“ปราชญ์การเมือง” หรือ“คนแก่” วัย 76 ปี ที่เลอะเลือน ?? .."ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" จับตาบั้นปลายชีวิต จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างไร?

เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ สำหรับ “ชาญวิทย์ เกษตรศิริ”  อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ที่ก่อนหน้านี้หลายคน ขนาดนาม ให้คำจำกัดความว่าเป็น “นักประวัติศาสตร์การเมือง” แถวหน้าคนประเทศไทย แต่มาถึงวันนี้จะยังคงรักษาความเป็น“นักประวัติศาสตร์การเมือง” ได้หรือไม่ ..หรือเพียงแค่เป็น“คนแก่”  วัย 76 ปี ที่เลอะเลือนไปตามสภาพ 

 จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Charnvit Kasetsiri ของ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการฝั่งเสื้อแดงได้แชร์ภาพ และข้อความของผู้ใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กว่า Ploy Siripong ซึ่งเผยแพร่ภาพและข้อความเข้าไปในกลุ่มสาธารณะ (Public Group) ตีแตกการเมือง โดย นายชาญวิทย์ ระบุข้อความว่า “ผู้นำ ต้องใช้ของแพงๆ Thai leaders must look expensive not cheap..”

อ่านเพิ่มเติม >>> บิดเบือนหนัก-ก็เงิบหนัก?"ลิเบอร่านรุ่นใหญ่" จุก หลังเหน็บ"อ.น้อง" ถือกระเป๋าแพง-หวังแก้เกี้ยวให้"หญิงปู" โดนสวนของศูนย์ศิลปาชีพ-ไม่แหกตาดู

ซึ่งภายหลังกลับถูกวิพากษ์ วิจารณ์เป็นอย่างนักสำหรับเนื้อหา การบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะ กระเป๋าใบดังกล่าวที่ภริยาของนายกรัฐมนตรีถือนั้น ไม่ใช่กระเป๋าจากแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส แต่เป็นกระเป๋าจากโครงการศิลปาชีพ ผลงานกระเป๋าจากโครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 นั้น ดีไซน์สวย ทันสมัย ให้ความรู้สึกหรูหราไม่แพ้แบรนด์ดังจากต่างชาติ จนถูกเข้าใจผิดไปได้ว่าเป็นกระเป๋าจาก Hermès

ทั้งนี้ทางเพจ Jo’s BAG ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า รศ.นราพร จันทร์โอชา ใช้ผ้าไทยและกระเป๋าผ้าเสมอเวลาเดินทางพบผู้นำต่างประเทศ และใช้มาก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาจะเป็นนายกรัฐมนตรีเสียอีก รศ.นราพร เป็นบุคคลที่ใช้ผ้าไทยมาอย่างยาวนานและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม ทันสมัย ซึ่งกระเป๋าโจแบ็คมา มีราคา 1,000 – 9,500 บาทเท่านั้น

หลังที่ความจริงถูกเปิดเผยออกมาแล้ว หลายฝ่ายตั้งขอสังเกตว่า แม้จะรู้ว่ารูปดังกล่าว เป็นการมโน เต้าเรื่องขึ้นมา แต่ทำไมในหน้าเพจเฟซบุ๊กของนายชาญวิทย์ ยังนิ่งเฉย ไม่ยอมลบภาพดังกล่าวออกจากหน้าเพจของตัวเอง ทั้งที่นายชาญวิทย์ เคยเป็นถึงอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศ แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น กับไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด แม้แต่คำขอโทษ

อ่านเพิ่มเติม >>> บอบอกแล้วว่าเงิบจริง?! เพจดังย้อนเกล็ด"ชาญวิทย์-ร่านรุ่นใหญ่" เจ้าของวาทะ"ใครเชื่อปวศ.โดยไม่กังขาตาบอด2 ข้าง" แล้วเเชร์ข้อมูลเท็จเรียกอะไรดี?

ทั้งนี้ประวัติของนายชาญวิทย์ ในวิกิพีเดียเขียนว่า ได้เข้าเรียนคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (แผนกการทูต) โดยมีผลการเรียนดีจนได้รับเกียรตินิยมดี และได้รับรางวัลภูมิพล ในปี .. 2506 จากนั้นเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา โดยได้รับทุน Rockefeller Foundation ผ่านภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ไปเรียนในระดับปริญญาโททางการทูตที่ Occidental College รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเวลา 2 ปี (..2508-2510) จากนั้นให้เรียนต่อระดับปริญญาเอกด้านประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล รัฐนิวยอร์ก

หลายคนตั้งข้อสังเกต ถึงความเปลี่ยนแปลงของนายชาญวิทย์ โดยเฉพาะในระยะหลายปีในช่วงี่ผ่านมา บางคนถึงขั้นตั้งคำถามนี่ไม่ใช่อาจารย์ชาญวิทย์ตัวจริงต้องเป็นผู้ไม่หวังดีปลอมตัวมา เพราะที่ผ่านมา นายชาญวิทย์มีมุมมองความคิดที่น่าทึ่งและน่านับถือ มีใจเป็นธรรม เป็นนักวิชาการมืออาชีพ เสมอต้นเสมอปลาย มีวุฒิภาวะ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ แต่อย่างที่เรียนไปนั้น ระยะหลังการแสดงความคิดเห็นของ นายชาญวิทย์ ทำให้หลายต่อหลายคน ถึงขั้นต้องส่ายหน้า ออกมาแสดงความคิดเห็นแต่ละครั้งก็สุดแสนจะงี่เง่า ไร้รสนิยม ไม่ประเทืองปัญญา ที่ควรจะดูฉลาด มีความคิดความอ่านที่ก้าวหน้า ลึกซึ้ง ดูเป็นปัญญาชนที่น่าเลื่อมใส แต่กลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง



ในช่วง 10 ปีหลังมานี้แว่นสายตาของนักวิชาการวัย 76 ปีมองเห็นแต่ภาพความผิดเพี้ยน จากปัญญาชนการเป็นผู้สร้างวาทกรรมข้างทาง

อย่างไรก็ตามต้องติดตามในช่วงบั้นปลายชีวิตของนายชาญวิทย์จะถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์อย่างไร?

 

อ่านเพิ่มเติม >>> "สุดธรรมดา-ไม่ใช่แอร์เมส-แอร์แม้วที่ไหน"เปิดภาพกระเป๋า"อ.น้อง"เสื่อกระจูดศิลปาชีพ คนละเรื่องกับ"8ล้าน" ที่"ร่านรุ่นใหญ่" แขวะหวังช่วย"หนูปู"