อเมริกันอันธพาล?! "เพจดัง"ลอกคราบแยงกี้-ส่งออกปชต.-สิทธิมุนษยชนไปทั่วโลก เบื้องหลังสุดเลวร้าย-บ่อนเซาะลอบสังหารผู้นำ ปท.ที่ไม่ก้มหัวให้

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

อเมริกันอันตราย?! เพจดังที่เกาะติดขบวนการเสรีนิยมสุดโต่ง และทำงานลักษณะคล้ายนักวิชาการอิสระอย่าง "Kittitouch Chaiprasith" ได้ออกมาลอกคราบแยงกี้ อเมริกาที่ส่งออกประชาธิปไตยไปทั่วโลก ผ่านองค์กรที่วาดภาพเอาไว้อย่างสวยหรูอย่าง NED และ USAID หลังมีเอกสารหลุดลับออกมาสู่สาธารณะ และถือเป็นการเปลื้อยเปลืองตัวเอง ว่าเบื้องหลังนั้นสุดเลวร้ายแค่ไหน เพราะไม่ต่างจากการทำงานของ CIA ในอดีต ที่เข้าไปบ่อนเซาะทำลายประเทศที่ไม่สวามิภักดิ์ จนประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ล่มสลายมาแล้วเกือบทั้งทวีป ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดใกล้ ๆ ได้แก่ การล่มสลายของลิเบีย และ ซีเรีย หรือแม้แต่กระทั่งประเทศไทยเอง องค์กร Deep State (สำนวนของเปลว สีเงิน , ท่านขุนน้อย) เหล่านี้ ก็กำลังสุมขอนกระทำชำเราอยู่ตลอดเวลา...ผ่านการเคลื่อนไหวของกลุ่มก้อนองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งลิเบอร่านวัยละอ่อน ที่หวังล้มรัฐบาลนั่นด้วย 

 

 

โดยรายละเอียดใหญ่ ๆ ที่  "Kittitouch Chaiprasith" ไว้ คือ


เมื่อวานนี้เห็นทางสำนักข่าว ฐานเศรษฐกิจ ทำสกู๊ปเกี่ยวกับองค์กรที่ได้รับการสนับสนุน จากรัฐบาลอเมริกาอย่าง NED ว่าให้เงินกับ บรรดาเคลื่อนไหวนักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว ที่ชอบอ้างเรื่องประชาธิปไตย และ สิทธิต่างๆ ในประเทศไทยประจำปี 2017 โดยเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านบาท!!! https://www.ned.org/region/asia/thailand-2017/ - ก็เลยอยากนำโพสท์เก่าที่ผมเคยเขียนไว้ (หลายครั้งแล้ว) มาให้ได้อ่านกัน เผื่อจะได้รู้ ว่าองค์กรเหล่านี้ เกิดขึ้นมาจากไหน ทำอะไร และเกี่ยวข้องอย่างไรกับนโยบายของอเมริกา - และทำไมจีน รัสเซีย อินเดีย ถึงควบคุม จัดระเบียบและสั่งห้าม!! ไม่ให้องค์กรของ อเมริกาและยุโรปเหล่านี้ เข้ามาสนับสนุน เงินทุนและการเคลื่อนไหวของกลุ่ม NGO และนักกิจกรรมการเมือง ที่ชอบอ้างเรื่อง ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนต่างๆ - เพราะนั่นคือหน้าฉาก หลังฉากก็คือ การเลี้ยงกลุ่มก้อนการเมืองและ NGO ให้กดดันให้เกิดรัฐบาลหรือนโยบายที่ เอื้อประโยชน์ต่อตะวันตก รวมไปถึง การล้มรัฐบาลที่ไม่สนองประโยชน์


แต่ผมเองก็ทราบว่าเรื่องเหล่านี้ มีรายละเอียดเยอะมาก อาจมากเกิน กว่าที่คนจะเสพเข้าไปได้ในครั้งเดียว ดังนั้น ผมจึงมีความตั้งใจจะเขียนแยกย่อย กรณีศึกษาต่างๆ ที่อเมริกาและยุโรปได้เข้าไป แทรกแซงการเมือง ตั้งแต่การเลี้ยงพวก NGO กลุ่มนักเคลื่อนไหว ไปจนถึงการปลุกระดมม็อบ จนถึงนำไปสู่ขั้นสงครามกลางเมือง ที่ได้ทำให้ ประเทศชาติเหล่านั้นพังพินาศ เช่น ลิเบีย ซีเรีย 

 

กรณีศึกษาย่อยๆ นี้จะช่วยทำให้คนเข้าใจ และเห็นภาพได้ง่ายขึ้น และมีหลักฐาน/ข้อมูล ที่มาสนับสนุนเวลาที่จะบอกว่าอเมริกา+ยูโรป ทำเลวร้ายอะไรไว้กับประเทศอื่นๆ บ้าง เพื่อให้เข้าใจว่าประเทศเผด็จการ อย่างอเมริกาและยุโรปหลายประเทศนั้น ทำอะไรไว้กับชาวโลกบ้าง และพยายาม อย่างไรที่จะควบคุม สั่งการให้รัฐบาลต่างๆ เดินตามแผนที่วางไว้ ซึ่งถ้าใครไม่เดินตาม ก็จะประนามว่าประเทศเหล่านั้นชั่วร้าย ขัดต่อหลักการอันสูงส่งที่ตะวันตกกำหนด และต้องได้รับการจัดการหรือปลดปล่อย


เรื่องของกลุ่มประท้วงกางร่มในฮ่องกง ที่มีโจชัว หว่อ งและ นาธาน เหลา เป็นแกนนำ
จนมาถึงเรื่องการที่โจชัว หว่องเดินทางเข้าไทย หลายคนยังไม่เข้าใจว่านี่คือ #เกมส์การเมืองโลก บางคนยังคิดว่าสองคนนี้เป็นแค่เด็กหัวขบถธรรมดาเท่านั้น ทั้งที่ในความจริงการเคลื่อนไหว และจัดตั้งมวลชนจำนวนมาก เพื่อทำให้เกิดการ เปลี่ยนอำนาจหรือระบอบการปกครองในฮ่องกง มันไม่มีทางทำได้โดยเด็กแค่ไม่กี่คนอยู่แล้ว..


แต่มันมาจากการสนับสนุนขององค์กรที่สังกัด "ภายใต้รัฐบาลอเมริกา" อย่าง Freedom House, NED, USAID และอื่นๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งาน เพื่อปลุกระดมมวลชน ตั้งแต่โค่นล้มรัฐบาลต่างๆ ไปจนถึงก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองเช่นในซีเรีย (และลิเบีย รวมถึงในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง)


หลักฐานสำคัญต่างๆ ที่ยืนยันได้ว่า องค์กรเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการปลุกระดมผู้คน
และการสนับสนุนสงครามการเมืองเพื่อล้มล้าง ระบอบการปกครองหรือเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ (ที่ไม่เอื้อต่อผลประโยชน์ของรัฐบาลอเมริกา) เยอะเกินกว่าที่จะเขียนหมดภายในโสพท์เดียวได้


ผมจึงขอกระจายรายละเอียดไปยังโพสท์อื่นๆ (ในโอกาสหน้า) แต่โพสท์อันนี้จะเป็นภาพรวม
(ซึ่งอาจจะยาวหน่อย) ที่เป็นการปูพื้นในเห็นถึง #ความฉ้อฉล #ความสกปรก #การตีสองหน้า
ขอองค์กรที่อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ และคำสวยต่างๆ ที่รัฐบาลอเมริกาและยุโรป
ใช้เป็นข้ออ้างในการเข้าไปแทรกแซงชาติอื่น


หลายคนไม่เข้าใจว่าองค์กรเหล่านี้อันตรายอย่างไร บางคนเห็นชื่อหรือหลักการสวยๆ ก็หลงเคลิ้มไปแล้ว โดยหารุ้ไม่ว่าองค์กรเหล่านี้ ทำอะไรเลวร้ายไว้บ้าง ซึ่งผมจะเอาข้อมูลมาเปิดเผยให้เห็นชัดๆในโพสท์นี้ เผื่อบางคนจะ "ตาสว่าง" ขึ้นมาบ้าง...

 
1. องค์กรเหล่านี้มักจะมีบอร์ดบริหารที่มาจาก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA หรือคนที่กำหนด
นโยบายต่างประเทศในแถวหน้าหรือที่เรียกว่า Think Tank ซึ่งคนหนึ่งที่ผมจะยกตัวอย่างก็คือ Frank Carlucci ซึ่งมีชื่อเป็นบอร์ดบริหารของ ทั้ง NED และ Freedom House !!!!!!!!!

www.ned.org/docs/strategy/strategyDocument2002.pdf


Frank Carlucci เป็นถึงอดีต ผอ.CIA สมัยประธานาธิบดี Jimmy Carter และเป็น
รัฐมนตรีกลาโหม (Secretary of Defense) ในสมัยของประธานาธิบดี Ronald Reagan !!!!
(Secretary of Defense เป็นตำแหน่งสูงสุดของ ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมีอำนาจสั่งการกองทัพทั้งหมด เป็นรองเพียงแค่ประธานาธิบดีของอเมริกาเท่านั้น)

https://en.wikipedia.org/wiki/United_States_Secretary_of_Defense


ในช่วงที่ Frank Carlucci ทำงานอยู่ใน CIA นั้น ได้เข้าไปเกี่ยวพันกับการ #ลอบสังหารผู้นำประเทศ ตามคำสั่งของประธานาธิบดีที่ต้องการโค่นผู้นำชาติ ที่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเย็น


หนึ่งในนั้นคือประธานาธิบดี Patrice Lumumba ซึ่งเป็นผู้นำที่ปลดแอกประเทศ Congo จากการ เป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก และยังเป็นถึง... "ประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งคนแรกของ Congo" แต่เมื่อเข้าฝ่ายทางโซเวียต จึงทำให้ถูกลอบสังหาร!!

https://en.wikipedia.org/wiki/Patrice_Lumumba


หลักฐานการสั่งการโดยประธานาธิบดีอเมริกา ถึงเจ้าหน้าที่ CIA ให้ลอบสังหารนาย Lumumba มีปรากฎอยู่ทั้งในเอกสารและการให้สัมภาษณ์ของ เจ้าหน้าที่คณะทำงานในเวลานั้นหลายชิ้นด้วยกัน

เอกสารเหล่านี้ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือขนาด ที่สื่อใหญ่อังกฤษอย่าง BBC และ The Guardian ก็ยังหยิบมาทำข่าวกันอย่างใหญ่โตเมื่อปี 2000

http://news.bbc.co.uk/2/hi/programmes/correspondent/974745.stm
https://www.theguardian.com/world/2000/aug/10/martinkettle
https://www.theguardian.com/global-development/poverty-matters/2011/jan/17/patrice-lumumba-50th-anniversary-assassination

หรือจะตามอ่านจากหนังสือเล่มดังกล่าวนี้ก็ได้
https://www.amazon.com/Assassination-Lumumba-Ludo-Witte/dp/1859844103

(จริงแล้วเวลานั้นประธานาธิบดีไอเซนฮาว ไม่ได้สั่งการให้สังหารเฉพาะ Lumumba
แต่รวมถึงผู้นำประเทศที่ไม่ยอมก้มหัวในอเมริกา อย่างเช่น นายฟิเดล คาสโตร และ ราอูล คาสโตร ซึ่งเป็นประธานาธิบดีของประเทศคิวบาอีกด้วย)

โดยขณะนั้น Frank Carlucci เป็นเจ้าหน้าที่ CIA ที่แฝงตัวใน Congo โดยปฏิบัติหน้าที่เป็น
รองเลขาฯ สถานทูตอเมริกาในประเทศ Congo ซึ่งแน่นอนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ (ก่อนที่ภายหลังจะได้มาเป็น ผอ. CIA เองเลย)


เค้าคนนี้แหละที่มานั่งเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหาร ขององค์กร NED และ Freedom House ที่ให้เงิน สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มร่มในเกาะฮ่องกง (ซึ่งใช้งาน Joshua Wong และ Nathan Law เป็น คนขับเคลื่อนขบวนการที่ผลักดันให้ฮ่องกงแยกตัว ออกจากประเทศจีน ตามแผนการณ์ที่เค้าต้องการ

 2. องค์กร NED, FreedomHouse, USAID ล้วนแต่เป็นองค์กรสกปรกที่เล่นเกมส์ #สองหน้า
หน้าหนึ่งทำทีเป็นว่าสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและ ประชาธิปไตย หรือสิทธิเสรีภาพ และคำสวยต่างๆ (ที่เท่าจะหยิบยกมาอ้างได้) องค์กรพวกนี้จะให้เงิน เสมือนหนึ่งการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้คนในระดับหนึ่ง เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของตนเป็นองค์กรผู้ใจบุญ
ทำให้คนไม่สงสัยในการเคลื่อนไหวของพวกเค้า


แต่อีกหน้าหน้า องค์กรเหล่านี้ทำหน้าที่ควบคู่ ไปกับองค์กรอย่าง CIA ซึ่งนั่นทำให้ต้องมี ผอ.CIA และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและการทูตอีกหลายคน เช่น Carlucci และ Abramowitz นั่งเป็นบอร์ดบริหาร!!

หลักฐานที่เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างองค์กรเหล่านี้
มีมากมายและมีรายละเอียดเยอะเกินกว่าที่จะเล่าหมด
(ในโพสทืเดียว) ดังนั้นผมจึงขอหยิบเฉพาะที่สำคัญๆ มาเป็นตัวอย่างในดูพอสังเขป หลักฐานชิ้นแรกก็คือ


เอกสารที่ระบุถึงการให้เงินทุนผ่านองค์กร USAID เพื่อฝึกบุคลากรและจัดหายุทโธปกรณ์ให้กับบุคคล ที่จะมาเป็นตำรวจในประเทศอเมริกาใต้ และที่อื่นๆ

งงกันไหมครับว่าอเมริกาไปเกี่ยวอะไรกับประเทศอื่น??


เพราะปี 1960 อเมริกาได้ให้ USAID จัดตั้งองค์กร "Office of Public Safety" องค์กรนี้ทำหน้าที่ดังที่ว่า คือ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงและสงบสุขของอเมริกา และผลประโยชน์ของอเมริกาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยล็อบบี้รัฐบาลหุ่นเชิดของตนเพื่อให้ทำการอนุมัติ
ให้เจ้าหน้าที่ของอเมริกาเข้าไปจัดการควบคุมอบรม ตำรวจในประเทศเหล่านั้น รวมถึงจัดหาอาวุธต่างๆ ในกับทางตำรวจของประเทศเหล่านั้นด้วย (เอาง่ายๆ ก็คือ อยากขายอาวุธนั่นแหละ)

https://en.wikipedia.org/wiki/Office_of_Public_Safety


จากเอกสารเก่าของ CIA ที่ชื่อ Family Jewel
https://en.wikipedia.org/wiki/Family_Jewels_(Central_Intelligence_Agency) ซึ่งเป็นเอกสารลับ (ที่ใช้นามแฝง) ซึ่งบันทึกเรื่อง #งานสกปรก" ต่างๆ ของหน่วยข่าวและเครือข่าย
ได้ถูกเปิดเผยในปี 2007 ออกมาจำนวน 613 หน้า ในหน้าที่ 607-613 ได้แสดงข้อมูลให้เห็นว่าองค์กร USAID นั้นทำงานร่วมกันกับหน่วยข่าวกรองกลางหรือ CIA อย่างใกล้ชิด ทั้งการแลกเปลีย่นข้อมูลและฝึกคน

http://www.yardbird.com/pdfs/family_jewels_ps607-613_ocr.pdf
http://www.gwu.edu/~nsarchiv/NSAEBB/NSAEBB222/family_jewels_full_ocr.pdf


ส่วนตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดในปัจจุบันก็คือ กรณีเหตการณ์ซีเรียซึ่งทางอเมริกาสนับสนุน
ทั้งสื่อ เงินทุน และอาวุธให้กับกลุ่มกบฎซีเรีย โดยเงินเหล่านี้ให้ผ่านกองทุน USAID ภายใต้
#ข้ออ้างเรื่องสนุบสนุนประชาธิปไตยล้มเผด็จการ ก่อนที่อาวุธเหล่านั้น จะตกอยู่ในมือของกลุ่มกบฎ และกลุ่มก่อการร้าย (ที่แปลงตัวจากกลุ่มกบฎอีกที)
ดังที่ปรากฎอยู่ทั่วไปตามสื่อต่างๆ ทั่วโลก...ฯลฯ (ข้อเขียนของ Kittitouch Chaiprasith กรณีนี้มีอีกหลายตอนขอเบื้องแรกขอจบแค่ตรงนี้ก่อน)