นักลากตั้งควรดู!! ชื่นชม "กรณ์-หมอวรงณ์" สร้าง"โครงการ English For All"เพื่อเยาวชน ดีจน"บิ๊กตู่" สั่งขยายผลทั่วประเทศ!!??

ในขณะที่บรรดาเหล่านัการเมือง ออกมาตีโพยตีพายเรียกร้องให้รัฐบาล และ คสช. ปลดล็อคทางการเมืองเพื่อหาโอกาส ช่องทางให้การจัดกิจกรรม ทางการเมือง ที่หลังเหตุการณ์ยึดอำนาจ รัฐหาร ปี57 ก็ไม่ได้กิจกรรมใดๆ เพราะมีคำสั่งคสช. ห้าม พรรคการเมืองประชุมและดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เป็นอุปสรรคขว้างกั้น อยู่ หรือบางคน เฝ้ารอคอยวันกลับเข้าสู่อำนาจอย่างใจจดใจจอน่าเอง

 

 

น่าสนใจ ปรากฏว่าเกิดโครงการดีๆที่นักการเมืองทั้งหลาย ควรคิดและปฏิบัติเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ นั่น โครงการ English for All มีนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นผู้อำนวยการ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นผู้จัดการ ในนามทีมนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

โครงการ English For All เป็นโครงการขององค์กรเอกชนที่ไม่เเสวงหากำไร ที่จะคัดเลือกโรงเรียนที่ขาดเเคลนครูเเละมีนักเรียนยากจนในชนบท เพื่อส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษ ปฏิรูปให้เด็กไทยรุ่นใหม่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ภายใต้โครงการเรียนฟรี ที่จะนำเงินบริจาคมาอุดหนุนเด็ก เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสที่ดีแก่เด็กไทยทั้งหมด เเละเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศในอนาคต โดยนำรูปแบบการสอนภาษาที่สองของสิงคโปร์ และมาประยุกต์การสอนภาษาอังกฤษแก่เด็กไทย เเละได้เลือกโรงเรียนแห่งนี้เพื่อนำร่องเพราะมีเด็กด้อยโอกาสจำนวนมาก

 

ซึ่งโรงเรียนสะพานที่ 3   อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นโรงเรียนเเรกที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ English for All เมื่อปี 2557  โดยเริ่มทดลองจัดการเรียนการสอนในชั้นอนุบาล 1 และ 2 ชั้นละ 1 ห้องเรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนครูชาวฟิลิปปินส์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จากนั้นในปีการศึกษา 2558 ได้ขยายผลในชั้นอนุบาล 1-2, ป.1 และทุกชั้นเรียน

โดยมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา นักเรียนมีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษ ทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียนดีขึ้นอย่างชัดเจน ตลอดจนมีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น และได้รับการตอบรับจากผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษาเป็นอย่างดี

 

ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช ผู้อำนวยการโครงการ English for All ร.ร.สะพานที่ 3 กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการว่า เกิดจากแนวคิดการให้โอกาสในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแก่เด็กไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในโครงการ English for All โดยวางเป้าหมายให้เด็กไทยทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับดี ภายใน 10 ปี จากนั้นได้นำแนวคิดสู่การทดลอง บนฐานความเชื่อว่า เด็กต้องเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก ๆ จึงจะสามารถพัฒนาได้ พร้อมมีเงื่อนไขหลักในการดำเนินโครงการ English for All คือ ต้องเริ่มเรียนแต่เล็ก ยิ่งเล็กยิ่งดี, เน้นการสอนให้สื่อสารได้, ครูต้องพูดได้จริง, ต้องมีเวลาเรียนที่เพียงพอ และต้องมีสภาพแวดล้อมการเรียนภาษา ตลอดจนปรับระบบการสอบและการวัดผลเน้นเรื่องการสื่อสารด้วย 

ทั้งนี้โครงการ English for All มีความแตกต่างจาก English Program ในโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะโครงการนี้เลือกที่จะเปิดโอกาสให้เด็กด้อยโอกาส ขาดโอกาส หรืออยู่ในครอบครัวที่มีฐานะไม่ดีนัก ให้ได้เรียนภาษาอังกฤษจากครูเจ้าของภาษาหรือครูต่างชาติ ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เด็กเขินอายน้อยลง กล้าพูด และร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนอย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือ เด็กนำภาษาอังกฤษไปใช้สื่อสารกับคนในครอบครัวด้วย ทำให้มีผู้ปกครองและประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์กับบุตรหลานมาก จึงมีแนวทางที่จะขยายโครงการให้กับเด็กทุกระดับของ รร.สะพานที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง และจะขยายโครงการ English for All ไปยัง รร.ทั่วประเทศต่อไป

 

 

ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น เมื่อโครงการดังกล่าว ได้ไปเข้าหูพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แน่นอนว่า โครงการดีๆแบบได้ ใครได้ยินได้ฟังก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ มาดูงาน English for All 

 

เบื้องต้นได้หารือร่วมกับเลขาธิการ กพฐ.เเล้ว จะนำรูปแบบการสอนไปใช้ ซึ่งน่าจะดำเนินการได้ในปีการศึกษา 2561 โดยเริ่มกับโรงเรียนขนาดเล็กที่มีความยากจนเเละขาดเเคลนครูก่อน ตำบลละ 1 โรงเรียน หรือกว่า 7,000 โรงเรียน ส่วนครูผู้สอนส่วนหนึ่งจะเป็นครูไทยที่มีความรู้ ความสามารถ และมีครูจากต่างประเทศ ซึ่งเร็วๆนี้จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์เพื่อหารือเเละทำความร่วมมือในการจัดหาครูที่มีคุณภาพเพื่อส่งมาสอนแต่จำนวนเท่าใดนั้นต้องหารือกันก่อน สำหรับงบประมาณ ในภาคการเรียนที่ 1จะของกลางปีของสพฐ. ส่วนในภาคเรียนที่2จะจัดสรรงบของการปีการศึกษา 2562 โดยคาดว่ารายละเอียดในหลักการจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

 

สำหรับความสำเร็จดังกล่าว เป็นเรื่องที่จะต้องขอแสดงความชื่นชม นายกรณ์และหมอวรงณ์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ทุ่มเทสรรพกําลัง เพื่อให้โครงการดังกล่าวสำเร็จ บังเปิดผลขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม