นับถอยหลัง! อีก9วันพิพากษาโกงข้าวลับหลัง ผู้รู้ฟันธง"หญิงปู"โผล่แน่หลัง27 หากผลเป็นลบ เธอลุกขึ้นซัดปท.ไทยแน่-เหมือนเคยทำมาแล้วที่"มองโกเลีย"

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


ราวกับไร้ตัวตน!! "ยิ่งลักษณ์" หายยาว-ไร้ความเคลื่อนไหวนับจาก 25 สิงหาฯ ที่ผ่านมา หลังหนีคำพิพากษาของศาลฯ ทนายบอกไม่ส่งสัญญาณเรื่องคดีทั้งสิ้น ขณะผู้รู้บอก เธอเคลื่อนไหวแน่ หลัง 27 ก.ย.นี้ ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาทางไหน หากเป็นคุณกับตัวเองก็อาจกลับมาเมืองไทย แต่หากเป็นโทษ เธอไปแล้วไปลับแน่ แต่จะเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ โจมตีทุกฝ่ายของสังคมไทยที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ...เหมือนที่ครั้งหนึ่ง เคยไป "ยืนด่าประเทศตัวเอง" ที่มองโกเลียมาแล้ว เพื่อช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร ผู้พี่ชาย ทั้งที่ตัวเองก็เป็นนายกฯ ของประเทศไทยอยู่ในนั้น นับประสาอะไร หากวันที่ 27 กันยาฯ ถูกตัดสินว่า ผิดจริงมีหรือเธอจะไม่เคลื่อนไหวโจมตีทุกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ...และจะรุนแรงกว่า "มองโกเลียสปีช" หลายเท่านัก

 

 ผลพวงของการหนีไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย. หรืออีก 9 วันที่จะถึงนี้


แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ ไม่มีใครพบเบาะแสหรือรู้ร่องรอยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างแท้จริง แม้ล่าสุดในอินสตราแกรมของ น.ส. พิณทองทา และ แพทองธาร ชินวัตร  ได้โพสต์ภาพให้เห็นว่า ขณะนี้นาย ทักษิณ ปักหมุดอยู่ที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมด้วยลูก ๆ หลาน ๆ แต่ก็ไม่ปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่คาดว่าอยู่กับนายทักษิณแล้วนั้น ร่วมอยู่ในเฟรมด้วยแต่อย่างใด

 

ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จนถึงขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด และเรื่องคดีก็ไม่มีสั่งการอะไรลงมา แต่เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะต้องดำเนินการอยู่เเล้ว และในวันที่ 27 ก.ย. ไม่ว่าตัวจำเลยจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาหรือไม่ ศาลฎีกาก็จะต้องอ่านคำพิพากษาอยู่ดี ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ที่ยื่นประกันตัวจำนวน 30 ล้านบาทตั้งแต่แรก ศาลสั่งปรับเต็มตามจำนวนไปตั้งเเต่วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว 


"ถึงเเม้วันที่ 27 ก.ย.จำเลยจะมาฟังคำพิพากษาหรือไม่นั้นตรงนี้ไม่เกี่ยวกัน เพียงเเต่ว่าถ้ามีเหตุจำเป็นเเล้วได้มาเเสดงตัวในภายหลังก็สามารถร้องต่อศาลขอลดค่าปรับคืนได้บ้าง เเต่ขึนอยู่กับดุลพินิจของศาล  เเม้ในวันฟังคำพิพากษาตัวจะไม่ได้มาฟัง เเต่ถ้าจะยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน ต้องมีตัวจำเลย มาปรากฎต่อหน้าศาลจึงจะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ส่วนหากศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง หากอัยการโจทก์ประสงค์อุทธรณ์กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ตัวโจทก์ต้องปรากฎต่อหน้าศาลก็ได้ ตามกฎหมายถ้ายกฟ้องเเล้วอัยการโจทก์ยังประสงค์ยื่นอุทธรณ์  ทนายความย่อมสามารถเเก้อุทธรณ์ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุว่าตัวจำเลยต้องปรากกฎต่อหน้าศาลหากเเก้อุทธรณ์ และหากศาลยกฟ้องโจทก์ เเต่อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ถือว่าอยู่ในอำนาจศาลต่อไป"  ทนายของอดีตนายกฯ หญิง ผู้หนีคำพิพากษาจำนำข้าว ระบุ 


 

อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่ง สำหรับผู้สันทัดกรณี และเกาะติดการเมืองมาอย่างยาวนานต่างก็เริ่มวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้หนีคำพิพากษา เคลื่อนไหวแน่ แต่ต้องหลัง 27 ก.ย.ที่ศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว และไม่ว่าผลของคดีจะออกมาทางไหน หากเป็นคุณกับตัวเองเธอก็อาจกลับมาเมืองไทย และร้องขอต่อศาลขอลดค่าปรับ 30 ล้านบาทคืนบ้าง...ตามที่ทนายความของเธอ ระบุ แต่หากเป็นโทษ เธอไปแล้วไปลับแน่ แต่จะเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ โจมตีทุกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับเธอแบบยิบตาแน่...เหมือนที่ครั้งหนึ่ง ขณะที่เธอดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยอยู่แท้ ๆ แต่เธอกลับไป "ยืนด่าประเทศตัวเอง" ผ่านเวที The Ministerial Conference of the Community of Democracies ที่ประเทศมองโกเลีย ในวันที่ 29 เมษายน 2556 หรื่อเมื่อกว่า 4 ปีก่อน โดยเวทีนั้นเธอกล่าวสุนทรพจน์ (ตามที่มีคนเขียนให้) โจมตีประเทศไทย โดยผู้ฟังทั้งหอประชุมถึงกับมึนไม่หายว่า...ผู้พูดโจมตีประเทศไทยบนเวที...เป็นนายกฯ ของไทยแน่หรือ...ทำไมซัดประเทศตัวเองแบบนั้น โดยสาระหลักที่เธอโจมตีก็ทำนอง....ประเทศไทยรังแกพี่ชาย และครอบครัว "ชินวัตรของเธอ" ด้วยเหตุที่ประเทศยังไม่เป็น "ประชาธิปไตยที่แท้จริง" ซึ่งเป็นคำพูดที่แพร่หลายในหมู่ชาวเสื้อแดง....แบบไม่รู้อิโหน่อิเหล่ก็ยังเอาไปพูด รวมถึงยังพาดพิงไปถึง...กระบวนการยุติธรรมของไทย


เมื่อเป็นนายกฯ ของประเทศ ยังทำได้ขนาดนั้น นับประสาอะไร หากวันที่ 27 กันยายนถูกตัดสินว่า ผิดจริงคดีทุจริตจำนำข้าว มีหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่เคลื่อนไหวโจมตีทุกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ...แบบแม้แต่ "มองโกเลียสปีช" ที่ว่ากันว่าอยู่ในข่ายเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง...ที่เธอกระทำต่อประเทศไทยแล้ว...การเคลื่อนไหวหลังจากนั้นของเธอ...อาจเลวร้ายยิ่งกว่าเป็นเท่าทวีคูณ