"เสี่ยเปี๋ยงคิด-นายใหญ่ไฟเขียว-หญิงปูหลิ่วตา-หมอโด่งเดินเกม-ปท.พินาศ"อัยการงัดไม้เด็ด-ร้องศาลเชือด"หมอโด่ง"แกนกลางโกงข้าวลับหลัง-ไร้อายุความ

วานนี้มีข่าวใหญ่ทางการเมืองอยู่ 1 ชิ้น นั่นคือข่าวที่... "นายวันชาติ สันติกุญชร" อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และเป็นโฆษกอัยการสูงสุดอยู่ด้วย ได้ออกมาเปิดเผยว่า กำลังเสนอ อสส. เพื่อร้องต่อศาลฎีกาฯ ไต่สวนลับหลัง "พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ" หรือ "หมอโด่ง"  อดีตเลขาฯ รมว.พาณิชย์ คดีทุจริตจำนำข้าวในส่วนการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือที่เรียกกันติดปากว่า "จีทูเจี๊ยะ" 

 

เรื่องนี้มีความน่าสนใจทันที เพราะในทางปฎิบัติตัว "หมอโด่ง" นั้น ถือว่าเป็นแกนกลางแห่งการทุจริตจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์โดยแท้ ว่ากันว่า แม้จะเป็นแค่เลขาฯ แต่เขาใหญ่กว่าเจ้ากระทรวงเสียอีก จริงแท้แค่ไหนดูได้จาก... เมื่อนายภูมิ สาระผล พ้นจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์แล้ว และส่งไม้ต่อให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ซึ่งข้ามห้วยจากรมว.คลัง มาเป็น รมว.พาณิชย์ และเป็นประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าวแทนนายภูมิ แต่เก้าอี้ของหมอโด่ง กลับยังมั่นคง และนั่งประกบนายบุญทรง ในฐานะเลขานุการฯ เพื่อบัญชาการการโกงข้าวต่อได้เลย

 

ไม่ต้องบอกก็คงจะทราบดีว่า “พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ” หรือ “หมอโด่ง” นั้นเป็นคนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง หรือ "นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร" ซึ่งเป็นสายตรงของ "นายใหญ่-ทักษิณ" ในเรื่องค้า ๆ ขาย ๆ ข้าวทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ยุค " ทักษิณ 1" ช่วงปี 2545 - 2547 และตกเป็นจำเลยคนที่ 14 จาก 28 คนในคดีทุจริตจำนำข้าวยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้น้องสาว ซึ่งเขาถูกตัดสินลงโทษหนักที่สุดคือ จำคุก 48 ปี จากคดีดังกล่าว 

นี่เองจึงเป็นต้นทางของ "มหากาพย์การโกงข้าว" ทำให้ประเทศไทยพินาศย่อยยับกว่า 5 -6 แสนล้านบาท และโงหัวไม่ขึ้นมาจนวันนี้ เพราะนอกจาก "หมอโด่ง" จะเป็นเลขาฯ รมว.พาณิชย์ อย่างที่กล่าว เขายังเป็นอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายข้าวทั้ง 4 ชุด ซึ่ รวมทั้งเป็นอนุกรรมการระบายข้าวด้วย ซึ่ง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการระบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ยังได้แต่งตั้งเองกับมือ

 

หลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่า "หมอโด่ง" นั้นถูกแต่งตั้งมา เพื่อเป็นตัวเดินเกมในการทุจริตคดโกงในโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง เพราะเขาจัดแจงเองทุกอย่าง เจ้ากระทรวงแค่ประทับตราตามที่เขาจัดการทำเท่านั้น 

เรื่องนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์ จากการที่เขากล้าถึงขั้น เรียกพ่อค้าข้าวที่อยู่ในเครือข่ายมาคุย...ว่าใครอยากได้ข้าวที่อยู่ในโกดังของรัฐบาลมากน้อยเท่าไหร่ให้บอกกับตนเองได้เลยจะจัดการให้ ทั้งที่ข้าวที่อยู่ในโกดังของรัฐบาลที่พูดถึงนั้น เป็นข้าวจากจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ห้ามเคลื่อนย้ายตราบเท่าที่ยังไม่มีการระบายแบบรัฐต่อรัฐอย่างถูกต้อง (ซึ่งเอาเข้าจริง การระบายแบบรัฐต่อรัฐของรัฐบาลปูก็กำมะลอ...จนทำให้ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี)

 
และนี่เองเป็นเหตุให้เกิดข่าวข้าวในโกดังรัฐบาลหาย...และมีข้าวจากที่อื่นซึ่งเป็นข้าวเกรดต่ำราคาถูก...เวียนเทียนมาเข้าโครงการแทน...หลังบางส่วนถูกยักยอกออกมาขายแล้วดังกล่าว...แล้วส่วนต่างของราคาก็วนเวียนรวยกันอยู่ในเฉพาะกลุ่มพ่อค้าข้าวที่เป็นเครือข่าย...เสียเปี๋ยง...หมอโด่ง...นายใหญ่ 

