นักวิชาการชี้ชัด อนาคตการเมืองประเทศไทย หมดยุค "ชินวัตร" เพื่อไทยแพแตก ฟันธงนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก.. ?? (รายละเอียด)

นักวิชาการชี้ชัด อนาคตการเมืองประเทศไทย หมดยุค "ชินวัตร" เพื่อไทยแพแตก ฟันธงนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก.. ?? (รายละเอียด)

จากกรณีทีเพจ การเมืองไทยในกะลา ได้นำข้อความการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองไทยหลังจากนนี้จะเป็นอย่างไร จาก ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ คณบดีครุศาสตร์ มรภ.นครราชสีมา โดยได้มีการวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

นักวิชาการชี้ชัด อนาคตการเมืองประเทศไทย หมดยุค "ชินวัตร" เพื่อไทยแพแตก ฟันธงนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก.. ?? (รายละเอียด)

ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ คณบดีครุศาสตร์ มรภ.นครราชสีมา วิเคราะห์การเมืองไทยหลังจากนี้ว่า การเมืองไทยแม้จะมีหรือไม่มียิ่งลักษณ์ ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะถึงยิ่งลักษณ์อยู่ก็ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว พรรคเพื่อไทยก็ต้องหาผู้นำคนใหม่อยู่ดี ตอนนี้คิดว่าคนในตระกูลชินวัตรคงเริ่มหายากขึ้นทุกทีและหลายคนคงเข็ดขยาดกับการเมือง ที่สำคัญไม่ว่าผู้นำคนใหม่พรรคเพื่อไทยจะเป็นใคร พรรคจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ ด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบการเลือกตั้งที่ถูกออกแบบ เพื่อให้มีการปฏิรูปประเทศตามที่คสช.ระบุที่ต้องการให้การปฏิวัติครั้งนี้ไม่ให้เสียของ พรรคเพื่อไทยก็คงไม่มีโอกาสกลับเข้ามาบริหารประเทศในสมัยหน้าอย่างแน่นอน “ในอีกทางหนึ่งอาจมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่อีกมาก หรือแม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยเองอาจแตกออกไปตั้งพรรคใหม่หรือเข้าร่วมกับพรรคอื่น ตามคำกล่าวที่ว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”

ดังนั้น ฟันธงได้เลยนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”
นักวิชาการคนเดิมยอมรับว่าปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับพลเอกประยุทธ์ คือปัญหาเศรษฐกิจ และคนใกล้ตัว การปฏิรูปประเทศที่เป็นจุดขายที่ท่านประกาศไว้ทำท่าจะพายเรืออยู่ในอ่าง คณะกรรมการต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น สนช.สปช.และล่าสุดสปท.ที่เพิ่งพ้นสภาพไปแล้วกลายร่างมาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ

นักวิชาการชี้ชัด อนาคตการเมืองประเทศไทย หมดยุค "ชินวัตร" เพื่อไทยแพแตก ฟันธงนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก.. ?? (รายละเอียด)

 รวมทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามม.44 ล้วนเป็นคนกลุ่มเดิม ๆ ที่สำคัญแทนที่จะทำงานไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายบริหาร หรือรัฐมนตรี แต่กลับไปคนละทิศละทาง ข้อเสนอของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานั้นมีเพียงไม่กี่ประเด็นที่ถูกนำมาดำเนินการต่ออย่างเป็นรูปธรรม หรือนำมาใช้แบบไม่เข้าใจที่มาที่ไปอย่างถ่องแท้ก่อให้เกิดปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการปฏิรูปการศึกษา ไม่ว่าการปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ คูปองครู การใช้อำนาจตามมาตรา 44 มากเกินไป
“ผมคิดว่า คสช.ควรเปิดพื่นที่ให้ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ ข้าราชการประจำ หรือแม้แต่นักการเมืองได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังโดยเร็ว” ผศ.ดร.รัฐกรณ์กล่าว

 

CR.เมืองไทยในกะลา