เจ็บเข้าขั้วหัวใจ!!! "กนก"ฟัน นายกฯแถลงแบบนี้ ก็คงไปต่อลำบาก..พฤติกรรมของคนเป็นรัฐมนตรี มีแยกแยะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือ อ่านแล้วคุณคิดเห็น!!?

พล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงปัญหานาฬิกาแบรนด์หรูของพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมว่า ขอให้ฟังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.เพราะได้ข่าวว่าปปช.จะชี้แจงความคืบหน้าในการสอบสวนว่าไปถึงไหนอย่างไร ขอให้แยกแยะให้ออกว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของรองนายกรัฐมนตรี และเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องมีกระบวนการสอบสวนว่าได้มาอย่างไร จากไหน หลายคนไปกล่าวอ้างว่ามาจากการทุจริตเพื่อนที่ไหนอย่างไรต้องสอบกันต่อ เพราะฉะนั้นต้องรอข้อยุติให้ได้ก่อนจากกระบวนการเหล่านี้  

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีขอทำความเข้าใจว่าที่หลายคนอยากให้ตนใช้ม.44 ตนขออธิบายว่า ที่ผ่านมาตนใช้ม.44ในเรื่องการลงโทษ โดยมีหน่วยงานเสนอขึ้นมาอย่างเช่นศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแจ้งขึ้นมาว่าสอบสวนแล้วและมีผลสรุปเห็นควรให้บุคคลนั้นๆสมควรออกจากตำแหน่งก่อน ตนจึงใช้ม.44 ไม่ใช่ตนจะใช้ม.44กับใครก็ได้ ตนต้องระวังตนเองเช่นกัน และในกรณีพล.อ ประวิตร ก็เช่นกัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนต้องฟังปปช.เสนอขึ้นมา อย่านำมาพันกันว่าทำไมตนไม่ใช้ม.44 และอีกประการหนึ่งที่ทุกคนอาจลืมไปคือ อะไรคือเรื่องส่วนตัว ความบกพร่องส่วนตัว ก็ว่ากันไป ซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่  และอันไหนเป็นเรื่องงบประมาณแผ่นดิน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าเอา2เรื่องมาปะปนกัน ถ้าใช้งบประมาณแผ่นดินทำให้เกิดความเสียหาย และมีหลักฐานชัดเจน ตนก็จะว่าอีกแบบหนึ่ง ขอให้แยกแยะให้ออก ตนคิดว่าเรื่องนี้ควรจะยุติได้แล้ว เป็นเรื่องของปปช.ที่จะเป็นหน่วยงานตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่เรื่องนาฬิกาพล.อ ประวิตร กลายเป็นเรื่องที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจ จะต้องชี้แจงกับต่างประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนขอชี้แจงเฉพาะกับคนไทย เพราะทุกอย่างมาจากคนไทยที่ขับเคลื่อนออกไปสู่ต่างประเทศ และพร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนท้ายว่า ตนไม่ขอมีคำตอบอะไรอีกแล้วกับกรณีพล.อ ประวิตร เพราะสื่อถามซ้ำซากอยู่แต่เรื่องพล.อ ประวิตรเรื่องเดียว และตอบเช่นนี้ตนไม่ได้ปกป้อง ปิดบังอะไร เพราะถือเป็นเรื่องกระบวนการตรวจสอบ ขอให้รอฟังปปช.
"ถ้าผิดก็คือผิด ท่านต้องรับอยู่แล้ว ท่านต้องออกอยู่ดี ต้องไปว่าตามกฎหมาย แยกแยะให้ออกว่าอันไหนใช้งบประมาณของรัฐ อันไหนเรื่องส่วนตัว ท่านต้องไปแก้ไขเรื่องส่วนตัวของท่าน ในกระบวนการยุติธรรมให้ได้ " และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีข่าวว่าพล.อ ประวิตร จะลาออกจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่มีลาออก

เกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าวนั้น กนก รัตน์วงศ์สกุล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน "Kanok Ratwongsakul Fan Page" โดยมีใจความดังนี้

นายกฯแถลงแบบนี้ ก็คงไปต่อลำบาก..

พฤติกรรมของคนเป็นรัฐมนตรี มีแยกแยะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือครับ?

สมมุติมีนักการเมืองมาเลี้ยงดูปูเสื่อนักข่าว แอบซื้อรถให้ มีงบเอนเตอร์เทนให้ผู้ประกาศไปดูงาน (ไปเที่ยว) เมืองนอก ไปลงอ่าง!..

นักข่าวจะอ้างได้มั๊ยว่า..นี่นอกเวลางาน หรือใช้สิทธิ์ลาพักร้อนไปส่วนตัว ถ้าเขาไม่ใช่นักข่าว..นักการเมืองจะเห็นหัว..จะทำแบบนี้มั๊ย?

คนเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเฉพาะเวลาทำการ ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เป็นประชาชนธรรมดาใช่ไหม? ประเทศนี้ไม่มีนายกฯใันวันเสาร์อาทิตย์ เพราะเป็นเวลาส่วนตัวน่ะสิ!

ท่านบอก "ความบกพร่องส่วนตัวนี้..ปล่อยให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ตรวจสอบตามกระบวนการ.." ท่านคงไม่รู้เลยว่า ประธาน ป.ป.ช. เคยทำงานให้ใครมาก่อน แล้วท่านก็คงไม่รู้เรื่องที่เขาพยายามยืดอายุ ป.ป.ช.ชุดนี้ อยู่กันยาวๆ 9 ปี ไม่ต้องเซ็ทซีโร่เหมือนองค์กรอิสระอื่น

ถ้าจะรอผลสอบ ป.ป.ช. ทำไมไม่ทำเหมือนวงการตำรวจ หรือ ผอ.โรงเรียนฉาวทั้งหลาย เด้งย้ายออกไปก่อน ถ้าผลสอบไม่ผิด ค่อยกลับมาเป็น

ทำไมไม่ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ย้ายรองนายกฯคนนี้ออกไปก่อน ถ้า ป.ป.ช.สรุปว่า ไม่ผิด ค่อยกลับมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีใหม่

ถ้าทำแบบนี้ ผมว่า ป.ป.ช.จะเร่งตรวจสอบให้ได้ผลเร็วขึ้นด้วย (เดี๋ยวเจ้าตัวก็ส่งสัญญาณ เร่ง ป.ป.ช.เอง ..พวกเอ็งรีบสรุปผลเลย กูอยากกลับมาเต็มทนแล้ว)

นักข่าวถามถึง สื่อต่างประเทศให้ความสนใจและนำไปเปรียบเทียบในเรื่องมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้นำหรือนักการเมืองในต่างประเทศ ..ท่านนายกฯกลับตอบว่า “เรื่องนี้ขอชี้แจงกับคนในประเทศก็แล้วกัน คงไม่ต้องชี้แจงกับต่างประเทศ.."

สปิริต สำนึกรับผิดชอบนั้น เป็นมาตรฐานสากล เป็นตัวชี้วัดจริยธรรมที่รู้กันทั่วโลก การที่สื่อต่างประเทศพากันเสนอข่าวนี้ แสดงว่า เขาสงสัย ต่อมสำนึกรู้ถูกผิด ในตัวรัฐมนตรีคนนี้มีปัญหา แถมยังเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลทหาร ที่ทั่วโลกจับตาอยู่หลายเรื่อง

ลำพังไม่มีเรื่องนี้ ก็ต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว ถึงบอกว่า..ไปต่อลำบากจริงๆ