เปลือยโฉมหน้าคนขี้ฉ้อ "หมอโด่ง" สายตรง"เสี่ยเปี๋ยง" ตัวเอ้โกงข้าว-พฤติการณ์สุดโอหังเย้ย กม.ทุกขั้นตอน-ใหญ่กว่าเจ้ากระทรวง?

เปลือยโฉมหน้าคนขี้ฉ้อ "หมอโด่ง" สายตรง"เสี่ยเปี๋ยง" ตัวเอ้โกงข้าว-พฤติการณ์สุดโอหังเย้ย กม.ทุกขั้นตอน-ใหญ่กว่าเจ้ากระทรวง?

เชื่อว่าคอการเมืองหลายคนที่เกาะติดคดีทุจริตจำนำข้าว ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตลอด คงคุ้นชื่อของ “พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ” หรือ “หมอโด่ง” อดีตเลขานุการ นายภูมิ สาระผล  รมช.พาณิชย์ เป็นอย่างมาก แต่คงมีไม่มากคนที่จะเคยเห็นหน้าค่าตาอันแท้จริง และรับรู้พฤติกรรมอันฉ้อโกง...บันลือโลกของเขาผ่านโครงการรับจำนำข้าวที่สุดอื้อฉาว...ที่คนวงในรู้กันดีว่า นี่แหล่ะ...ตัวเดิมเกมการยักย้ายถ่ายเท-ยักยอกทุจริตโกงข้าวแบบภาพยนตร์อาชญากรรมยังอาย...และทำให้ประเทศไทยพินาศย่อยยับกว่า 5 -6 แสนล้านบาท และโงหัวไม่ขึ้นมาจนวันนี้

 

ไม่ต้องบอกก็คงจะทราบดีว่า “พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ” หรือ “หมอโด่ง” เป็นคนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง หรือ "นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร" จำเลยคนที่ 14 จาก 28 คนในคดีทุจริตจำนำข้าว และถูกตัดสินลงโทษหนักที่สุดคือ จำคุก 48 ปี จากคดีดังกล่าว ซึ่งถูกส่งตรงให้ไปนั่งเป็นเลขานุการของนายภูมิ สาระผล  รมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าวบบรัฐต่อรัฐอยู่ด้วย...ขณะที่ตัวหมอโด่งนั้น เป็นอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายข้าวทั้ง 4 ชุด ซึ่งแต่งตั้งโดย น.ส. ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งเป็นอนุกรรมการระบายข้าวด้วย และนี่เองที่เป็นต้นทางของ "มหากาพย์การโกงข้าว" 


แถมยังว่ากันว่า...หมอโด่งนั้นใหญ่กว่า รองเจ้ากระทรวงอย่างภูมิเสียอีก เพราะดูได้จาก เมื่อนายภูมิ พ้นจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์แล้ว และส่งไม้ต่อให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ซึ่งข้ามห้วยจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และเป็นประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าวแทนนายภูมิ แต่เก้าอี้ของหมอโด่ง กลับยังมั่นคง เพราะถูกสั่งให้นั่งประกบนายบุญทรง ในฐานะเลขานุการฯ ต่อด้วยเลย

หลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่า การทำงานของหมอโด่งนั้น ขาดธรรมมาภิบาลอย่างยิ่ง เพราะกล้าถึงขั้น เรียกพ่อค้าข้าวที่อยู่ในเครือข่ายมาคุย...ว่าใครอยากได้ข้าวที่อยู่ในโกดังของรัฐบาลมากน้อยเท่าไหร่ให้บอกกับตนเองได้เลยจะจัดการให้ ทั้งที่ข้าวที่อยู่ในโกดังของรัฐบาลที่พูดถึงนั้น เป็นข้าวจากจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ห้ามเคลื่อนย้ายตราบเท่าที่ยังไม่มีการระบายแบบรัฐต่อรัฐอย่างถูกต้อง (ซึ่งเอาเข้าจริง การระบายแบบรัฐต่อรัฐของรัฐบาลปูก็กำมะลอ...จนทำให้ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี)

 

