"หัวหน้าพรรคเพื่อไทย"คนใหม่?? คุณหญิงหน่อยอาจตกกระป๋อง.. ลุ้นหวยออก.."เสี่ยไก่-วัฒนา"!!??

จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ สร้างสถานการณ์ เล่นกระแส หรืออะไรก็ตามแต่  การปรากฏตัวของ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ได้วนๆเวียนๆอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลประเทศไทยในช่วงสัปดาห์นี้  อย่างภาพที่ปรากฏขึ้นประเทศจีนและฮ่องกง ถูกนำมาโยงกับ การตั้งผู้ที่มารับบทบาท สวมหมวกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้ยังไร้แม้แม้แต่เงา

 

 ก่อนหน้านี้  ขณะที่ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีรายงานข่าวว่า ได้มีแกนนำ พร้อมด้วยอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนหนึ่ง เดินทางไปพบ  ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเกาะฮ่องกง 

 

 เมื่อวันที่ 12 ก.พ.61มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เผยว่า นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์   ซึ่งเสร็จจากฉลองตรุษจีนร่วมกับครอบครัวแล้วจะเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางต่อไปยังเกาะฮ่องกง และพำนักระหว่างวันที่13-17ก.พ. ซึ่งอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย เตรียมเดินทางไปพบอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

     เพื่อพูดคุยสถานการณ์การเมือง และการวางตัวผู้นำพรรคคนใหม่ แต่ในการพูดคุยยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ เพราะเห็นว่า ยังไม่มีคนพร้อมเข้ามาทำหน้าที่ โดยนายทักษิณประเมินว่า การเลือกตั้งคงไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้หมด. 

 

แม้ต่อมาจะมีการปฏิเสธจากแกนนำพรรคเช่น ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ ร่อนแถลงการณ์ปฏิเสธความเคลื่อน ไหวในเรื่องการหาตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผลง่ายๆ ยังไม่ถึงเวลา แต่ก็มีเหตุที่ต้องขยายความ

จะจำเป็นไม่นั้น ในห้วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่นานนักจะเกิดการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศ หากเป็นไปตามโรดแมปเดิม การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 หรือหาก คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส. มีมติเสียงข้างมาก ปรับแก้ในมาตรา 2 เกี่ยวกับการกำหนดวันบังคับใช้กฎหมาย ให้มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ ก็จะทำให้โรดแมปการเลือกตั้งเลื่อนจากกำหนดการเดิมไปอีก 3 เดือน จากเดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แต่จะเร็วหรือช้าอย่างไรก็ตามแต่ อย่างไรเสียการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และสำหรับการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นที่ทราบกันดีว่ากลไกลภายในพรรค ไม่สามารถจะตัดสินว่าใครจะขึ้นมานั้งตำแหน่งนี้ได้ นอกจากคำสั่งเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดจากเจ้าของพรรคตัวจริง อย่างนาน"ทักษิณ" 

 

จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เหมือนว่าการที่พรรคการเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงอันท่วมล้ม จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้อย่างครั้งอดีต คงไม่ง่ายนัก เพราะด้วยปัจจัย เงื่อนไขทางการเมืองได้เปลี่ยนไป โอกาสที่จะกลับมามีอำนาจจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้นอยู่ในสภาพที่เป็นรองเพราะการสรรหานายกฯหลังการเลือกตั้งจะต้องใช้เสียงของสมาชิกรัฐสภาคือ สส. 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 250 คน รวมกันให้ได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภาคือ 375 เสียงขึ้นไป โดยสว. 250 คน มาจากการสรรหาโดยคสช.ทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

 อีกทั้งด้วยระบบเลือกตั้งแบบใหม่ "สัดส่วนผสม" ที่ทุกคะแนนเสียงมีค่าในการคำนวณ สส.ที่แต่ละพรรคจะได้รับทำให้พรรคใหญ่จะได้สส.น้อยลงโดยจะถูกเฉลี่ยไปให้พรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก ตลอดจนกติกาใหม่ที่กำหนดเพดานจำนวนสส.ของพรรคการเมืองใหญ่ ไม่ให้มีการผูกขาดเหมือนในอดีต

 

หรือการจะหันไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์  คงเป็นไปไม่ได้ในตอน นี้ เนื่องจากอุดมการณ์ของพรรคการเมืองไม่ตรงกัน ตราบเท่าที่ยังไม่ก้าวพ้นจากเงาของครอบครัวชินวัตร ก็คงเป็นไปไม่ได้ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า

