นับเวลาถอยหลังก่อนชี้ชะตา!!  ย้อนรอยคดีจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ – บุญทรง

นับเวลาถอยหลังก่อนชี้ชะตา!! ย้อนรอยคดีจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ – บุญทรง

อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้นับเป็นการชี้ชะตานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวกว่า 5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ย้อนกลับไปปี พ.ศ 2553 จากนโยบายโครงการจำนำข้าวตันละ 1 หมื่น 5 พันบาท ที่พรรคเพื่อไทยชูโรงเป็นนโยบายหลักหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้ชนะคู่แข่งอย่างท่วมท้น ซึ่งถูกจับตามองตั้งแต่เริ่มโครงการว่า จะเกิดปัญหาขาดทุนมหาศาล เนื่องจากราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำ แต่รัฐบาลยังรั้นโดยรับจำนำให้ราคามากกว่าราคาตลาด ผ่านไป 2 ปี รัฐบาลยังไม่สามารถระบายข้าวในสต็อกได้ จึงก่อเกิดปัญหาด้านงบประมาณที่นำมาจ่ายคืนให้ชาวนา คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เผยตัวเลขขาดทุนกว่า 2 แสน 6 หมื่นล้านบาท แต่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในขณะนั้น ได้ออกมาปฏิเสธ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมานายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ได้พูดเรื่องนี้บนเวทีเสวนาที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในหัวข้อ “ไม่เอาจำนำข้าวแล้วจะเอาอะไร” พร้อมนำเสนอตัวเลขต่างๆ และคำอธิบายว่า “ทำไมต้องมีโครงการรับจำนำข้าว” อีกนัยยะหนึ่งที่รัฐบาลสนับสนุนจำนำข้าวในยุคนั้นคือการส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้ พร้อมกับพัฒนาเศรษฐกิจด้านอื่นอย่างการส่งออก ปัญหาความไม่ชอบมาพากลโครงการรับจำนำข้าว เริ่มชัดขึ้นตามลำดับ เมื่อมีการตรวจพบขบวนการปลอมใบประทวนนำไปขึ้นเงินกับ ธกส.โดยที่ไม่ได้นำข้าวมาจำนำจริง รวมถึงมีการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านที่คุณภาพต่ำมาสวมสิทธิ์ การขโมยข้าวจากโกดังมาเวียนเทียนจำนำ ปัญหาข้าวเน่าจากการเก็บรักษา ทั้งนี้หลายฝ่ายจึงออกมาเปิดโปงขบวนการนี้

เมื่อเข้าสู่ที่รัฐบาลที่มาจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. โครงการรับจำนำข้าวได้ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดทุกขั้นตอน  และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสอบสต๊อคข้าวรวมถึงความเสียหายต่างๆ ในเดือน พฤษภาคม 2557 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ฐานปล่อยปละละเลยและเพิกเฉยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาทและมีการสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการนี้มากกว่า 6 แสน 8 หมื่นล้านบาท จากนั้นอัยการได้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีการไต่สวนคดีกว่า 2 ปี 4 เดือน รวมทั้งคดีทุจริตการขายข้าวแบบจีทูจี ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวกรวม 28 คน เป็นจำเลย ซึ่งมีการไต่สวนคดีคู่ขนานกันมา ทางศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตัดสินคดีทั้งสองสำนวนในวันที่ 25 สิงหาคม 2560