อคติวิจารณ์เป็นเหตุ!! "ชาญวิทย์" จากปราชญ์กลายเป็น...? บิดข้อเท็จ-ปิดหูตาโจมตี นำ"ความเสื่อม"กัดกินตัวเอง!!!

มีแนวโน้มสูงว่าจะติดคุก ในวัยเกษียณเสียแล้ว สำหรับนักวิชาการเมืองชื่องดัง อย่างชาญวิทย์ เกษตรศิริ”  อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   หลังมือลั่นโพสต์บิดรื่อง กระเป๋าถือ .น้อง หรือ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยาของ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เรียกเสียงฮือฮาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 “ผู้นำ ต้องใช้ของแพงๆ Thai leaders must look expensive not cheap..”

                                     

ล่าสุด กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ...โอฬาร สุขเกษม ผกก.3 บก.ปอท.กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ได้รับเรื่องร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีในความผิดตาม ...คอมพิวเตอร์ ว่า ขณะนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว

 

โดยมีการสอบปากคำไปแล้ว 2 ปาก ยังคงเหลือพยานที่ต้องสอบปากคำอีก 2-3 ปาก เพื่อนำไปประกอบกับหลักฐานต่างๆ ในการพิจารณาออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการโพสต์ภาพดังกล่าวทางโซเชียลมีเดีย ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ตาม ...คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์

 

อ่านเพิ่มเติม >>> ไม่รอด..ลิเบอร่านรุ่นใหญ่ "ชาญวิทย์" มีจุก ตร.ลุยเอา พ.ร.บ.คอม โพสต์เท็จ บด “อ.น้อง” ถือกระเป๋าหรู แบรน์ดัง

 

...แม้ข้อเท็จจริงจะถูกเปิดเผย แต่นายชาญวิทย์ก็เลือกที่จะไม่ลบโพสต์ดังกล่าว หรือออกมาแสดงความเสียใจ อีกทั้งดังกล่าวมีผู้อื่นมาแชร์ต่อ และแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ภรรยานายกฯ รวมไปถึงการทำงานของรัฐบาลไปในทางเสียหาย แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเรื่องนี้เข้าถึงหูเจ้าหน้าที่ เห็นที่งานนี้นายชาญวิทย์ จะนิ่งเฉยต่อไปก็คงไม่ได้

 

โดยได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเป็นข้อความที่ระบุว่า... ดร.ชาญวิทย์ เปิดเผยกับ THE STANDRD เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า กรณีการใช้สินค้าราคาแพงนั้น ถือว่า เป็นเรื่องปกติของชนชั้นนำไทย ที่มักจะใช้ของแพงเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร. ส่วนตัวนั้นไม่ได้เป็นคนที่ติดตามรายละเอียด หรือเข้าใจเกี่ยวกับราคาสินค้า แต่ในแง่ที่ต้องการสะท้อนภาพของสังคมไทย ที่ว่าชนชั้นนำมีการเลือกใช้สินค้า แบรนด์เนม ราคาแพง ถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ. เป็นการแสดงความคิดเห็นปกติ

 

ในฐานะประชาชน ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า การแชร์ข้อมูล เป็นพฤติกรรมใหม่ของบุคคลที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ กรณีดังกล่าวมาพร้อมๆกับการแชร์ภาพกระเป๋าของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงกลายเป็นกระแสที่มองภาพถึงลักษณะการใช้ชีวิตของชนช้ันนำไทย. "เรื่องนี้สะท้อนภาพความเป็นไทยของชนชั้นนำไทย ขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการแสดงความคิดเห็น และยินดีที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ"

 

ทั้งนี้เป็นที่ทราบการแสดงความเห็นเป็นสิทธิที่เพิ่งมี ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ซึ่งเสรีภาพใน การแสดงความคิดเห็นถือเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามกติการ่วมกัน แต่การแสดงความคิดเห็นหมิ่นประมาท ให้ร้าย บิดเบือนข้อมูลจากความเป็นจริง เพื่อสร้างความเกลียดชัง  เช่นนี้เข้าข่ายกระทำความผิด หรือ จะเรียกว่า ความบริสุทธิ์ใจในการแสดงความคิดเห็น ได้หรือไม่??

