จับตาบทบาทนักการเมืองหน้าใหม่ !! ”บิ๊กตู่” เปลี่ยนจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นเต็มตัว..ไม่ต้องเหนียมอาย ต่อไป!!??

จับตาบทบาทนักการเมืองหน้าใหม่ !! ”บิ๊กตู่” เปลี่ยนจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นเต็มตัว..ไม่ต้องเหนียมอาย ต่อไป!!??

เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับชีวิต “การทำงาน” ในปี 2561 ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากที่ได้ออกยอมรับแบบไม่เหนียมแล้วว่าเป็น “นักการเมือง” แม้จะมีสร้อยต่อก็ตามทีว่า “ผมเป็นนักการเมืองที่เคยเป็นทหาร และอีกหน่อยก็จะเป็นประชาชน ผมไม่เคยคิดจะเป็นนักการเมืองสักวัน แต่ที่ต้องเป็น เพราะด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบที่เข้ามาทำงานให้กับประเทศ”.

 

และก็ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก เพราะเมื่อวานนี้(4 ธ.ค.) ในบรรยากาศเลี้ยงปีใหม่กับบันดานักข่าวสายทำเนียบฯ ในช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าว่า...

 

"ยิ่งวันนี้ที่ผมมาอยู่ตรงนี้ ท่านก็รู้อยู่แล้ว วันนั้นก่อนที่ผมจะมา ท่านบอกว่าผมเป็นนักการเมือง แต่ผมบอกว่าผมเป็นทหาร แต่วันนี้พอผมบอกเป็นทหาร ท่านก็บอกว่าเป็นนักการเมือง มันกลับไปกลับมาอย่าง ก็ปวดหัวกับสถานะของผม อยากบอกว่าผมเป็นคนทำงานการเมือง แต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มันมีปัญหาเพราะทำงานการเมือง"

อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งถึงกรณีที่ไม่เคยให้ความชัดเจนการเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือการลงเล่นการเมืองว่า สื่อย่อมรู้คำตอบดี ว่าพูดไปก็จะเป็นการตัดทาง เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก ก็ถือว่าตามระบบ ซึ่งรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ หากพรรคการเมืองไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีกันเองได้ในสภา รัฐธรรมนูญก็เปิดช่องทางให้เสนอนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ เพื่อเป็นการตัดเรื่องการปฏิวัติต่อไปนี้ จะไม่มีการปฏิวัติแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีคนนอก ก็เลือกกันในรัฐสภา แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครเสนอตนเองให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก

 

ขณะที่ทางด้านฟากฝั่งนักการเมือง อย่างนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีทิศทางพล.อ.ประยุทธ์ หลังการประกาศตัวดังกล่าว โดยโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า 

 

จับตาบทบาทนักการเมืองหน้าใหม่ !! ”บิ๊กตู่” เปลี่ยนจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นเต็มตัว..ไม่ต้องเหนียมอาย ต่อไป!!??

วันสองวันนี้ไม่ว่า ไปไหน เจอแต่คนถามเรื่อง พล อ.ประยุทธ์ประกาศตัวเป็นนักการเมือง โดยเฉพาะล่าสุด ออกมาเพิ่มเติมด้วยว่า ไม่ปิดประตูที่จะเป็นนายกคนนอกนั้น ผมมีความเห็นอย่างไร ก็ได้ตอบไปว่า เป็นเรื่องดีที่ยอมรับว่า ท่านเป็นนักการเมืองแล้ว จะได้ชัดเจนและเลิกคลุมเครือเสียที  ตัวท่านเองก็จะได้แสดงบทบาทนักการเมืองได้เต็มที่โดยไม่ต้องเหนียมอาย หรือ ครึ่งๆกลางๆอีกต่อไป 

 

"เชื่อว่า จากนี้หลายฝ่ายก็คงสนใจติดตาม บทบาทในฐานะนักการเมืองของท่านจะเป็นอย่างไร  จะเป็นนักการเมืองแบบไหน ต่างจากนักการเมืองที่ถอดเครื่องแบบออกมาเล่นการเมืองในอดีตหรือนักการเมือง ที่ท่านเคยวิจารณ์หรือไม่ อย่างไรส่วนการประกาศไม่ปิดประตูตัวเองที่จะเป็นนายกคนนอก ก็สอดรับกับการออกมาประกาศตัวเป็นนักการเมืองชัดเจน เป้าหมายการประกาศตัวเป็นนักการเมืองคืออะไร และชี้ให้เห็นว่า จากนี้ไป ท่านได้เปลี่ยนบทบาทจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นเต็มตัวแล้ว"