ด่วน.."ตู่" โดนอีกดอก...ทั้งที่คดีเก่ายังต้องนอนคุก!! ศาลฎีกาสั่งคุก"จตุพร" 3 เดือน คดีหมิ่น "กอร์ปศักดิ์" รองนายกฯ ยุค "มาร์ค"

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 


โดนอีกคดี!!! ศาลฎีกา สั่งคุก "ตู่ ณ นปช." 3 เดือนคดีหมิ่น "กอร์ปศักดิ์" รองนายกฯ สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยกล่าวหาว่านายกอร์ปศักดิ์ มีพฤติกรรมใช้อำนาจแทรกแซงการบริหารงานของศาลยุติธรรมโดยมิชอบ เพื่อไม่ให้มีการก่อตั้งศาลในที่ดินที่ได้รับอนุญาต 

 

วันนี้ (22 ส.ค.) ผู้สื่อขาาวรายงานว่า ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีที่ "นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปปัตยย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "นายจตุพร พรหมพันธุ์" ประธาน นปช. เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาท


โดยคดีนี้ นายจุตพร จำเลยแถลงข่าว อ้างว่าผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่าโจทก์เดินทางไปราชการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และคัดค้านการก่อสร้างอาคารศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย เพราะโจทก์รวมถึงผู้คัดค้านทุกคนต่างมีธุรกิจโรงแรมใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว โดยอ้างว่าการสร้างศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย บนที่ดินราชพัสดุแปลงเดิม ซึ่งเป็นบริเวณถนนคนเดินจะทำให้กระทบการท่องเที่ยวของอำเภอปาย และโจทก์ยอมรับว่า มีโรงแรมที่อำเภอปาย โดยมีภริยาของโจทก์เป็นผู้จัดการ 

 

การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของจำเลย มีเจตนาทำให้บุคคลอื่นที่ได้รับฟังเข้าใจว่า โจทก์ซึ่งเป็นรองนายกฯ อยู่ในขณะนั้นมีพฤติกรรมใช้อำนาจแทรกแซงการบริหารงานของศาลยุติธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการก่อตั้งศาลในที่ดินที่ได้รับอนุญาต และโจทก์มีผลประโยชน์ทับซ้อนแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย

 

นอกจากนี้จำเลยยังแถลงข่าว และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกล่าวหาโจทก์ว่า โจทก์ทำสัญญาให้คนต่างชาติชาวอังกฤษเช่าบ้านเดือนละ 4 แสนห้าหมื่นบาทแต่ด้วยความไม่สุจริต โจทก์ทำสัญญาแยกเป็น 3 สัญญาคือสัญญาเช่าบ้าน สัญญาเช่าเฟอร์นิเจอร์ และสัญญาบริการ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราสูงและโจทก์โกงค่าไฟฟ้าคนต่างชาติชาวอังกฤษดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้องจำเลยให้การปฏิเสธ

 

 

การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของจำเลย มีเจตนาทำให้บุคคลอื่นที่ได้รับฟังเข้าใจว่า โจทก์ซึ่งเป็นรองนายกฯ อยู่ในขณะนั้นมีพฤติกรรมใช้อำนาจแทรกแซงการบริหารงานของศาลยุติธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการก่อตั้งศาลในที่ดินที่ได้รับอนุญาต และโจทก์มีผลประโยชน์ทับซ้อนแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย

 

นอกจากนี้จำเลยยังแถลงข่าว และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกล่าวหาโจทก์ว่า โจทก์ทำสัญญาให้คนต่างชาติชาวอังกฤษเช่าบ้านเดือนละ 4 แสนห้าหมื่นบาทแต่ด้วยความไม่สุจริต โจทก์ทำสัญญาแยกเป็น 3 สัญญาคือสัญญาเช่าบ้าน สัญญาเช่าเฟอร์นิเจอร์ และสัญญาบริการ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราสูงและโจทก์โกงค่าไฟฟ้าคนต่างชาติชาวอังกฤษดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้องจำเลยให้การปฏิเสธ

 

 

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 จำคุก 4 เดือนและปรับ 8,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ เหลือ 1 ใน 4 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือนและปรับ 6,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี อย่างไรก็ตามจำเลยอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

 

 

ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา สรุปว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ในการแถลงข่าวของจำเลยในส่วนที่กล่าวหาว่า โจทก์ตั้งใจหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอัตราที่สูง และโกงค่าไฟฟ้านั้น จำเลยมีหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อที่จะกล่าวหาโจทย์ให้ครบถ้วน รอบด้านเสียก่อน จำเลยจึงกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ว่า มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชำระภาษีให้น้อยลง และศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ในการแถลงข่าวของจำเลยส่วนนี้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน จึงพิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คือจำคุก 3 เดือนและปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี 

 

อนึ่ง สำหรับนายจตุพร ปัจจุบันยังควบคุมตัวอยู่ หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี ข้อหาหมิ่นประมาท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีปราศรัยที่วัดไผ่เขียวเมื่อปี 2552 โดยกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ มือเปื้อนเลือด สั่งฆ่าประชาชนเมื่อปี 2553  โดยไม่รอลงอาญา