 

 

ทำให้หลายคนต่างพากันตั้งคำว่า..เป็นถึงระดับดร.และยังเป็นถึง อดีต อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   สถานะปัจจับัน จำกัดความได้ว่าเป็นนักวิชาการด้านการเมืองไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และเป็นผลที่จะทำให้ชาญวิทย์ตายน้ำตื้นได้?!

 

 

บอกเเลยว่างานนี้ ดีกรีความรู้ไม่ธรรมดา !!!ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ สาขาการทูต (เกียรตินิยมดี-รางวัลภูมิพล) คณะรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ปริญญาโท สาขา Diplomacy and World Affairs จาก วิทยาลัยออกซิเดนทอล วิทยาลัยเอกชนขนาดเล็กในเมือง ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา .. 2510

ปริญญาเอก ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล นิวยอร์ก .. 2515

 

อ่านเพิ่มเติม >>> “ปราชญ์การเมือง” หรือ“คนแก่” วัย 76 ปี ที่เลอะเลือน ?? .."ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" จับตาบั้นปลายชีวิต จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างไร?

ใน  “ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีได้บันทึกข้อมูลประวัติของชาญวิทย์ไว้อย่างน่าสนใจโดยบางช่วงระบุว่า...

 

การเป็นนักเรียนนอกในยุค 60s ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในวิธีคิดและการมองโลกของ .พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ ซึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นเป็นยุคที่เกิดกระแส "ซ้ายใหม่" หรือ New Left ในกลุ่มคนหนุ่มสาวในสหรัฐฯ ที่กบฏต่อทุกอย่างที่เป็นจารีตดั้งเดิม โดยการทุ่มเทชีวิตให้กับการชุมนุนประท้วง ในเรื่องต่างๆ อาทิเช่น สงครามเวียดนาม การแต่งกาย ฯลฯ จนเกิดเป็นค่านิยม Hippies หรือบุปผาชน ประสบการณ์ชีวิตช่วงนี้ส่งผลให้ .พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกิดจิตวิญญาณที่อิสระเสรี และเกิดจิตสำนึกที่จะเรียนรู้และขุดคุ้ยแสวงหาความจริงความถูกต้อง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเป็นนักประวัติศาสตร์ของ ดร.ชาญวิทย์ ในเวลาต่อมา และจากประสบการณ์นี้เองส่งผลให้ ดร.ชาญวิทย์ ผลิตผลงานต่างๆที่ก้าวทันโลกและรักษ์รากเหง้า ด้วยความกล้าหาญทางจริยธรรม เพื่อการต่อสู้ เพื่อความถูกต้อง ความเป็นธรรม และความเสมอภาคในสังคม และในขอบเขตเหนือความเป็นรัฐประชาชาติ ด้วยความมุ่งหวังให้สาธารณชนทั่วไปสามารถเข้าถึงและมีส่วนในกระบวนการเรียนรู้ด้วย จนบางคนเรียก .พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ว่า ปัญญาชนสาธารณะ

 

 

จึงเกิดคำหนักมากขึ้นไปอีกว่า  หากนายชาญวิทย์เป็นนักประวัติศาสตร์  และมีอุปนิสัยเฉพาะตัวจริง!! อย่างเช่นการขุดคุ้ยแสวงหาความจริงความถูกต้องซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเป็นนักประวัติศาสตร์  ถึงไม่มี และทำไมการแสดงความคิดเห็นกรณีกระเป๋าถืออ.น้อง ถึงไม่ยอมสือเสาะหาข้อเท็จจริงให้ดีเสียก่อน จะนำมาเผยแพร่ หรือ เพราะอคติทางความคิดต่อ มุมมองการเมืองที่เอียงข้างของชาญวิทย์หลับหูหลับตาสื่อสาร สักแต่จะโจมตี ไร้ซึ่งเหตุผล อคติทางความคิด นำพามาซึ่งคนเสื่อม กัดกินตนของตัวเอง

 

อ่านเพิ่มเติม >> บอกแล้วว่าเงิบจริง?! เพจดังย้อนเกล็ด"ชาญวิทย์-ร่านรุ่นใหญ่" เจ้าของวาทะ"ใครเชื่อปวศ.โดยไม่กังขาตาบอด2 ข้าง" แล้วเเชร์ข้อมูลเท็จเรียกอะไรดี?