ฤาจะเป็น ลับ ลวง พราง?! "เพื่อไทย" โวยรีเซ็ตพรรคกระทบเลือกตั้ง-สะเทือนโรดแมป ทว่านั่นอาจเป็นแค่ละครตบตา-แท้จริงอาจยิ้มย่อง-รอเก็บเกี่ยวดอกผล

"เพื่อไทย" โวยรีเซ็ตพรรคกระทบเลือกตั้ง-สะเทือนโรดแมป ติดตามต่อได้ผ่านทาง www.tnews.co.th

 

ฤาจะเป็น ลับ ลวง พราง?! "เพื่อไทย" โวยรีเซ็ตพรรคกระทบเลือกตั้ง-สะเทือนโรดแมป ทว่านั่นอาจเป็นแค่ละครตบตา-แท้จริงอาจกำลังยิ้มย่อง-รอเก็บเกี่ยวดอกผล เพราะตามวิสัยของ "เพื่อไทย" ที่ไม่ว่าใคร...ซึ่งเป็นอริของพวกเขาโยนประเด็นทางการเมืองออกมา...ต้องออกมาขย้ำแบบหวังเอาให้จมเขี้ยวไปทุกครั้ง...ทว่าต่างจากครั้งนี้ที่เงียบแบบผิดปกติจริง ๆ

  

       หลังจากที่ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ผู้นำมวลมหาประชาชน กปปส. และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป ออกมาเคลื่อนไหวโยนหินถามทาง ยื่นข้อเรียกร้องต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้แก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่า ด้วยพรรคการเมืองเพื่อให้เซตซีโร่สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ทั้งหมด จนทำให้บรรดาแกนนำและอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ดาหน้าออกมาโจมตีอย่างรุนแรงว่าเป็นแผนสมคบคิดส่อเจตนาปูทางไปสู่การตั้งพรรค คสช.เพื่อผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. สืบทอดอำนาจนั่งเก้าอี้นายกฯคนนอกหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า

 

 

 

 

       ทันทีที่ เรื่องดังกล่าวถูกโยนออกมา บรรดานักการเมือง โดยเฉพาะฟากฝั่งประชาธิปัตย์ ที่ว่าไปแล้วต่างก็เป็นอดีตคนกันเองกับ กำนันสุเทพ นายไพบูลย์ และ คสช. เกือบจะทั้งสิ้นต่างดาหน้าออกมาโจมตีอย่างรุนแรง ว่านั่นเป็น "ทฤษฎีสมคบคิด" ส่อเจตนาปูทางไปสู่การตั้งพรรค คสช.เพื่อผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งใหญ่ปลายปี 61 (หากไม่มีการเลื่อนโรดแม็ป)
 

     โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงกับออกมาถล่มแนวคิดของกำนันสุเทพ และนายไพบูลย์ แบบผู้ฟังยังสงสัยว่า...เคยเป็นคนกันเองมาจริงหรือ เพราะสิ่งที่ "อภิสิทธิ์" พูดไว้กรณีนี้ คือ 

 

