ห้ามทุจริต เรียกรับส่วยต่างด้าว “บิ๊กป้อม” โชว์ผลงานสุดๆ สั่งก.แรงงาน เร่งพิสูจน์สัญชาติต่างด้าว    ด้าน “บิ๊กอู๋” ระบุปรับแผนพิสูจน์สัญชาติ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.deepsnews.com

ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการแถลงแผนปฏิบัติการสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ และการดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย (ตรีเทพ) ของคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) พร้อมมอบนโยบาย โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด เอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ทูตแรงงานกัมพูชาประจำประเทศไทย อัครรัฐทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เข้าร่วมประชุม

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า เพื่อให้แผนการปฏิบัติงานตามแผนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติดังนี้

1.ให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติโดยทำให้เกิดความสะดวก ลดขั้นตอน ระยะเวลา และไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ พร้อมสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ

2.ให้หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เป็นหลักในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

3.ประสานขอความร่วมมือจากเอกอัครราชทูต เมียนมา ลาว และกัมพูชา ในการบริหารศูนย์พิสูจน์สัญชาติให้เกิดประสิทธิภาพโดยอาจต้องมีการปรับระบบการทำงานภายในศูนย์ฯตลอดจนเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และเครื่องมือ ให้เพียงพอต่อปริมาณงานในแต่ละวัน โดยประเทศไทยจะให้การสนับสนุนต่อการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนด

“แผนปิบัติการตรีเทพจะสำเร็จลุล่วง และมีประสิทธิภาพได้ต้องเกิดจากการบูรณาการและการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างจริงจัง ทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่มีการทุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ และต้องแล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ห้ามทุจริต เรียกรับส่วยต่างด้าว “บิ๊กป้อม” โชว์ผลงานสุดๆ สั่งก.แรงงาน เร่งพิสูจน์สัญชาติต่างด้าว    ด้าน “บิ๊กอู๋” ระบุปรับแผนพิสูจน์สัญชาติ

ห้ามทุจริต เรียกรับส่วยต่างด้าว “บิ๊กป้อม” โชว์ผลงานสุดๆ สั่งก.แรงงาน เร่งพิสูจน์สัญชาติต่างด้าว    ด้าน “บิ๊กอู๋” ระบุปรับแผนพิสูจน์สัญชาติ

ห้ามทุจริต เรียกรับส่วยต่างด้าว “บิ๊กป้อม” โชว์ผลงานสุดๆ สั่งก.แรงงาน เร่งพิสูจน์สัญชาติต่างด้าว    ด้าน “บิ๊กอู๋” ระบุปรับแผนพิสูจน์สัญชาติ

ห้ามทุจริต เรียกรับส่วยต่างด้าว “บิ๊กป้อม” โชว์ผลงานสุดๆ สั่งก.แรงงาน เร่งพิสูจน์สัญชาติต่างด้าว    ด้าน “บิ๊กอู๋” ระบุปรับแผนพิสูจน์สัญชาติ

ด้านนายจรินทร์ กล่าวว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา มีแรงงานจาก เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา จำนวน 3.8 ล้านคน เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย 1.8 ล้านคน ขณะที่แรงงาน 2 ล้านคน เข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นเงื่อไขที่นานาชาติ ตำหนิประเทศไทยที่ไม่สามารถดูแลคนเหล่านี้ได้ จนเกิดปัญหา ค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับต่างๆ จนประเทศไทยโดนจำกัดสิทธิในการค้าสินค้าทางทะเลกับประเทศในกลุ่มอียู และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การพยามดำเนินการรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังพบปัญหาอุปสรรค 2 ประการ คือ 1.ไม่สามารถพิสูจน์แรงงานจากประเทศต้นทางได้ จำนวน 800,000 คน 2.ยังไม่มีฐานข้อมูลรวมสำหรับการพิสูจน์ทราบรายละเอียดของแรงงานบางส่วน อย่างไรก็ตาม ภายหลัง มติครม.เรื่องการขยายเวลาพิสูจน์สัญญชาติแรงงานไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ภายใต้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.ต้องจัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวที่เข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน 2.ต้องพิสูจน์สัญชาติแรงงานที่มีปัญหาจำนวน 800,000 รายให้เสร็จในเดือน มิ.ย. 2561  โดยมีเป้าหมายให้แรงงานทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และได้รับความคุ้มครองตามหลักกฎหมายและสิทธิประโยชน์เทียบเท่าคนไทยคนหนึ่งตามหลักสากลต่อไป
ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน กล่าวถึงการดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแงงานต่างด้าวว่า แรงงานต่างด้าวในประเทศไทย มีประมาณ 3.8 ล้านคน ในจำนวนนี้เข้ามาอย่างถูกต้องประมาณ 1.8 ล้านคน ที่เหลือต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ยังเหลืออยู่ประมาณ 8 แสนราย ที่ได้มีการขยายระยะเวลาไปถึงวันที่ 30 มิ.ย. โดยมีการปรับแผนเพื่อดำเนินการให้ทัน ที่จะมีการเชื่อมโยงกับนายจ้างและปรับวิธีการทำงานให้เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ก็จะเหลือประมาณ 6  ชั่วโมง อีกทั้งจะมีการบูรณาการต้นทางระหว่าง กระทรวงสาธารณะสุข ตำรวจ และกระทรวงแรงงาน เชื่อว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติได้ตามเวลาที่กำหนด  ทั้งนี้ แรงงานกลุ่มดังกล่าวแบ่งเป็นแรงงานเมียนมา 3 แสนกว่า กับพูชา 4 แสน และลาว 1 แสน ขณะเดียวกันก็จะดำเนินการในส่วนแต่ละจังหวัด ที่จะมีการตั้งศูนย์เคาน์เตอร์เซอร์วิส เพื่อให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาลงทะเบียน ขอวีซ่า โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.