืองปทุมฯ  ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามมาตรา 112 รวมทั้งมีคดีก่อการร้าย และครอบครองอาวุธสงคราม ซ่องสุมอาวุธเพื่อก่อเหตุความรุนแรง และหลบหนีอยู่ใน สปป.ลาวถูกชายฉกรรจ์กว่า 10 คน อุ้มตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยนาย "จอม เพชรประดับ" สื่อแดงไร้บ้าน เป็นผู้ออกมาเปิดเผยข้อมูล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตอลด 2-3 วันนี้นั้น

 
ล่าสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงกรณีนี้ว่า ตนไม่เคยได้รับข้อมูลด้านการข่าวอย่างเป็นทางการ ทราบเหมือนกับที่คนอื่นให้สัมภาษณ์ เป็นเพียงการพูดเท่านั้น แต่ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ 

ส่วนกรณีนี้จะเป็นข่าวปล่อย เพื่อหวังผลสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช ตอบว่า ต้องไปถามที่ปล่อยออกมามีอะไร แต่เราก็ติดตามอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เชื่อถือได้หรือไม่ได้ต้องดูกันต่อไป ตนยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการข้อมูลอย่างเป็นทางการ และตนก็ไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ 

 

ส่วนการปล่อยข่าวดังกล่าว หวังผลในช่วงเวลาที่จะมีการตัดสินคดีสำคัญการเมืองหรือไม่นั้น พล.อ.อุดมเดช ระบุว่า ไม่แน่ใจนัก แต่เวลาอาจจะสอดคล้องกันได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะคิดกันอย่างไร  ดังนั้น การติดตามข่าวจึงต้องพิจารณาให้ดี 


พล.อ.อุดมเดช ยังทิ้งท้ายด้วยว่า จริงๆ โกตี๋ไม่ใช่บุคคลสำคัญ คนที่ออกไปเป็นคนที่มีคดีความและหลบหนีออกไป จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องติดตามดูหากกลับมาที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินคดีตาม กฏหมาย การที่เขาหลบหนีแล้วมีคนพูดว่าหายไป ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องติดตามว่าเป็นจริงหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางการไทย ยังไม่มีใครออกมายืนยันในข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่ายังไม่ได้รับรายงาน เชื่อว่าเป็นแ และก่อนหน้านี้ก็มีข่าวมาโดยตลอดว่าโกตี๋ไม่ได้อยู่ในประเทศลาว ดังนั้นจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นไปในลักษณะของการปล่อยข่าวมากกว่าจะเป็นความจริงโดยต้องการให้เกิดของกระแสขึ้นในสังคม และช่วงนี้ก็มีข่าวในลักษณะดังกล่าวจำนวนมาก โดยมีการปล่อนข่าวสารพัด