มียิ้มกันหน้าบาน "วาสนา-ปริญญา" 2 อดีต กกต.ฉาว ผู้ช่วย"นายใหญ่" โกงเลือกตั้งปี 49 ได้เฮ มีชื่อพักโทษปลายปี-เหตุชรา (รายละเอียด)

มียิ้มกันหน้าบาน "วาสนา-ปริญญา" 2 อดีต กกต.ฉาว ผู้ช่วย"นายใหญ่" โกงเลือกตั้งปี 49 ได้เฮ มีชื่อพักโทษปลายปี-เหตุชรา (รายละเอียด)

มียิ้มกันหน้าบาน "วาสนา-ปริญญา" 2 อดีต กกต.ฉาว ผู้ช่วย"นายใหญ่" โกงเลือกตั้งปี 49 ได้เฮ มีชื่อพักโทษปลายปี-เหตุชรา (รายละเอียด)    มียิ้มกันหน้าบาน "วาสนา-ปริญญา" 2 อดีต กกต.ฉาว ผู้ช่วย"นายใหญ่" โกงเลือกตั้งปี 49 ได้เฮ มีชื่อพักโทษปลายปี-เหตุชรา (รายละเอียด)

    วันนี้ 12 ธ.ค.60 หลังมีรายงานข่าวจากรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีการขอพักการลงโทษ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีต กกต. ซึ่งต้องโทษจำคุก 2 ปีในคดีจัดการเลือกตั้งเอื้อประโยชน์พรรคไทยรักไทย ปี 2549 ว่า ภายในเดือน ธ.ค.นี้ พล.ต.อ.วาสนาและนายปริญญา จะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์พักการลงโทษ เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังชรามีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ภายหลังที่บุคคลทั้ง 2 ได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ของโทษจำคุก 2 ปี โดยคณะกรรมการพิจาณาการลงโทษมีกำหนดที่จะประชุมพักโทษผู้ต้องขังประจำเดือน ธ.ค.ในช่วงปลายเดือน โดย พล.ต.อ.วาสนาและนายปริญญาก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาในครั้งนี้ด้วย และมีการนำเสนอข่าวมาก่อนหน้าแล้วนั้น

  

 

ล่าสุด วันนี้ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้เผยแพร่เอกสารว่า วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กรมราชทัณฑ์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการพักการลงโทษ ประจำปีงบประมาณ 2561 ครั้งที่ 3/2561 โดยมีคณะกรรมการพักการลงโทษจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมคุมประพฤติ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรมการปกครอง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมสุขภาพจิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เข้าร่วมพิจารณา
 

ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้พักการลงโทษนักโทษเด็ดขาด จำนวน 283 ราย รวมทั้ง น.ช.ปริญญา นาคฉัตรีย์ อายุ 76 ปี และน.ช.วาสนา เพิ่มลาภ อายุ 76 ปี อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องโทษคดีกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดหรือกระทำการหรือละเว้นกระทำการโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบในการปฎิบัติหน้าที่ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งทั้งคู่ได้ต้องโทษจำคุกมาแล้ว 1 ปี 6 เดือน 13 วัน โดยทั้ง 2 รายต้องปฏิบัติตนตามเงื่อนไขการคุมประพฤติของสำนักงานคุมประพฤติ ตามโทษจำคุกที่เหลือ เป็นเวลา 5 เดือน 22 วัน

  เอกสารยังระบุด้วยว่า ในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ต้องขังที่ขอรับการพักการลงโทษทั้งหมด 4,506 รายจากทั่วประเทศ และได้รับการอนุมัติการพักการลงโทษ 2,636 ราย คิดเป็นร้อยละ 57.98 จากผู้ขอรับพักการลงโทษทั้งหมด ซึ่งการพักการลงโทษถือเป็นการปลดปล่อยออกไปก่อนครบกำหนดโทษตามคำพิพากษาศาลภายใต้เงื่อนไขคุมประพฤติที่กำหนดการพักการลงโทษมิใช่สิทธิของผู้ต้องขัง แต่เป็นประโยชน์ที่ทางราชการให้แก่นักโทษเด็ดขาดที่มีความประพฤติดีมีความก้าวหน้าทางการศึกษา ทำงานเกิดผลดีแก่เรือนจำหรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ การพักการลงโทษจึงถือเป็นการให้โอกาสผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีจะสามารถกลับไปดำเนินชีวิตในสังคมได้ก่อนกำหนดต้องโทษ

อย่างไรก็ดี สำหรับ พล.ต.อ.วาสนา และนายปริญญา พร้อมด้วยนายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีต กกต. ที่เสียชีวิตแล้ว ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และ พ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 กรณีที่ไม่เร่งสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ข้อร้องเรียนกล่าวหาพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคแผ่นดินไทย และพรรคพัฒนาชาติไทย ลงรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.2549 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและการวินิจฉัย พ.ศ.2542กระทั่งหลังวันเลือกตั้งได้ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเร่งรีบ ซึ่งจะมีผลให้ทางพรรคไทยรักไทยได้จัดตั้งรัฐบาล โดยศาลฏีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.59 ให้จำคุกทั้ง 2 คนละ 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคนละ 10 ปีด้วย