นั่นเองจึงเป็นเหตุให้เกิดข่าวข้าวในโกดังรัฐบาลหาย...และมีข้าวจากที่อื่นซึ่งเป็นข้าวเกรดต่ำราคาถูก...เวียนเทียนมาเข้าโครงการแทน...หลังบางส่วนถูกยักยอกออกมาขายแล้วดังกล่าว...แล้วส่วนต่างของราคาก็วนเวียนรวยกันอยู่ในเฉพาะกลุ่มพ่อค้าข้าวที่เป็นเครือข่าย...เสียเปี๋ยง...หมอโด่ง...นายใหญ่ 

 

โดยเรื่องนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เเคยออกมาแฉความไม่ชอบมาพากล ในส่วนการระบายข้าวในประเทศ เอาไว้ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ไม่ได้เป็นการซื้อข้าวแบบจีทูจีจริง ข้าวถูกนำมาเร่ขายในให้กับเอกชนในประเทศ โดยปรากฎชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนไปแล้ว

 

โดย หมอวรงค์ ยังระบุด้วยว่า มีการนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาขายต่อในราคาต่ำให้กับผู้ประกอบการในประเทศบางหลาย ก่อนนำไปขายต่อในราคาแพง แล้วได้ส่วนต่างจริง  

ขณะที่ผู้สันทัดกรณีบางคน ถึงกับฟันธงว่า "โครงการจำนำข้าว" คือ การที่รัฐบาลผูกขาดกว้านซื้อข้าวทุกเมล็ดไปเก็บไว้ในโกดัง ด้วยการตั้งราคาที่สูงกว่าราคาตลาด (เงินรัฐบาล) แล้วพ่อค้าข้าวคนใดอยากได้ข้าวไปขาย ต้องไปซื้อกับหมอโด่ง...ซึ่งไม่บอกก็คงเดาได้ว่า...มันทุจริตมหาศาลทุกขั้นตอนแค่ไหน

นอกจากนี้ ยังไม่ต้องเอ่ยถึงสัญญาการระบายข้าวทั้ง 4 ฉบับ ที่อ้างว่าซื้อขายกับรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลจีน หมอโด่งเป็นผู้จัดการทั้งสิ้น ซึ่งนั่นก็กำมะลอแบบหลอกคนทั้งประเทศ...และศาลก็ชำแหละเรื่องนี้ไว้แบบเห็นไส้เห็นพุงกลโกงไว้อย่างละเอียดยิบ กระทั่งเรื่องนี้นี่เอง ที่ทำให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี เพราะปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต (จากการระบายข้าวทั้ง 4 สัญญานี้)

 

ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า...ตัวหมอโด่งนั้น หลบหนีคดีจำนำข้าวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ช่วงเดือนมีนาคม 2558 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้อง บุญทรง และพวก ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีขายข้าวจีทูจี แและต่อมาในการพิจารณาคดี และสอบคำให้การ คดีหมายเลขดำ อม. 25/2558 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2558 ปรากฏว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เป็น 1 ใน 2 จำเลยที่ไม่ปรากฏตัวที่ศาล และคาดว่าเขาหลบหนีไปตั้งแต่ตอนนั้น พร้อมกับ นายสุธี เชื่อมไธสง อีกหนึ่งพนักงานบริษัท สยามอินดิก้า ของเสี่ยเปี๋ยง ผู้รวมหัวกันโกง...หรืออาจจะก่อนหน้านั้นเล็กน้อย...เมื่อรู้ว่า "โครงการจำนำข้าว" ถึงมือศาลแล้ว 

 

ถึงตรงนี้ก็นับเป็นเวลากว่า 2 ปีที่เขาหลบหนีคดีนี้ไป ทิ้งไว้แต่ร่องรอยความเสียหายระดับหลายแสนล้านให้แก่ประเทศชาติ...โดยทั้งหลายทั้งปวงนั่น...ก็อ้างว่าช่วยชาวนา...แต่พฤติการณ์นั้น....สุดฉ้อฉล แต่ก็มีคนไทยไม่มากคนที่จะรู้กลโกงนี้