ปอกเปลือก"ไพร่หมื่นล้าน"?! คนรู้ทันต่างรู้"ธนาธร"ไม่มีอะไรใหม่-เขาอยู่ในสมการขัดแย้งสีเสื้อมาตลอด แถมอาจไม่ยี่หระหากเสื้อแดงกระทำรุนแรง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ปอกเปลือก"ไพร่หมื่นล้าน"?! คนรู้ทันต่างรู้"ธนาธร"ไม่มีอะไรใหม่-เขาอยู่ในสมการขัดแย้งสีเสื้อมาตลอด แถมไม่ยี่หระหากเสื้อแดงจะกระทำรุนแรงไปบ้างจากการชุมนุม


เรื่องนี้สะท้อนชัดผ่านคำพูดของเขาเอง เมื่อครั้งให้สัมภาษณ์สื่อใหญ่สำนักหนึ่ง (มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16-22 เม.ย.2553) ช่วงปลายเดือนเมษายน 2553 ซึ่งเป็นห้วงยามเดียวกับที่คนเสื้อแดงชุมนุมใหญ่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ก่อนจบลงด้วยการเผาบ้านเผาเมืองจริงตามที่แกนนำยุยง ทั้งในเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองใหญ่ ๆ ทางภาคอีสานทั้ง อุบลฯ อุดรฯ ขอนแก่น และมุกดาหาร

 

โดยการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อใหญ่ในคราวนั้น "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เปิดตัวชัดเจนว่า เขาสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยไม่ได้แสดงท่าทีกังขากับวิธีการถ่อยสถุลที่ไม่ต่างจากอันธพาลและพฤติกรรมเผาบ้านเผาเมืองของผู้ชุมนุมกลุ่มนี้แต่อย่างใด อีกทั้งยังสนับสนุนแนวคิดโค่น "อำมาตย์" ด้วยเห็นว่าเป็นตัวการที่ทำให้ระบบทุนนิยมของไทยไม่สามารถก้าวต่อไปได้
       

“ผมทำธุรกิจหลายหมื่นล้าน วันนี้ผมก็เป็นไพร่ คำว่าไพร่และอำมาตย์ วันนี้มันกลับมามีความหมายอีกครั้งทำไมเราถึงต้องสนับสนุนเสื้อแดง ผมคิดว่าดูที่ข้อเสนอคำว่าไพร่กับอำมาตย์ มันเป็นคีย์เวิร์ด อะไรคือความหมายของคำว่าอำมาตย์ ผมคิดว่าความหมายของอำมาตย์ มันไม่ใช่ข้าราชการอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ผมคิดว่าถ้าจะนิยามให้ถูกว่าอำมาตย์ในภาวะปัจจุบันคืออะไร ผมคิดว่าคือคนที่มีอำนาจ และไม่ถูกตรวจสอบ คนที่มีอำนาจ และไม่มีกลไก check and balance และในสังคมประชาธิปไตย อำนาจมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ณ วันนี้คนกลุ่มหนึ่งในสังคมไทย มีอำนาจและปราศจากความรับผิดชอบใด ๆ มีคนที่มีอำนาจและไม่ถูกตรวจสอบ ปัญหาคือ ถ้าเสื้อแดงกลับมาแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ จัดวางระบบสังคมใหม่ เอาอำมาตย์ เอาทหารออกไป ผมคิดว่าคนกลุ่มนี้ไม่ยอม” ธนาธรให้สัมภาษณ์กับฉบับดังกล่าว (ที่มา :  ผู้จัดการรายวัน 24 เมษายน 2553 09:12 น.)

คำสัมภาษณ์ของธนาธร แจ่มชัดในตัวเองอยู่แล้วว่า เขาอยู่ในสมการขัดแย้งของศึกสีเสื้อมาโดยตลอด และคำพูดไม่ได้มีอะไรใหม่ไปกว่าคำปลุกระดมของ "แกนนำแดงบนเวที" ที่กุเรื่อง "ไพร่-อำมาตย์" มาหลอกมวลชนของตนให้ออกมาชุมนุมบนท้องถนน เพื่อโค่นรัฐบาลที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบทักษิณที่ตนสังกัดอยู่ และเอาเข้าจริง "อำมาตยธิปไตย" ที่แกนนำแดง รวมทั้งธนาธรเอ่ยอ้างนั้น...ก็ไม่มีอยู่จริง...นั่นเป็นแค่การกุเรื่องตบตามวลชน...ให้มาออกมาสู้บนท้องถนน...โดยไม่กล้าอ้างว่า "สู้เพื่อทักษิณตรง ๆ เท่านั้น" (เพราะเกรงว่า...การต่อสู้ของเสื้อแดงจะไม่มีความชอบธรรม...ซึ่งจริง ๆ เกือบร้อยทั้งร้อยก็เป็นเช่นนั้น...เรื่องนี้ศาลฯ ชี้ขาดหลายครั้ง-ผู้เขียน)

