จับตา”พรรคสุเทพ” นอกเหนือจาก อดีต 8 แกนนำกปปส. ลุ้น”ยะใส”โผล่ร่วมเสริมทัพ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

   บรรยากาศกลุ่มการเมืองช่วงนี้เรียกได้ว่าคึกคักเป็นพิเศษ เพราะใกล้ถึงเวลาให้กลุ่มการเมือง จดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองได้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มี.ค.  เริ่มปลดล็อกการเปิดรับจัดตั้งพรรคการเมือง พร้อมดำเนินการทันที และบางกลุ่มก็มีชื่อแคนดิเดตว่าที่ “นายกรัฐมนตรี” ไว้แล้วด้วย

   กลุ่มการเมืองที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ เบอร์หนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้เลย คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  แกนนำกลุ่ม กปปส. มีแนวโน้มจะตั้งพรรคใหม่แน่ๆ   แต่ไม่แปลกหรอกเพราะสุเทพประกาศมาตลอดว่าจะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ได้เป็นนายกอีกครั้ง หลังเลือกตั้ง และคาดว่าจะใช้ชื่อพรรค คือ "มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ" ในความเคลื่อนไหวทางการเมืองตอนนี้ ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของ ของอดีต 8 แกนนำ กปปส กลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยปักหลักร่วมเป็นร่วมตาย ทุกฉาก-ทุกช็อตที่เกิดขึ้นตลอดระยะกว่า 204 วัน ในการต่อสู้คัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดการชุมนุมทางการเมือง หรือที่เรียกว่า“นิรโทษกรรมสุดซอย” เพราะได้รับการต่อต้านจากภาคประชาสังคมอย่างกว้างขวางและถือเป็นการชุมนุมทางการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ ใหญ่ที่สุดในวงการการเมืองไทย

   โดยแกนนำพรรคปชป.และอดีตส.ส.ทั้ง 8 คน ประกอบด้วย
นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา 
นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง 
นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช 
นายชุมพล จุลใสอดีต ส.ส.ชุมพร 
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์  อดีตส.ส.กทม.
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตส.ส.กทม.
 และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตส.ส.กทม.

   เมื่อวันที่30 พ.ค. 60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับทั้ง8แกนนำ หลังนำทัพ แกนนำ กปปส. กลับสู่พรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง ในรอบ 4 ปี หลังจากได้ลาออกจากพรรคไปเมื่อช่วงปลายปี 2556

 นายวิทยา แก้วภราดัย พร้อมเหล่าทัพแกนนำ กปปส. และ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศพร้อมลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. อีกครั้ง ต่อหน้าสื่อมวลชน โดย นายวิทยา ได้กล่าวอีกว่า พวกตนไม่เคยมีใครลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เรายังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ และไม่เคยมีใครไปอยู่พรรคอื่น จะให้ไปอยู่ที่ไหน เราอยู่พรรคนี้มาตั้งแต่แรก อยู่มานานมากกว่าคนที่กีดกันพวกตนเสียอีก

การกลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ของอดีตแกนนำ กปปส. เพื่อสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค ชิงตำแหน่งนายกฯ อีกสมัย  แน่นอนว่าขัดแย่งกับแนวทางของนายสุเทพที่ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด

   นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวของอดีต 8 แกนนำกปปส. กลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และหันมาเข้ารวมจัดพรรคใหม่ กับนายสุเทพหรือไม่ อีกด้านหนึ่งได้มีรายงานข่าวว่า นายสุทพ อาจจะร่วมมือกับ นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งทั้งสองมีหลักการที่คล้ายคลึงกัน คือสนับสนุนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

   ดร.สุริยะใส กตะศิลา เป็นรองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต, และเป็นผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย

ในระหว่างปี พ.ศ. 2548-2552 สุริยะใสเป็นหนึ่งในแกนนำและเป็นผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ต่อมาได้เข้าเป็นเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ก่อนจะลาออกจากพรรคเนื่องจากมีความขัดแย้งภายในพรรค

ในช่วงวิกฤตการณ์การเมือง พ.ศ. 2556-2557 สุริยะใสมีบทบาทเป็นแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) 

หากย้อนไป ในช่วงการชุมนุมกปปส เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยแกนนำ กปปส.ได้เดินทางถึงเวทีการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำ คปท. กล่าวต้อนรับบนเวที

บรรยากาศการเดินขบวนครั้งนี้เป็นไปอย่างเร่งรีบ โดยการ์ดที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามเร่งให้ขบวนเดินเร็ว เคลื่อนขบวนผ่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผ่านแยกยมราช เข้าถนนพิษณุโลก ผ่านแยกนางเลิ้ง เข้าถนนนครสวรรค์ และเลี้ยวเชิงสะพานเทวกรรม เข้าถนนลูกหลวง เดินขบวนผ่านด้านข้างของทำเนียบรัฐบาล และเลี้ยวเข้าสู่ถนนราชดำเนินนอก ด้านหลังทำเนียบฯ ซึ่งขณะที่ขบวนของนายสุเทพเคลื่อนผ่านการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ได้มีมวลชนจาก กปท.ออกมารอต้อนรับขบวนอย่างคึกคัก รวมทั้ง ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ แกนนำ กปท.ที่ออกมาต้อนรับและสวมกอดกับนายสุเทพ

ภายหลังจากวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 ศาลอาญาอนุมัติหมายจับสุริยะใส ผู้ต้องหาคดีกบฏและความผิดอื่น โดยระบุให้สุริยะใสพร้อม 12 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชดใช้เงินรวมจำนวน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ย ให้กับบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน) คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรณีการบุกยึดท่าอากาศยานในประเทศไทย พ.ศ. 2551

   น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ของนายสุเทพในครั้งนี้ ว่าอดีต8แกนนำที่เดินกลับเข้าพรรคไปแล้วนั้น จะหันหลังกลับมาร่วมกับนายสุเทพหรือไม่ หากกลับมาร่วมและมีนายสุริยะใส ซึ่งสามารถประสานกลับกลุ่มพลังสังคมต่างๆได้ น่าจะทำให้มีความแข็งเกร่ง เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

แต่หาก8แกนน ยังยืนหยัดที่จะอยุ่เคียงข้างพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงเป็นคำถามเหมือนกันว่า พรรคนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน