ฟังเสียงพล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามสื่อปมฉาวพล.อ.ประวิตร

 สืบเนื่องจากปมฉาว นาฬิกาหรู  ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ กระพือไปไกล ไม่ใช่เฉพาะในประเทศ แต่ล่าสุดตกเป็นข่าวคราวในต่างแดน เรียบร้อย

ซึ่งขณะที่กระแสภายในประเทศส่อเค้ารุนแรงขึ้นวัน  ทั้งเดินสายกดดัน จี้การตรวจสอบอย่างโปร่งใส  จนทั้งล่าสุดเกิดกระแสกดดันให้พล.อ.ประวิตร แสดงสปิริตออก  และหลายครั้งหลายหนพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาตอบคำถามสื่อมวลชน ประกาศชัดสถานะพล.อ.ประวิตร ต่อรัฐบาล และครั้งนี้ก็เช่นกัน ...

วันที่ 23 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าปัญหาเรื่องนาฬิกาหรู ว่า เรื่องนี้ขอให้ฟังจากทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งได้ข่าวว่าวันนี้จะมีการชี้แจงเพิ่มเติมว่า การดำเนินการไปถึงไหนอย่างไร ก็ขอให้แยกให้ออกว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร และเรื่องเหล่านี้ก็มีขั้นตอนและกระบวนการสอบสวนว่าได้มาอย่างไร มาจากไหน หลายคนไปกล่าวอ้างว่ามาจากการทุจริตที่ไหน อย่างไร ก็ต้องมีการสอบสวนกันต่อ เพราะฉะนั้นต้องรอข้อยุติให้ได้ก่อนในกระบวนการเหล่านี้

"อยากทำความเข้าใจว่า หลายท่านอยากให้ผมใช้คำสั่งมาตรา 44 ก็ต้องอธิบายว่าที่ผ่านมาผมใช้ในเรื่องของการลงโทษ และที่ทำก็เพราะมีหน่วยงานเสนอขึ้นมา เช่น ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแจ้งขึ้นมาว่ามีการสอบสวนแล้วและมีผลออกมาเช่นนี้เห็นควรให้เอาออกก่อนผมจึงใช้มาตรา 44 ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะไปใช้กับใครก็ได้ ผมก็ต้องระวังตัวเองเช่นกัน กรณีนี้ก็เช่นกันก็ต้องรอฟัง ป.ป.ช.จะเสนอเรื่องขึ้นมา อย่าเอามาพันกันว่าทำไมผมไม่ใช้คำสั่งมาตรา 44 ตรงนี้ แล้วไปใช้กับตรงนั้น ที่สำคัญทุกคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นความบกพร่องส่วนตัว ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งมีอยู่แล้ว เรื่องไหนเป็นเรื่องการใช้งบประมาณแผ่นดินก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่านำ 2 เรื่องมาปนกัน ถ้าใช้งบประมาณแผ่นดินแล้วทำให้เกิดความเสียหาย มีหลักฐานชัดเจนก็ว่าไปอีกแบบ ขอให้แยกแยะให้ออก ผมคิดว่าเรื่องนี้ควรจะยุติได้แล้ว ปล่อยให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมไป"

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร สื่อต่างประเทศให้ความสนใจและนำไปเปรียบเทียบในเรื่องมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้นำหรือนักการเมืองในต่างประเทศด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ เรื่องนี้ขอชี้แจงกับคนไทยก็แล้วกัน คงไม่ต้องชี้แจงกับต่างประเทศ เพราะทุกอย่างก็มาจากคนไทยที่ขับเคลื่อนออกไป แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรก็ได้ชี้แจงด้วยตัวเองไปแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีอ่านคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามย้ำเกี่ยวกับเรื่องนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวอย่างเบื่อหน่าย ว่า “เรื่องนี้ผมไม่ตอบ ไม่มีคำตอบ ถามซ้ำกันอยู่เรื่องเดียวเรื่องของพล.อ.ประวิตร ยืนยันเรื่องนี้ผมไม่ได้ปกป้อง หรือปิดบังอะไรเลย เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบก็ขอให้ฟังจากทาง ป.ป.ช.ก็แล้วกัน ผมก็ได้แต่ทำความเข้าใจเท่านั้น ถ้าผิดก็คือผิด ท่านก็รับอยู่แล้วว่าถ้าผิดก็ต้องออกอยู่ดี ก็ไปว่ากันตามกฎหมาย แต่ขอให้แยกแยะให้ออกว่าอันไหนใช้งบประมาณของรัฐ อันไหนเป็นเรื่องส่วนตัว ท่านก็ต้องไปแก้ไขในเรื่องส่วนตัวของท่านในกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระให้ได้ เท่านี้ดีกว่า”

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร จะลาออกหรือไม่เพราะเริ่มมีกระแสข่าวลือออกมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสั้นๆว่า “ ยังไม่มีการลาออก”

ก่อนหน้านี้ “สนธิญาณ ชื่นฤหัยในธรรม” ได้แสดงความเกี่ยวสถานะการมีอยู่ของพล.อ.ประวิตร กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไว้อย่างน่าสนใจ นอกเหนือจากผู้มีบุญคุณแก่พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป้นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว ในบทบรรณาธิการ “ ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน” ทำไมต้อง พล.อ.ประวิตร?  ช่วงหนึ่งประบุว่า

 
คำตอบง่ายง่ายก็คือพล.อ.ประวิตรคือจักรกลอันสำคัญในการสร้างฐานเครือข่ายทางอำนาจของคสช. ไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์!!!
ในการพลิกขั้วอำนาจจากระบบทักษิณโดยล้มรัฐบาลสมชาย ให้กลับมาอยู่ในมือของฝ่ายต่อต้านด้วยการจัดตั้งรัฐบาลที่มีมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำนั้น อย่าลืมว่าเป็นฝีมือใคร?
แน่นอนว่าคือพล.อ. ประวิตร ฝ่ายตรงข้ามรู้ดี !!!!
เนวิน เพื่อน พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งเป็นลูกน้อง พล.ต.อ พัชรวาท วงศ์สุวรรณ คนนามสกุลเดียวกับ พล.อ.ประวิตร คือผู้ทำให้ดิวนั้นสำเร็จ ทำให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เป็นนายกรัฐมนตรี!!!

ฐานของฝ่ายต่อต้านทักษิณทั้งในกองทัพและส่วนอื่นๆจึงถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นเครือข่าย!!!

ในขณะที่พลเอกประยุทธ์. จันทร์โอชา ซึ่งรับไม้ต่อตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกจากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาเป็นเพียงผู้คุมอำนาจเบ็ดเสร็จในกองทัพ!!!!!
จากการที่เป็นคนเก็บตัว มุ่งมั่นทำงานในกองทัพและรับใช้สถาบันฯ ด้านหนึ่งแม้จะเป็นผลดีในเรื่องความโปร่งใสทีไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจและผลประโยชน์ แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้สังคมของพล.อ.ประยุทธ์นั้นแคบยิ่ง!!!!
แต่อย่าลืมว่าอำนาจที่ชี้ขาดความเป็นไปของประเทศนี้ก็คืออำนาจของกองทัพบก!!!
ที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์สามารถเป็นหัวหน้าคณะคสช. และนายกรัฐมนตรี!!!!!
แต่ที่สำคัญท่านพล.อ.อนุพงษ์และพล.อ.ประยุทธ์คืนน้องรักที่พล.อ.ประวิตรวางรากฐานในกองทัพเอาไว้ให้!!!!
เพียงแค่นี้ก็คงจะเห็นได้แล้วว่าทำไม????

“สนธิญาณ ชื่นฤหัยในธรรม” ยังฟันธงอีกว่า... แต่ไม่ว่ากระแสจะพุ่งตรงไปที่พล.อ.ประวิตร สักเท่าไหร่พล.อ.ประวิตรก็ยืนยงอยู่ในตำแหน่งและทั้งความสำคัญและอำนาจก็ยังไม่ เคยลดลงทั้งในรัฐบาลและคสช.!!!