ใจกว้าง?! "อ.สุวินัย" ชวนคิดปมพรรคคนรุ่นใหม่ ระบุ"เพื่อเป็นทางเลือกที่ 3" แม้จะอยู่ต่างขั้ว ฟันธงหากพรรค กปปส.ไม่เกิด-ธราธรอาจมาที่ 3

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

ดูเหมือนกระแสการตั้งพรรคของคนรุ่นใหม่ของคนบางกลุ่มจะยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในวงกว้าง...ว่าแท้จริงใหม่แค่ไหน...ใหม่ยังไง...เป็นนอมินีของใครหรือไม่ ล่าสุด นักวิชาการอย่าง "อ.สุวินัย ภรณวลัย" ซึ่งประกาศตัวชัดเจนว่า ต่อต้านทุนสามานย์มาแต่ไหนแต่ไร ได้แสดงความใจกว้าง ออกมาชวนขบคิดประเด็นนี้ แม้คนก่อตั้งพรรคใหม่อาจจะอยู่อีกปีกหนึ่ง และมีจุดยืนทางการเมืองต่างกับตนก็ตาม โดย อ.สุวินัยให้ความเห็นต่อกรณีนี้ว่า "เผื่อว่าจะมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงเอาไปสร้าง พรรค"การเมืองแห่งอนาคต" (Party of Politics of Tomorrow : PPTหรือ พกอ.) เพื่อเป็นทางเลือกที่สามให้แก่ประเทศนี้" โดยรายละเอียดที่  "อ.สุวินัย" ระบุไว้ คือ

 

ความคิดของประเทศกับวิชั่น "การเมืองแห่งอนาคต" / สุวินัย ภรณวลัย

#พรรคการเมืองแห่งอนาคต "ผมเคยพยายามตัดแต่งชีวิตให้เป็นไปตามคำจำกัดความที่ตนเองยึดมั่น ...ผมยอมสู้ทนกับทัณฑ์ทรมานและยินดีทะเลาะกับโลกทั้งโลกเพียงเพื่อรักษาตัวตนให้เป็นไปตามที่จิตนาการเอาไว้ ... สุดท้ายผมพบว่าความเป็นจริงของชีวิตมีรายละเอียดซับซ้อนเกินกว่าจะถูกคุมขังไว้ในนิยามเหล่านั้น

แน่ละ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกจากโลกที่เราบัญญัติขึ้น และยิ่งยากกว่านั้นอีกที่จะตื่นรู้ในลักษณะสุญตาของสิ่งต่างๆ" (เสกสรรค์ ประเสิรฐกุล "บุตรธิดาแห่งดวงดาว")

 

บทความชุดนี้ ผมอยากแลกเปลี่ยนกับพวกเราเกี่ยวกับ วิชั่นของการเมืองแห่งอนาคต เผื่อว่าจะมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงเอาไปสร้าง พรรค"การเมืองแห่งอนาคต" (Party of Politics of Tomorrow : PPTหรือ พกอ.) เพื่อเป็นทางเลือกที่สามให้แก่ประเทศนี้ ผมตระหนักดีว่าในตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามเสนอความคิดที่สร้างสรรค์เพื่อผลักดัน "การเมืองแห่งอนาคต"สู่สังคมนี้

พวกเขาเหล่านั้นจะถูกเพ่งเล็งระแวงสงสัยทันที "การเมืองแห่งความระแวงเกลียดชัง"ปกคลุมจิตใจของผู้คนในประเทศมานานหลายปีแล้ว ท่ามกลางความแตกแยกทางความคิดและความเกลียดชังอีกฝ่าย บ่อยครั้งแค่ในกันในโลกโซเชียลมีเดียที่พวกเขาถูกก่นด่า โดยที่เนื้อหาของการก่นด่า (hate speech) มุ่งไปที่ตัวตนของผู้นั้นมากกว่าสาระความคิดที่ผู้นั้นนำเสนอ (ที่ผ่านมาตัวผมเองโดนก่นด่าว่าเป็นศิษย์เปรตกู้เสมอทั้งจากพวกเหลืองแก่และพวกลิเบอร่าน)

มันเป็นเรื่องน่าอดสูใจที่การวิจารณ์ของผู้คนจำนวนไม่น้อยในสังคมโซเชียลยังมุ่งด่าทออีกฝ่ายมากกว่าโต้เถียงทางความคิด ที่แย่ไปกว่านั้นคือก่นด่าโดยไม่เคยอ่านข้อเขียนของคนที่ถูกก่นด่าอย่างจริงจังเลยด้วยซ้ำ โดยส่วนตัว ผมคิดว่าความคิดของอาจารย์เสกสรรค์สามารถเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้กับการสร้าง"การเมืองแห่งอนาคต"หลังจากนี้ได้ ดังที่อาจารย์ประจักษ์ ก้องกีรติได้สรุปแก่นความคิดที่ตกผลึกแล้วของอาจารย์เสกสรรค์ในเรื่องความจำเป็นในการสร้างฉันทามติและบูรณาการทางการเมืองขึ้นมาใหม่เพื่อกอบกู้สังคมไทยให้ออกจากบ่วงของวิกฤตความขัดแย้งดังต่อไปนี้ ...