 

“สมมติเพื่อไทยเขาบอก 2+2 เท่ากับ 4 ผมบอกอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ผมต้องไปหาคำตอบอื่นหรือเปล่า – มันก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นถ้าบางเรื่องมันจะพูดตรงกัน ไม่ได้แปลว่าจะไปรวมกัน หรือจะไปร่วมกัน ก็เป็นเพียงแต่ว่าความเห็นในเรื่องนั้นมันตรงกันเท่านั้นเอง”

ด้วยปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ จึงชี้ได้ว่า โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะกับมาเป็นรัฐบาลเรียกได้ว่าปิดประตูตายได้เลย ดังนั้นสิ่งที่น่าจับตาต่อไปก็คือใครจะมาเป็น ‘หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่’ แต่ไม่ใช่เพื่อเตรียมตัวในการรับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี  แต่เพื่อเตรียมตัว เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในฐานนะหัวหน้าพรรคฝ่าย

 

โดยก่อนหน้านี้มีข่าวร่ำลือกันมาตลอดว่า มีการวางตัว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะเป็นผู้นำทัพทำศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป ด้วยคุณวฒิ วัยวุฒิ บารมี และทุน ถือว่าเป็นช่วงปีที่คุณหญิงสุดารัตน์พรั่งพร้อมที่สุด  อดีตเคยเป็นคนที่ชักนำนาย ทักษิณ  เข้าสู่การเมืองเพื่อมานั่งเก้าอี้รมว.ต่างประเทศในโควต้าพรรคพลังธรรม จากนั้นก็เป็น 1ใน 23 แกนนำตั้งพรรคไทยรักไทยพร้อมกับทักษิณ   เพราะฉะนั้นเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจแทบจะเรียกว่ามองตาก็รู้ใจ แถมยังมีจุดเด่นเรื่องบารมี ความเฉลียวฉลาด และคอนเนกชั่นที่สุดารัตน์มีครบ เพราะรู้จักทุกกลุ่ม ไปได้ทุกมุ้ง   แต่กลับมาตกม้าตาย กรณีขึ้นท้ายรถกระบะ ที่ใช้สำหรับหาเสียง พร้อมป้ายชื่อตัวเบ่อริ้ม นำดอกดาวเรืองไปวางเพื่อถวายความอาลัยแด่ในหลวง ร.9  

 

 ในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ คงจะไปไม่รอด เดินต่อไปไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมาเจอปัญหาภายในก็ว่าหนักแล้ว มาเจอปัญหาภายนอกอีก คงไปต่อลำบาก อีกทั้งความไม่ลงรอยกับทาง ด้าน "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์"  น้องสาวนายทักษิณ ที่มีเสียงเหล่าอ้างพูดอยู่เสมอว่าผู้นำพรรคไม่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์  อีกทั้งด้วยบุคคลิกจากบทนิ่มๆของคุณหญิงสุดารัตน์ อาจไม่ตอบโจทย์ใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นหมายความว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่อาจจะไม่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์อีกต่อไป

 

  แต่หวยจะไปออกที่ใครนั้น ณ.ตอนนี้ มองไม่เห็นใคร นอกจาก "วัฒนา เมืองสุข" กระบอกเสียง นักรบ สายล่อฟ้า คนสำคัญพรรคของพรรคเพื่อไทย  นายวัฒนา มีความสนิทสนมกับนายทักษิณเป็นอย่างมาก และมักจะบินไปพบนายทักษิณอยู่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะไปพบที่ใกล้ๆอย่างสิงคโปร์ หรือไกลๆอย่างสหรัฐอเมริกา

 

 อีกทั้งความสามาถพิเศษ ประจำตัวของนายวัฒนา ซึ่งไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ เรื่องใด ที่เป็นกระแสสังคม ณ เวลานั้นๆ นายวัฒนา ผู้นี้ มักมีความสามารถพิเศษ กระโดดงับ เชื่อมโยง สร้างวาทะกรรม หวนกลับมาโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาล และคสช. ได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

จากนี้ไปต้องจับตาดูว่านายทักษิณ ชินวัตร จะเลือกใครขึ้นมานำทัพในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมีความเป็นไปได้อย่างสูง ที่หวยงวดนี้จะตกที่นายวัฒนา ไม่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์อีกต่อไป!!!