แฉลึก?! บุกฟ้าผ่าล่า"ธัมมชโย" กลางดึกเหลว คาดอิทธิฤทธิ์"หลวงพ่อนะจ๊ะ" ยังไม่สิ้นทำ"เกลือเป็นหนอน" เหตุการข่าวยันรอบนี้เจอตัวแน่-จึงลุย?

ฤา "เกลือจะเป็นหนอน"?! ดูเหมือนอิทธิฤทธิ์ "หลวงพ่อนะจ๊ะ" แห่งสำนักจานบินหมื่นล้านจะยังไม่สิ้นฤทธิ์ หลัง DSI บุกสายฟ้าแลบกลางดึกเมื่อ 2 - 3 วันก่อน ซึ่งการข่าวของ DSI ยืนยันกันภายในค่อนข้างแน่ชัดว่า “หลวงพ่อนะจ๊ะย่องเงียบกลับมานอนภายในสำนักจานบินชัวร์” และเป็นการบุกแบบฟ้าผ่า แต่เอาเข้าจริง...สุดท้ายกลับ...คว้าน้ำเหลว ผู้รู้ฟันธงเลยว่า...เรื่องนี้ตีความเป็นอื่นยาก...นอกจากข่าวรั่วในวินาทีสุดท้าย และมีเกลือเป็นหนอนค่อนข้างแน่...เพราะวันนั้น DSI ไม่ได้บุกเพียงลำพังหน่วยงานเดียว...ทว่ากลับสนธิกำลังกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ หรือ พ.ศ. ที่แม้จะถูกสังคายนาใหญ่ในยุค คสช. ยุค ผ.อ. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์...แต่หากไม่มืดบอดจนเกินไป...ย่อมระลึกรู้ได้ว่า...ก่อนหน้านั้น พ.ศ. เป็นยิ่งกว่าแดนสนธยา...และทั้งอดีต ผ.อ.พศ. และรอง ผ.อ.พศ.  ที่ถูกดำเนินคดีโกงเงินทอนวัดในยุครัฐบาล คสช. ทั้งแก๊งล้วนเป็นศิษย์สายตรง "สำนักจานบิน" ทั้งสิ้น...และนำพาเอาองคาพยพของ พ.ศ. บางส่วน (ย้ำบางส่วน...แต่อาจเป็นส่วนใหญ่) ไปอยู่ใต้อาณัติของ "สำนักจานบิน" ด้วย...จริงไม่จริง...ก็ดูจากภาพถ่ายในอดีตที่...อดีต ผ.อ.ขี้ฉ้อบางคน โปรยดอกดาวเรืองแบบสุดชื่นมื่น ในวันที่สาวกจานบิน "เดินธุดงค์กลางกรุงฯ" ดูได้...เรื่องนี้จึงน่าคิดอยู่ไม่น้อยว่า...หรือจะเป็นอย่างผู้รู้บางท่านฟันธว่า...เรื่องนี้เกลือเป็นหนอนค่อนข้างแน่ 

 

ปฏิบัติการควานหาตัว "ธัมมชโย" ผู้ต้องหาฟอกเงิน-รับของโจร รวมทั้งต้อง "อาบัติปาราชิก" ขาดจากความเป็นพระตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ไปเนิ่นนานแล้ว เริ่มต้นครั้งใหม่ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจาก "ธัมมชโย" หายเงียบไปนานกว่า 10 เดิอน นับจาก DSI เดินหน้าบุกอย่างจริงจังเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

 

รอบนั้นใช้ปฏิบัติการตรวจค้น และเป็นข่าวครึกโครมร่วม 2 อาทิตย์ แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวแบบชาวบ้านงงเป็นไก่ตาแตก จากนั้นก็ไม่เคยมีใครได้พบเห็น “หลวงพ่อนะจ๊ะ” ตัวเป็น ๆ อีกเลย แม้แต่ศิษย์ก้นกุฏิผู้ปากดีอย่าง "องอาจ ธรรมนิทรา" ยังบอกไม่เคยเห็นตัว...แต่รู้ว่า "หลวงพ่อ" อยู่ในใจ...อะไรทำนองนั้น 

โดยในคืนวันที่ 20 ธ.ค. นั้น DSI ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ "สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" (พศ.) เข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี เพื่อติดตามตัวพระธัมมชโยดังกล่าว โดยนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในอาคารดาวดึงส์ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ถูกระบุเป็นสถานที่พำนักของ”ธัมมชโย” ซึ่งที่ผ่านมา DSI ไม่เคยได้เข้าตรวจค้นในยามวิกาล ปฏิบัติการครั้งนี้จึงเป็นปฏิบัติการสายฟ้าแลบ
 
สำหรับจุดที่ถูกระบุเป็นกุฏิของพระธัมมชโยพบว่า สภาพห้องถูกเก็บรักษาคงสภาพเดิมเป็นอย่างดี ภายในสะอาดสะอ้านไม่มีฝุ่นละออง แต่มีร่องรอบการเคลื่อนย้ายวัตถุบางอย่าง ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบวัดยังพบว่ามีพระสงฆ์มากางเต้นท์อยู่เป็นจุดๆ สอบถามแล้วไม่มีผู้ใดให้การว่า เหตุใดจึงไม่นอนในกุฏิ แต่กลับมากางเต้นท์อยู่ในพื้นที่รอบนอก...ลักษณะคล้าย ๆ กับที่ทำเมื่อถูกค้นหนักช่วงต้นปีที่ผ่านมา

หลังปฏิบัติการผ่านพ้นไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง เช้าวันรุ่งขึ้น พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ด้วยตนเองว่า เมื่อคืนที่ที่ผ่านมา พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี เพื่อติดตามตัว "พระธัมมชโย"  อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ตามที่มีเบาะแสข้อมูลแจ้งเข้ามายังดีเอสไอ รวมทั้งเป็นการนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายตามวงรอบด้วย โดยผลการตรวจค้น ไม่พบตัว พระธัมมชโยพักอาศัยอยู่ภายในวัด

 

อย่างไรก็ตาม การคว้าน้ำเหลว ทั้งที่ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นปฏิบัติการสายฟ้าแลบ หลายฝ่ายจึงต้องข้อสังเกตทันทีว่า...ใช่หรือไม่ว่า....เรื่องนี้มี "เกลือเป็นหนอน" ค่อนข้างแน่ เพราะข่าววงในยืนยันแน่ชัดว่า “หลวงพ่อนะจ๊ะย่องเงียบกลับมานอนภายในสำนักจานบินแล้ว" และนั่นเองเป็นเหตุให้ DSI ตัดสินใจบุกฟ้าผ่า แต่ทว่าเมื่อ...เหลว...ก็ยากจะตีความเป็นอื่น

...นอกจาก มีข่าวรั่ว...จากการบุกครั้งนี้หรือไม่....รั่วเพราะใคร...เพราะอย่าลืมว่า...คืนนั้น DSI ไม่ได้บุกโดยลำพัง แต่กลับขอความร่วมมือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีอีกด้วย...นั่นจึงเป็นโจทย์ให้ต้องขบคิดว่า....เรื่องนี้เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด...แล้วถ้าจริง...ใครเป็นผู้จงใจทำข่าวรั่ว...หวังช่วย "หลวงพ่อนะจ๊ะ" ให้รอดในครั้งนี้...นั่นสังคมยิ่งต้องช่วยกันคิด

เพราะอย่าลืมว่า แม้ปัจจุบัน พ.ศ. จะถูกสังคายนาใหญ่ในยุค คสช. ยุค ผ.อ. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์...ไปมากแล้วก็ตาม แต่หากไม่มืดบอดจนเกินไป...ย่อมระลึกรู้ได้ว่า...ก่อนหน้านั้น พ.ศ. เป็นยิ่งกว่าแดนสนธยา...และองคาพยพบางส่วน (ย้ำบางส่วน...แต่อาจเป็นส่วนใหญ่) ก็อยู่ใต้อาณัติของ "สำนักจานบิน" แบบที่ใครก็ยากจะปฏิเสธความจริงข้อนี้