“การจะมีพรรคการเมืองใหม่ออกมาประกาศสนับสนุนคสช.เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ไม่ขัดข้อง และยินดีที่จะให้เกิดทางเลือกใหม่ๆ แต่ขอเพียงว่าต้องเข้ามาตามระบบที่ถูกต้อง อย่ามาในแบบที่เปลี่ยนแปลงกติกาเพื่อให้ตัวเองได้เข้ามามีส่วนร่วม การมาเสนอแก้ไขกฎหมายใหม่โดยอ้างว่าไม่มีความเสมอภาคระหว่างพรรคการเมืองเก่า กับพรรคการเมืองใหม่ ตนมองว่าไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นคำถามว่า การจะแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองเพื่ออะไร ถ้าจะยืดเวลาเลือกตั้งคงไม่จำเป็นต้องมีปัญหามาแก้กฎหมายตรงนี้ วันนี้เราต้องพูดตรงๆว่า คสช.และรัฐบาลเป็นผู้เขียนกฎกติกาด้วยตนเองทั้งนั้น แต่ทำไมตอนนี้ท่านไม่สามารถทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นไปตามที่พูดไว้ได้ ทำไมไม่ทำให้มีความโปร่งใส ถ้าท่านจะบอกว่าตอนนี้ยังเลือกตั้งตามโรดแมปไม่ได้ ท่านก็ต้องบอกว่ามีเหตุจำเป็นอะไร เพราะหากปล่อยให้เกิดความคลุมเครือก็จะเป็นปัญหาในการสร้างขั้วการเมืองขึ้นมาใหม่ ท่านอยากแก้กฎหมายหรืออยากจะยืดการเลือกตั้งหรืออยากจะยุบพรรคการเมืองเก่าขอให้พูดออกมาอย่างชัดเจนเลยดีกว่า ไม่ใช่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ มันไม่เกิดความเชื่อมั่นต่อนานาชาติและสังคม ดังนั้น หากอยากยืดเวลาเลือกตั้งก็ประกาศมาเลยให้ชัดเจนพร้อมเหตุผลด้วย” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

 

       อย่างไรก็ดี เมื่อฝ่ายประชาธิปัตย์ขยับแรง ทว่าเมื่อโฟกัสไปที่ "พรรคเพื่อไทย" ซึ่งถือเป็นอริทางการเมืองกับ คสช.มาแต่เดิมนั้น กลับไม่พบความเคลื่อนไหวในกรณีนี้มากนัก-ดูจะนิ่งผิดปกติด้วยซ้ำ นักวิเคราะห์หลายรายให้เหตุผลว่า...ที่เป็นเช่นนั้น เพราะหากมีการเซตซีโร่พรรคการเมืองจริง ระหว่างพรรคใหญ่ 2 พรรค ซึ่งก็คือทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์จะมีผลพวงแห่งการนับหนึ่งใหม่ที่ต่างกันมาก นั่นคือ ฐานเสียงของเพื่อไทย เป็นคนละกลุ่มกับฐานเสียงของประชาธิปัตย์ ซึ่งไปคาบเกี่ยวซ้อนทับกับกลุ่มคนที่เชียร์ คสช. และหากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง...จะส่งผลสะเทือนต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างมิพักต้องสงสัย....ชาวพรรคสีฟ้าจึงออกมาตั้งคำถามกรณีนี้อื้ออึง 


        ขณะที่ผู้เก็บเกี่ยวดอกผลจึงกลายเป็น "เพื่อไทย" ไปแบบช่วยไม่ได้...และนั่นเองเป็นเหตุให้หลายฝ่ายมองว่า...เหตุที่เพื่อไทย...นิ่งเงียบกรณีนี้...มีเพียงอดีต ส.ส.บางคน ออกมาพูดแบบพอหอมปากหอมคอ โดยพวกเขาหวั่นกลัวอยู่แค่ หากรีเซ็ตพรรคการเมืองจริง ๆ จะกระทบกับ "ไทมิ่งของโรดแม็ปเดิม" ซึ่งทำให้ต้องเลื่อยเลือกตั้งออกไปแค่นั้น โดยนายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย พูดตรงกันในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่มีมีการโวยวายอะไร...

 

     เนื่องเพราะในอีกด้านหนึ่ง องคาพยพทั้งหมดของพรรคของนายใหญ่ ก็รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากกรณีดังกล่าวแบบปิดไม่มิดเช่นกัน เพราะจากวิสัยของ "เพื่อไทย" ที่ไม่ว่าใคร...ซึ่งเป็นอริของพวกเขาโยนประเด็นทางการเมืองออกมา...ต้องออกมาขย้ำแบบหวังเอาให้จมเขี้ยวไปทุกครั้ง...ทว่าต่างจากครั้งนี้ที่เงียบผิดปกติแบบ ลับ ลวง พราง จริง ๆ