ยิ่งบวกรวมเข้ากับการให้สัมภาษณ์ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ The101.world เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 มี.ค.2561 หรือเมื่อ 2 - 3 วันก่อนที่กระแสตั้งพรรคของเขาที่ว่ากันว่าจะแตะมือกับ "ปิยบุตร แสงกนกกุล“ อาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขึ้นสูง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับคดีของ "นายทักษิณ ชินวัตร" ที่ราคาคาซังอยู่หลายคดี้เหตุที่เจ้าตัวผู้ต้องหาหลบหนีคดีไปก่อน

โดยในวันนั้น ธนาธร เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า เกี่ยวกับคดีของนายทักษิณ "ตนคงช่วยอะไรเฉพาะส่วนไม่ได้ แต่หากเป็นประเด็นเรื่องความชอบธรรมทางคดี ผมอาจจะทำได้ในกรณีที่บางคดีซึ่งถูกจัดการผ่านเป้าหมายทางการเมือง ต้องกลับมาพิจารณาใหม่ ผ่านกระบวนการทางศาลที่ยุติธรรมส่วนผลจะเป็นอย่างไร...เขาระบุตนเองคงไม่สามารถทำอะไรได้

"และหากมองถึงจุดความยุติธรรมนั้นคงไม่เฉพาะคุณทักษิณเท่านั้น เพราะยังมีประชาชนที่ร่วมชุมนุมทั้งกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดงที่ถูกคดีเพราะแค่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง" ธราธร ระบุ


น่าสนใจว่า คำตอบของธนาธรไม่ต่างอะไรกับแนวคิดของลิ่วล้อทักษิณบนเวทีเสื้อแดงเลยสักนิด เพราะทั้งหลายทั้งปวงนั่น...ก็ไม่พ้นว่า...ทักษิณถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง คดีต่าง ๆ ของทักษิณเป็นคดีการเมือง และแกนนำเสื้อแดงเหล่านั้น...ก็เคยเสนอให้ทักษิณกลับมา แล้วเริ่มต่อสู้คดีใหม่ ทั้งที่คดีของทักษิณนั้นเป็นคดีทุจริต...ใช้อำนาจอันมิชอบจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี...และหากเทียบดูกับคำพูดของ "ธนาธร" ก็แทบจะเป็นประโยคเดียวกัน


...เช่นนี้เองหลายฝ่ายจึงกล่าวว่า "พรรคคนรุ่นใหม่" ที่กำลังเป็นกระแสนั้น...ดีไม่ดี...อาจเป็นแค่อีกสาขาหนึ่งของพรรคนายใหญ่ แม้เจ้าตัวผู้ก่อตั้งจะยืนยันว่า พวกเขาไม่ใช่นอมินีใคร...แต่ในความเป็นจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ...เพราะบริบทแวดล้อม รวมทั้งคำสัมภาษณ์มันล้วนแต่พุ่งตรงไปทางนั้น


ไม่นับสายสัมพันธ์ที่โยงใยมาจากยุค "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ผู้เป็นอาแท้ ๆ ของเขา...ที่มีตำแหน่งใหญ่โตในพรรคไทยรักไทย...และด่งพร้อยสุดขีดกับคดี CTX 9000 นั่นยิ่งเป็นภาพสะท้อนที่สลัดหลุดได้ยากยิ่ง

 

เหนืออื่นใดคือ มีกระแสข่าวพูดกันหนาหูว่า ที่ทำการของ "พรรคไพร่หมื่นล้าน" นั้น ที่แท้คือที่ทำการเก่าของพรรค "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งหากเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง...ย้ำ....ที่ร่ำลือกันจริง เรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายใด ๆ ให้เปลืองน้ำลายอีกว่า... "พรรคไพร่หมื่นล้าน"  ที่อุปโลกน์ตัวเองว่าเป็น...พรรคที่ไม่มีเจ้าของ เป็นพรรคที่เป็นประชาธิปไตยในทุกระดับ เน้นการกระจายอำนาจ สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มีบทบาท ฯลฯ นั้น เกี่ยวดองหนองยุ่งแค่ไหนกับพรรคทักษิณ...เรื่องนี้ต่อให้ไม่ใช่คนหลักแหลม...ยังมองออก