ประเด็นหลักแห่งยุคสมัยไม่ได้อยู่ที่ทำให้คนไทยทั้งหมดหรือส่วนใหญ่คิดเห็นตรงกันในทุกเรื่อง หากแต่อยู่ที่การสร้างระบบการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมืองที่มีพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับความแตกต่างทั้งปวง และมีกระบวนการทำงานในระบบที่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดทั้งมีจรรยาวัตรและจรรยาบรรณในการอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และศานติ (เสกสรรค์ ประเสริบฐกุล)


 .... แต่การจะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกตัวว่าตัวเองมีพื้นที่และตัวเองได้รับความเป็นธรรม นั่นหมายถึง การเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้ผู้คนหลากหลายกลุ่มมีสิทธิและเสรีภาพในการต่อรอง ร้องทุกข์ และประกาศความฝันของพวกเขา รวมทั้งการปรับเปลี่ยนสัมพันธภาพทางอำนาจ ระหว่างรัฐกับประชาชนเสียใหม่ (ประจักษ์ ก้องกีรติ) ถือว่านี่เป็นบทความโหมโรงสำหรับซีรีส์ "ความคิดของประเทศกับวิชั่นการเมืองแห่งอนาคต"ของผมนะครับ ถ้าคนรุ่นใหม่จะสร้างพรรคการเมืองเพื่อเป็นทางเลือกที่สามให้แก่ประเทศนี้ จงตั้งชื่อพรรคนี้ว่า พรรค "การเมืองแห่งอนาคต" เถิด

#พรรคการเมืองแห่งอนาคต

 

ใจกว้าง?! "อ.สุวินัย" ชวนคิดปมพรรคคนรุ่นใหม่ ระบุ"เพื่อเป็นทางเลือกที่ 3" แม้จะอยู่ต่างขั้ว ฟันธงหากพรรค กปปส.ไม่เกิด-ธราธรอาจมาที่ 3

 

อย่างไรก็ตาม หลัง "อ.สุวินัย"  โพสต์ข้อความออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความเห็น โดยระบุทำนอง "ผมคงไม่ให้โอกาสเขาครับอาจารย์ อ่านแล้วยังไงก็ไม่ใช่"

 

โดย อ.สุวินัย ก็ได้ไขข้อข้องใจประเด็นนี้อีกครั้งว่า

ความจำเป็นและความชอบธรรมของ กปปส.ในการตั้งพรรคการเมืองมาแข่งกับพรรคทางเลือกใหม่ของธนาธรเพื่อผลักดัน "การเมืองแห่งอนาคต" / สุวินัย ภรณวลัย

ผมเห็นด้วยกับความเห็นในเรื่องนี้ของอาจารย์ไพศาล พืชมงคลนะครับที่กล่าวว่า

" กปปส มีสิทธิและความชอบธรรมอย่างเต็มเปี่ยมในการที่จะตั้งพรรคการเมืองเพราะการออกมาต่อสู้ของประชาชน ในเหตุการณ์ กปปส นั้นก็เพราะมีอุดมการณ์ที่จะขับไล่รัฐบาลทุนสามานย์ และเพื่อการปฏิรูปประเทศ ดังนั้นตราบใดที่มีเหตุปัจจัยดังกล่าวอยู่ กปปส ก็ต้องดำเนินภารกิจต่อไป
การตั้งพรรคการเมืองเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่ง
ผมติงท่านสุเทพไม่ให้เป็นผู้บริหารพรรค ก็เพื่อถนอมท่านสุเทพไว้ด้วยการดำรงความสัตย์ ที่ให้ไว้กับประชาชน
ซึ่งผมก็หวังให้ท่านสุเทพยังต้องทำภาระกิจต่อไป และสามารถดูตัวอย่างท่านเติ้งเสี่ยวผิงได้" (ไพศาล พืชมงคล)

พรรคกปปส. ควรชัดเจนว่า ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาเพื่อแค่ชูลุงตู่เป็นนายกฯต่อไปเท่านั้น ถ้าทำได้แค่นี้มันจะไม่มีพลวัติมากพอที่จะผลักดัน "การเมืองแห่งอนาคต"ให้กับประเทศนี้
แต่พรรคกปปส. นี้ควรเป็นพรรคของปัญญาชน ที่สามารถต่อกรทางความคิดกับพรรคทางเลือกใหม่ของธนาธรได้อย่างสมน้ำสมเนื้อต่างหาก ถึงจะเป็นมวยที่ถูกคู่

ตัวผมเองให้โอกาสและให้กำลังใจธนาธรสร้างพรรคทางเลือกใหม่ให้สำเร็จ ก็เพราะหวังว่าการผุดขึ้นมาของพรรคธนาธร จะทำให้เกิด พรรคกปปส.ตามขึ้นมาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีวันผลักดัน "การเมืองแห่งอนาคต"ได้เป็นอันขาด

พร้อมระบุทิ้งท้ายว่า "ถัาพรรคกปปส.ไม่เกิดเพื่อผลักดันการเมืองแห่งอนาคต" คนรุ่นใหม่จะไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกจาก พรรคใหม่ของธนาธร  ถ้าพวกเราอ่านตรงนี้ไม่ขาด พรรคใหม่ของธนาธรมาอันดับที่สามแน่ และจะเกิดวิกฤต 2475ยุคดิจิตัลอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก"

ใจกว้าง?! "อ.สุวินัย" ชวนคิดปมพรรคคนรุ่นใหม่ ระบุ"เพื่อเป็นทางเลือกที่ 3" แม้จะอยู่ต่างขั้ว ฟันธงหากพรรค กปปส.ไม่เกิด-ธราธรอาจมาที่ 3

ขอบคุณพิเศษข้อเขียนทั้งมหดของ : "อ.สุวินัย ภรณวลัย"