สะพานเชื่อมทางการเมือง โครงการ English for All.. “คสช.”ส่งซิก “ประชาธิปัตย์”แบบนี้เป็นการทอดมือทางการเมืองหรือไม่??

22 ม.ค. 2561

แชร์ |

สะพานเชื่อมทางการเมือง โครงการ English for All.. “คสช.”ส่งซิก “ประชาธิปัตย์”แบบนี้เป็นการทอดมือทางการเมืองหรือไม่??

สืบเนื่องจากการขยายผล โครงการ English for All ที่มีนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นผู้อำนวยการ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นผู้จัดการ ขับเคลื่อนในนามทีมนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2557 โดยมีโรงเรียนสะพานที่ 3 อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถือว่าเป็นโรงเรียนนำร่อง เป็นโรงเรียนเเรกที่ ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาด้านภาษาอังกฤษ เป็นการปฏิรูปให้เด็กไทย ภายใต้โครงการเรียนฟรี ที่จะนำเงินบริจาคมาอุดหนุนเด็ก เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสที่ดีแก่เด็กไทยทั้งหมด เเละเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศในอนาคต โดยนำรูปแบบการสอนภาษาที่สองของสิงคโปร์ และมาประยุกต์การสอนภาษาอังกฤษแก่เด็กไทย เเละได้เลือกโรงเรียนแห่งนี้เพื่อนำร่องเพราะมีเด็กด้อยโอกาสจำนวนมาก

ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น เมื่อโครงการดังกล่าว ได้ไปเข้าหูพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แน่นอนว่า โครงการดีๆแบบได้ ใครได้ยินได้ฟังก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ มาดูงาน English for All จากนั้นได้มีการขยายผลต่ไปทั่วประเทศ

โดยจะนำรูปแบบการสอนไปใช้ ซึ่งน่าจะดำเนินการได้ในปีการศึกษา 2561 โดยเริ่มกับโรงเรียนขนาดเล็กที่มีความยากจนเเละขาดเเคลนครูก่อน ตำบลละ 1 โรงเรียน หรือกว่า 7,000 โรงเรียน ส่วนครูผู้สอนส่วนหนึ่งจะเป็นครูไทยที่มีความรู้ ความสามารถ และมีครูจากต่างประเทศ

นอกเนื่องจากสิ่งดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ เยาวชนอนาคตของชาติแล้ว ทางการเมืองถือเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง สำหรับแง่มุม ทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนมาตลอด ว่าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคนั้น มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ว่า ไม่ขอร่วมมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ และคสช. ซึ่งเหตุผลหลักก็คือ ผิดหลักการประชาธิปไตย

ไม่ว่าจะไปการออก มาประกาศ“ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ และชี้ทีละประเด็นว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาหลักของประเทศใน 3 เรื่อง คือ 1.ทิศทางการพัฒนาประเทศ 2.ความขัดแย้ง 3.การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น

“ร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ แต่กลับจะสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมาจาก ส.ว. 250 คน”

อ่านเพิ่มเติม >>> นี่แหล่ะ..ความใจกว้างของ“พล.อ.ประยุทธ์” ขยายโครงการประชาธิปัตย์ ..นโยบายไหนดี พร้อมสนับสนุน ไม่เกี่ยงเรื่องพรรคการเมือง!!

หรือแม้แต่ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ จะไปจับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อตั้งพรรคการเมือง ว่า การที่จะมาถามตนว่าวันนี้ให้ตนร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์เองก็ได้พูดเชิงปฏิเสธ ว่านโยบายหลายอย่าง และความคิดหลายอย่างในวันนี้ที่ตนคิด ไม่ค่อยเหมือนกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน บางเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันทำนี้ ตนก็ไม่สนับสนุน ดังนั้นตนจึงบอกไปว่าถ้าจะให้ร่วมงานกันก็ต้องคุยกันก่อนว่าแนวทางเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามแม้บางช่วงพล.อ.ประยุทธ์ จะเมินความสนใจ หรือมีท่ามึนตึงขึ้นนมาบ้างในการโต้ตอบกับนายอภิสิทธิ์แต่การสนับสนุนโครงการดังกล่าวที่เกิดขึ้นในนามทีมนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นการส่งซิก ทอดมือทางการเมือง ในการที่จะแตะกับพรรคประชาธิปัตย์ เชิญชวนให้นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ จับมือหลังเลือกตั้งหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ หากประชาธิปต์ ยอมตกลงปลงใจ แม้นายอภิสิทธิ์จะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่รับประกันเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นรัฐบาลต่อไปยาวๆ 4ปี หรือ อาจมากกว่านั้น!!