โดยเรื่องนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ฉายาว่า มือปราบโกงข้าว ได้เคยออกมาแฉความไม่ชอบมาพากล ในส่วนการระบายข้าวในประเทศ เอาไว้ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ไม่ได้เป็นการซื้อข้าวแบบจีทูจีจริง ข้าวถูกนำมาเร่ขายในให้กับเอกชนในประเทศ โดยปรากฎชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนไปแล้ว

 
โดย หมอวรงค์ ยังระบุด้วยว่า มีการนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาขายต่อในราคาต่ำให้กับผู้ประกอบการในประเทศบางหลาย ก่อนนำไปขายต่อในราคาแพง แล้วได้ส่วนต่างจริง ขณะที่ผู้สันทัดกรณีบางคน ถึงกับฟันธงว่า "โครงการจำนำข้าว" คือ การที่รัฐบาลผูกขาดกว้านซื้อข้าวทุกเมล็ดไปเก็บไว้ในโกดัง ด้วยการตั้งราคาที่สูงกว่าราคาตลาด (เงินรัฐบาล) แล้วพ่อค้าข้าวคนใดอยากได้ข้าวไปขาย ต้องไปซื้อกับหมอโด่ง...เรื่องนี้ศาลฯ ชำแหละกลโกงเอาไว้แบบเห็นไส้เห็นพุงกลโกงทุกขด กระทั่งนำมาซึ่งคุก 5 ปี ของทำให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ดังที่ทราบ ๆ กัน

 

ขณะที่โรงสีเอกชนหลายราย ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้ และตกเป็นจำเลยอยู่ด้วย ก่อนที่ศาลจะยกฟ้องไปบางส่วน เพราะไม่กล้าซื้อข้าวจากหมอโด่ง ก็ระบุชัดว่า มีคนอ้างว่าอยู่ในส่วนโครงการจำนำข้าว ให้ข้อมูลว่า สามารถติดต่อซื้อข้าวของรัฐบาลจาก หมอโด่ง ได้โดยตรง แถมยังให้สั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คชำระค่าข้าวในนามของกรมการค้าต่างประเทศ แล้วนำแคชเชียร์เช็คไปมอบให้ หมอโด่ง เพื่อออกเอกสารการรับข้าวได้ ทั้งที่ข้าวที่อยู่ในโกดังของรัฐบาลที่พูดถึงนั้น เป็นข้าวจากจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด ตราบเท่าที่ยังไม่มีการระบายแบบรัฐต่อรัฐอย่างถูกต้อง 
 

ขณะที่หากจะกลับมามองที่ลูกพี่ของเขา "เสี่ยเปี๋ยง" ก็จะพบจิ๊กซอว์ว่า เขานั่นเอง คือตัวการใหญ่อีกคนหนึ่งของ "ขบวนการโกงข้าว" ว่ากันว่า...ดีไม่ดี...เขานั่นแหล่ะคือ มันสมองในการคิดหาวิธี "การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกำมะลอ" เพื่อวนเอาข้าวออกมาขายกินส่วนต่าง นำข้าวเกรดต่ำเข้าโครงการแทน ฯลฯ ก่อนเอาเรื่องนี้ไปเสนอนายใหญ่ 

 

...แล้วได้ "ไฟเขียว" เพื่อจัดทำเป็นนโยบาย "โคตรประชานิยมของพรรค" ตามม็อตโต "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ก่อนจะทำให้อุตสาหกรรมการค้าข้าว และระบบการปลูก-การผลิต-การเก็บเกี่ยวข้าวของไทยที่ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของโลกมานานนับ 10 ปี พินาศย่อยยับไปต่อหน้าต่อตาทั้งระบบ

ดังนั้น เมื่อโฆษกอัยการสูงสุด ออกมาเปิดเผยวานนี้ว่า กำลังร้องต่อศาลฎีกาฯ ไต่สวนลับหลัง "หมอโด่ง" ตาม พ.ร.ป.คดีอาญานักการเมืองฉบับใหม่บัญญัติไว้...เรื่องนี้จึงนับว่าน่าสนใจยิ่ง...เพราะจากพฤติการณ์ทั้งหมด...กล่าวได้เลยว่า...เขานั่นแหล่ะแก่นแกนแห่งการโกงข้าว...และอัยการก็อ่านขาดไม่ปล่อยให้เรื่องคาโรงคาศาล และปล่อยให้ขาดอายุความเช่นในอดีต ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ หากเขาจะหนีจริง...ก็อาจจะต้องหนีทั้งชีวิต...เพราะคดีจะไม่มีอายุความ...รวมถึงนายหญิงน้อยแห่งเพื่อไทย...ยิ่งลักษณ์...ที่ก็เข้าข่ายลักษณะเดียวกันนี้ด้วย